ตอนที่ 10
“ไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์ของความเป็นไปได้ เราก็ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ไม่แน่สายลับพวกนี้อาจเดินทางมาตามแผนการใหญ่ของวังเฟยหลงก็ได้”
“พอจะทราบหรือยังครับว่าพวกนี้จะเดินทางมาด้วยวิธีไหน”
“ยังไม่มีข้อมูล เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงอยากให้คุณตามเรื่องนี้ต่อ”
“ด้วยความยินดีครับท่าน”
รับปากผู้บังคับบัญชาแล้ว เชิดวุธสั่งลูกทีมให้ช่วยกันตรวจสอบไปตามช่องทางที่คาดว่าพวกสายลับรับจ้างจะมา เป็นเวลาเดียวกับศรศิลป์และแจ๊สมินต่างก็คาดคะเนเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน
“คุณว่าพวกนั้นจะเข้ามาทางไหนกัน”
“ยังไม่แน่ใจ แต่มีอยู่อีกเส้นทางนึงที่พวกพรายดำชอบใช้”
“ทางไหนเหรอ”
“ทางน้ำ แต่แทนที่จะใช้เรือลำเดียวตลอดเส้นทาง คนของพรายดำจะเปลี่ยนเรือไปเรื่อยๆ จนยากที่จะตรวจจับการลักลอบเข้ามาได้”
“แล้วจากเรือล่ะ”
“มีท่าเรือหนึ่งที่พรายดำใช้ขนถ่ายสินค้าผิดกฎหมาย ดูจากความเป็นไปได้ก็น่าจะเป็นที่นี่แหละ”
ข้อมูลของแจ๊สมินน่าสนใจมาก...แล้วหลังจากนั้นไม่นานแผนที่ท่าเรือแห่งนั้นก็ถูกส่งไปให้เชิดวุธ
โดยพราน จอมภูต แน่นอนว่าพวกเชิดวุธไม่รีรอที่จะมุ่งหน้าไปตามแผนที่ ซึ่งเป็นเวลาที่สายลับรับจ้างสามคนมาถึงท่าเรือพอดี
เชิดวุธ เชษฐ์ รุ้ง และเฉียบเผชิญหน้ากับสายลับทั้งสามที่มาในคราบนักท่องเที่ยว แต่พวกมันไหวตัวจึงจะเล่นงานรุ้งก่อน เชิดวุธเลยต้องแสดงตัวเพื่อจับกุม โดยมีพรานร่วมตะลุมบอนด้วย เดชากับสมุนจอดรถจับตามองอยู่ห่างๆ เห็นดังนั้นจึงโยนระเบิดลูกหนึ่งไปตรงจุดเกิดเหตุ
ทั้งกลุ่มแตกกระจายหลบระเบิดกันชุลมุน พวกสายลับฉวยโอกาสโดดขึ้นรถไปกับเดชา ส่วนพรานก็หายไปกับรถที่แจ๊สมินโฉบมารับ พวกเชิดวุธเลยจับใครไม่ได้สักคนเดียว
พรานเปลี่ยนมาเป็นคนขับแล้วให้แจ๊สมินคอยบอกพิกัดเส้นทางเพื่อติดตามพวกพรายดำไป ซึ่งก่อนหน้านี้แจ๊สมินได้ยิงเครื่องติดตามลักษณะคล้ายหัวนอตไปติดที่รถของเดชาอย่างเหนียวแน่น แต่ตามได้พักเดียวสัญญาณจีพีเอสก็หยุดไปเฉยๆ
“หรือว่าพวกนั้นจะหยุดเปลี่ยนรถ” แจ๊สมินคาดเดา
“ตอนนี้ตำแหน่งรถอยู่ที่ไหน”
“ข้างหน้าเรานี่แหละ”
ไม่ไกลจากจุดนั้นนัก รถเดชาจอดอยู่ที่เชิงสะพาน พรานเคลื่อนรถใกล้เข้ามาอีกนิดก็เห็นชัดแจ๋ว
“นั่นไง”
“ผมว่ามีอะไรแปลกๆแล้วล่ะ”
พรานชะลอรถเข้าข้างทางแล้วบอกแจ๊สมินให้รออยู่ตรงนี้
“ได้ ฉันจะคอยระวังหลังให้เอง”
พรานถือปืนลงจากรถเดินไปที่รถเดชา โดยที่แจ๊สมินลงมาถือปืนยืนข้างรถ สายตาจับจ้องไปที่พราน ปรากฏว่าในรถไม่มีใครสักคน แต่จู่ๆ เดชาก็โผล่มาข้างหลังพราน ถามกวนๆว่ามองหาใครอยู่เหรอ
“มองหาแกนั่นแหละ”










