สมาชิก

มือปราบเหยี่ยวดำ

ตอนที่ 14

บรรดลมาร่วมประชุมกับทีมล่าตี๋ใหญ่ที่กองปราบฯ กระตือรือร้นมากเพราะไม่ได้ออกภาคสนามมานาน สมศักดิ์เข้าใจความรู้สึกอดีตลูกทีม รีบเล่าสถานการณ์ล่าสุดว่ากำลังพยายามดึงตัวประทีปมาช่วย

“ประทีป...ผมเคยเจอกับมันมาแล้ว”

“เพราะอย่างนี้ไง พี่ถึงอยากให้ดลกลับมาทำงานนี้ด้วยกัน”

“พี่จะให้ผมทำอะไรเหรอครับ”

“เข้าไปตีสนิทกับมัน แล้วกล่อมมันให้ยอมเป็นสายให้เรา”

จ่ายะมาประชุมด้วย อดบ่นไม่ได้ว่าประทีปคุยยาก เล่นตัวจนอ่อนใจ บรรดลรับฟังด้วยสีหน้านิ่งสงบ รู้จักนิสัยประทีปดีเพราะเคยเที่ยวด้วยหลายหน ก่อนตัดสินใจตอบรับภารกิจ

สมศักดิ์ยินดีมาก แต่ไม่วายเตือนอดีตลูกทีมให้ระวังตัว “คงไม่ต้องบอกนะดลว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน เพราะเสือเก่าอย่างประทีป เขี้ยวเล็บยังถอดไม่หมด มันอาจทำอะไรที่เรานึกไม่ถึงก็ได้”

“ผมรับทำงานนี้ครับ”

“ไม่ต้องรีบตอบก็ได้นะดล คิดให้ดีๆก่อน”

“ผมตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าต้องเสี่ยงหรือยากลำบากแค่ไหน ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อจับตัวตี๋ใหญ่ให้ได้!”

อุดมดีใจมากเมื่อได้ยินว่าเพื่อนรักกลับมาทำงานด้วย บรรดลพยักหน้ารับยิ้มๆ

“ฉันคิดไว้นานแล้วล่ะว่าอยากกลับมาลุยงานนี้ต่อ ไม่อย่างงั้นทั้งชีวิตคงมีเรื่องนี้ติดค้างคาใจ”

“แล้วนี่แกจะบอกเมียแกยังไงวะที่ต้องกลับเข้าไปแฝงตัว เสี่ยงตายอีกครั้งแบบเนี่ย”

“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันเชื่อว่าวรรณต้องเข้าใจ”

“เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ แต่จะทำใจได้หรือเปล่าอีกเรื่องนึงนะเว้ย”

บรรดลอึ้งไปอึดใจ ลืมคิดเรื่องนี้สนิท แต่ยังพยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่านพวรรณต้องเข้าใจ...

ประทีปต้องคิดหนักเรื่องกลับไปร่วมงานกับตี๋ใหญ่ รวมทั้งข้อเสนอของพวกตำรวจ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจได้ ยอมร่วมมือกับตำรวจ และสิ่งแรกที่ต้องทำคือแกล้งตอบรับแผนงานของตี๋ใหญ่

บรรดลคิดได้เช่นเดียวกัน จึงกลับไปบอกนพวรรณถึงการตัดสินใจของตัวเอง

“ผมจะกลับไปร่วมทีมล่าตี๋ใหญ่”

นพวรรณชะงัก แต่ไม่นานก็ตั้งสติได้

“ถ้าคุณตัดสินใจดีแล้ว วรรณก็จะเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ”

“คุณไม่โกรธผมนะ”

“ไม่แม้แต่นิดเดียวค่ะ...วรรณรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญกับคุณมากแค่ไหน”

“ขอบคุณนะที่เข้าใจ ผมสัญญาว่าผมจะรักษาตัวเพื่อจะได้ดูแลคุณกับลูกต่อไป”

บรรดลเอื้อมไปจับมือภรรยาคนสวย ถ่ายทอดพลังงานความรักและกำลังใจที่จะมีให้กันตลอดไป...

ตี๋ใหญ่ย่ามใจเมื่อประทีปยอมร่วมปล้นด้วย แวะไปหาถึงบ้านและคุยเรื่องอดีต

“มึงจำได้หรือเปล่าวะทีป สมัยเด็กๆที่เราไปทำงานขนผักที่กรุงเทพฯ กินนอนอยู่ด้วยกันน่ะ”

ประทีปกระดกเหล้าเข้าปาก พยักหน้ารับ “จำได้สิวะ...ไปอยู่แรกๆมึงแหยชิบหาย แต่ไปๆมาๆมึงอย่างกะหมาบ้า ไอ้พวกจิ๊กโก๋แถวนั้นแม่งขยาดมึงกันหมด”

“คนเรามันต้องสู้เว้ย ไม่งั้นก็โดนข่มไปทั้งชาติ กูจำได้ กูกลับไปบ้านคราวนั้น แม่กูนี่งงเลยว่าทำไมกูดูเปลี่ยนไป แต่ตอนนั้นกูไม่รู้ตัวหรอกว่ากูเปลี่ยน มันเหมือนเข้าไปเรียนลัดวิชานักเลงน่ะโว้ย”

“อย่างมึงนี่ไม่แค่เรียนลัดหรอก กูว่าได้เกียรตินิยมเลยล่ะ ส่วนกูสิ...ขนาดจะเป็นนักเลง ยังเอาดีไม่ได้เลย กูเลยคิดว่าไม่เอาดีกว่า เลิกซะทีงานเสี่ยงๆ”

“แต่มึงก็ต้องใช้เงินนะโว้ย ยิ่งพอลูกมึงออกมาอีกคน มันจะพอเหรอวะกะไอ้งานที่ทำอยู่เนี่ย”

คำพูดแทงใจดำของตี๋ใหญ่ทำให้ประทีปลอบถอนใจ ตอบเสียงเศร้า

“ไม่พอก็ต้องพอ คนอย่างเราไม่มีสิทธิ์บ่นอะไรมากหรอก ฟ้ากำหนดมายังไง เราก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น”

“ไม่หรอก...เราต่างหากที่เป็นคนกำหนด ชีวิตเป็นของเราโว้ย!”

ตี๋ใหญ่กระตุ้นเพื่อนรักเต็มที่ ประทีปชั่งใจอย่างหนัก แม้จะตัดสินใจแล้วแต่ก็ต้องเสี่ยงมาก

“ตี๋...มึงจะเอาจริงเหรอวะเรื่องนั้นน่ะ”

“เอา...มึงเอาด้วยไหมล่ะ ทำอีกครั้งเดียว แล้วลูกเมียมึงจะได้สบาย”

“ทำไมต้องเป็นกูด้วยวะ”

“เพราะมึงเป็นเพื่อน กูไว้ใจว่ามึงจะไม่หักหลังกู!”

แม้จะเก็บตัวเงียบๆ ไม่ก่อคดีปล้นหลายเดือน แต่เรื่องราวของตี๋ใหญ่จอมโจรในตำนานก็ไม่เคยห่างหายจากความสนใจของประชาชน เนตรดาวก็เช่นกัน เกาะติดคดีของตี๋ใหญ่และรายงานสดทั่วประเทศ

“แม้เหตุการณ์การวิสามัญสมุนตี๋ใหญ่จะผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่กระแสสังคมยังคงจับตามองว่าตำรวจจะปฏิบัติการอย่างไรต่อไปเพื่อจัดการกับตี๋ใหญ่ผู้ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้า ซึ่งได้ก่อคดีท้าทายกฎหมายมานับครั้งไม่ถ้วน แม้ความสำเร็จครั้งนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนอีกครั้ง แต่การตามล่าตี๋ใหญ่ยังคงเป็นภารกิจสุดหินที่ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าตำรวจจะทำได้สำเร็จหรือไม่”

สมาชิกครอบครัวของตี๋ใหญ่รับฟังรายงานสดของเนตรดาวด้วยสีหน้าเป็นกังวล ไม่เว้นแม้แต่แตนกับป๋อง น้องสาวกับน้องชายของตี๋ใหญ่ที่มักไม่ค่อยยี่หระความเป็นไปของพี่ชายคนโตนัก จนกระทั่งวันหนึ่งตี๋ใหญ่แวะมาหาถึงบ้าน สองพี่น้องอยากให้เขาไปเยี่ยมพ่อแม่ แต่ตี๋ใหญ่ปฏิเสธเพราะแค่อยากมาดูลาดเลาตำรวจเท่านั้น...

บรรดลสวมรอยเป็นจงหลานชายอาเจ็กไปสมัครงานอู่แท็กซี่ ประทีปเห็นก็ระแวง แต่เมื่ออีกฝ่ายเล่าตรงกันเรื่องอาเจ็กย้ายไปอยู่กับญาติที่ชลบุรี เลยไม่ติดใจสงสัย แต่กระนั้นก็ยังไม่ไว้ใจนัก ตามประสาพวกมีชนักติดหลังเป็นอดีตโจรที่ตำรวจหมายหัวตลอดเวลา

ภารกิจแฝงตัวครั้งนี้เสี่ยงกว่าครั้งก่อน เพราะนอกจากบรรดลจะต้องทำให้ประทีปไว้ใจ ยังต้องตบตาตี๋ใหญ่ซึ่งตอนนี้เหมือนหมาบ้าขี้ระแวง คอยจับผิดคนโน้นคนนี้ตลอดเวลา

ประทีปกระวนกระวายเมื่อได้ยินจากตี๋ใหญ่ว่าสงสัยจงจะเป็นสายตำรวจ เมื่อกลับจากสำรวจธนาคารที่จะปล้นกับตี๋ใหญ่ แล้วเห็นจงมาดักรอพร้อมข้าวปลาอาหารมากมาย ก็อดโพล่งถามไม่ได้

“บอกกูมาว่ามึงต้องการอะไร และตกลงมึงเป็นใครกันแน่”

ปืนของประทีปที่จ่อตรงหน้าทำให้บรรดลเครียดจัด ก่อนตัดสินใจจับกระบอกปืนให้หมุนกลับไปหาเจ้าของ ประทีปหน้าซีด ตกตะลึงตาค้างเมื่อได้ยินจงหลานชายอาเจ็กแนะนำตัว

“ผมร้อยตำรวจตรีบรรดล ตัณฑไพบูลย์...ชุดปฏิบัติการล่าตี๋ใหญ่!”

ประทีปถึงกับพูดไม่ออกเมื่อรู้ตัวตนแท้จริงของจงหลานชายอาเจ็กว่าคือตำรวจหนุ่มหนึ่งในทีมล่าตี๋ใหญ่ แต่กระนั้นก็ตอบตกลงให้ความร่วมมือกับพวกตำรวจ แต่มีเงื่อนไขที่ทำให้สมศักดิ์ต้องถอนใจยาว

“หมายความว่าประทีปยอมเป็นสายให้เราแล้วใช่ไหม”

“ยังครับ...เขาบอกว่าจะยอมก็ต่อเมื่อได้รับคำมั่นสัญญาจากผู้ใหญ่ก่อน”

“เขาต้องการอะไร”

“ก็หลายอย่างอยู่ อย่างแรก...ชื่อของเขาต้องถูกลบออกจากคดีต่างๆ สอง...ต้องไม่มีการวิสามัญตี๋ใหญ่ และสุดท้าย...เงินค่าหัวตี๋ใหญ่ต้องไม่มีการแบ่งให้คนอื่น ทั้งหมดต้องเป็นของเขา”

สมศักดิ์ยอมรับทุกเงื่อนไข ประทีปดีใจมาก

ต่างจากเมียของเขาที่กังวลเรื่องตี๋ใหญ่

“พี่ทีป...ทำแบบเนี้ยเกิดเฮียตี๋รู้เข้า เฮียแกไม่เอาเราตายเหรอ”

“ถ้าไม่มีใครพูด แล้วไอ้ตี๋มันจะไปรู้ได้ยังไง แล้วถึงเราจะไม่ช่วย ตำรวจเขาก็ต้องหาทางจัดการมันได้อยู่ดี ดูอย่างไอ้โต ไอ้หนูสิ หนีมาได้ตั้งนาน สุดท้ายก็จอดกันหมด เราทำแบบนี้เท่ากับช่วยไอ้ตี๋มันซะด้วยซ้ำ ให้ตำรวจเขาจับเป็นมัน ยังไงก็ยังดีกว่าโดนจับตาย”

บรรดลโทร.บอกประทีปเรื่องนัดเจอนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ อุดมยืนฟังไม่ห่าง ยังไม่ไว้ใจประทีป

“เราไว้ใจประทีปได้จริงๆเหรอ บางทีมันอาจเล่นแผนซ้อนแผน รวมหัวกับตี๋ใหญ่ล่อเราเข้าไปติดกับก็ได้”

“ก็เป็นไปได้ แต่ยังไงเราก็คงต้องเสี่ยง เพราะประทีปเป็นหนทางเดียวจะทำให้เราเข้าถึงตัวตี๋ใหญ่ได้”

มือปราบเหยี่ยวดำ

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด