ตอนที่ 13
อาฟง ผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศคนไทยยอดคุณธรรมประจำปีนี้ค่ะ”
เสี่ยเฉินละสายตาจากทีวีมาถามลูกสาวว่า
ฟงเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลแล้วหรือ
“ค่ะป๊ะ ดีแล้วล่ะ ถ้าจะตัดขาดกับพวกเราก็ต้องเลิกใช้นามสกุลลี้ขจรไกลของป๊ะด้วย”
“อาเปาแซ่เลา อาฟงคงเปลี่ยนนามสกุลตามป๊ะของมัน”
“ตอนนี้เขาลงรับสมัคร ส.ส. อีกหน่อยก็คงเป็นนักการเมือง”
“ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราคงอยู่ยาก”
“ป๊ะไปล็อบบี้พวกสมาคมหน่อยได้ไหมคะ ว่าไม่ให้สนับสนุนเฮียฟง”
“ได้น่ะมันได้ แต่ถ้าจะให้ดีเราต้องส่งคนของเราไปเป็นตัวตัดคะแนนอาฟง”
“ป๊ะคิดจะส่งใครคะ”
“ไมค์” เสี่ยเฉินตอบอย่างมั่นใจ ฟางพยักหน้าเห็นด้วย แต่เมื่อฟางนัดเจอไมค์กับทอมและบอกเรื่องนี้ ไมค์ท่าทีตกใจแทบไม่เชื่อหู
“อะไรนะ นี่จะให้ผมไปลงสมัครเป็นผู้แทนเหรอ”
“ใช่ค่ะ ป๊ะบอกว่าไมค์เหมาะสมที่สุดตอนนี้”
“แล้วใครจะเลือกไมค์ ลงไปก็แพ้ แล้วอีกอย่างไมค์เองก็ไม่ชอบทำงานการเมือง”
“ที่เขาอยากให้นายลงสมัครคงไม่ได้หวังจะชนะหรอก แต่คงหวังให้นายไปเป็นตัวตัดคะแนนอาฟงมากกว่า”
“ถูกต้องเลยค่ะ ไมค์เป็นลูกเสี่ยเหลียง ซึ่งคนในสมาคมจีนรู้จักป๊ะของไมค์เป็นอย่างดี แล้วถ้าป๊ะไปล็อบบี้ขอให้พวกเขาเทคะแนนไปที่ไมค์ เราก็จะตัดคะแนนของเฮียฟงได้...อย่างน้อยก็ในกลุ่มคนจีน”
“เขตที่นายลงสมัครเป็นเขตที่มีคนไทยเชื้อสายจีนอยู่เยอะ ถ้าเราไม่ทำแบบนี้อาฟงคงชนะแน่”
“ไมค์คงรู้นะคะ ถ้าเฮียฟงชนะ ไม่ลำพังพวกเราเท่านั้นที่จะแย่ แต่ลูกหลานของเราก็คงตกอยู่ใต้อิทธิพลของมาเฟียอย่างเฮียฟงอย่างแน่นอน”
“นี่ไมค์คงปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหม”
“อย่าปฏิเสธเลยค่ะ ฟางขอ”
ไมค์มองทอมเชิงปรึกษา ทอมพยักหน้าเห็นด้วยกับฟางทำให้ไมค์ต้องจำยอม
ooooooo
ฟงเริ่มหาเสียงโดยมีทีมงานของสุรชัยคอยช่วยเหลือ ขณะเดียวกันไมค์ก็มีเสี่ยเฉินเป็นแกนนำขอคะแนนจากชาวบ้าน ปรากฏว่าไมค์ได้รับการต้อนรับ จากชาวบ้านจำนวนไม่น้อยเพราะทุกคนเคยรู้จักเสี่ยเฉินมาก่อน
ฟงและทีมงานหาเสียงแจกนามบัตรและถ่ายรูปกับชาวบ้าน แต่พอมองไปเห็นกลุ่มของไมค์อยู่ไม่ไกล ฟงก็ชักสีหน้าไม่พอใจและไม่เชื่อที่สุรชัยพูดด้วยว่าคงเป็นเหตุบังเอิญที่มาเจอกัน
“ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกครับ...ผมขอตัวสักครู่”
ฟงออกจากทีมเดินตรงไปที่กลุ่มของไมค์
ซึ่งกำลังถ่ายรูปกับชาวบ้านที่มาคล้องพวงมาลัย
“ทำแบบนี้ต้องการอะไร” ฟงเสียงแข็งใส่ไมค์
“นายมีปัญหาอะไรอาฟง”
“ต้องการตัดคะแนนกันใช่มั้ย”
“ถ้าจะคิดแบบนั้นก็ได้”
ฟงโกรธหันมาจ้องเสี่ยเฉินตาขวาง “คุณทำแบบนี้ก็เท่ากับประกาศศึกกับผม”
“ไม่ว่าฉันจะทำยังไงแกก็ยืนอยู่คนละข้างกับฉันอยู่แล้วนี่อาฟง”
“เฮียคะ เราต่างคนต่างหาเสียง แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินดีกว่า” ฟางพูดกึ่งขอร้องแต่ไม่ได้ผล
“แต่คนอย่างฉันต้องชนะเท่านั้น ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”










