ตอนที่ 14
ในเวลาต่อมา ดาวนิลมาถึงร้านอาหารตามที่เทวัญนัด โต๊ะที่เขาจองไว้อยู่ที่มุมสงบด้านในสุดของร้าน เธอแปลกใจที่เจอคำปันกับกลองนั่งอยู่ เทวัญรีบออกตัวว่าชวนทั้งคู่มากินข้าวด้วย ร้านนี้เป็นร้านของเพื่อนเขาเองคุยได้สะดวกไม่ต้องกลัวใครรบกวน ดาวนิลรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ทำให้พูดคุยกับพ่อกับกลองได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวใครมาเห็นโดยที่เธอไม่รู้เลยว่า คำปันรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร...
ทางฝ่ายจิดาภายังคงเดินหน้าเปิดโปงดาวนิล
ไม่เลิกไม่แล้ว คราวนี้แกล้งสำนึกผิด โทร.มาขอโทษทรงพลที่เข้าใจดาวนิลผิด เธอเองก็โดนวิไลหลอกเช่นกัน มันเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ ตำรวจเพิ่งมาจับตัวไป
เมื่อครู่นี้เอง เธอฝากเขาไปขอโทษดาวนิลให้ด้วย
ความจริงเธออยากจะขอโทษดาวนิลด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
“จิกล้าพูดต่อหน้าทุกคนหรือเปล่า”
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะคะ ได้ค่ะเดี๋ยวจิไปที่บ้านคุณเย็นนี้แล้วเจอกันนะคะ” จิดาภาวางสายยิ้มพอใจที่เขาหลงกล คุณนายติ๊ดซึ่งนั่งฟังอยู่ด้วยทักท้วงจะไปบ้านทรงพลแล้วนังวิไลที่รอเงินอยู่ที่ร้านจะทำอย่างไร
“ก็ปล่อยให้มันรอไปสิ มีความจำเป็นอะไรต้องเสียเงินให้มันล่ะ” จิดาภายิ้มเจ้าเล่ห์...
ที่มุมปลอดคนบ้านทรงพล ช่อเอื้องนั่งร้องไห้อยู่กับวรรณา คิดไม่ตกว่าควรจะบอกความจริงเรื่องพี่สาวให้ทรงพลรู้ดีไหม แต่ก็เกรงว่าถ้าพูดเรื่องนี้ออกไป
เกิดพ่อมาได้ยินเข้าต้องเสียใจแน่ๆ วรรณาติงคิดแทนพ่อได้อย่างไร ผู้ใหญ่อาจจะเข้าใจอะไรๆง่ายกว่าเราก็ได้
“สิ่งที่พี่ดาวนิลทำ เข้าใจได้จริงๆเหรอวรรณา เขาไม่ใช่แค่โกหกฉันกับพ่อ เขาโกหกคนที่บ้านนี้ โกหกคนทั้งประเทศ โกหกทุกคนที่รักเขา ถ้าฉันเข้าใจพี่ดาวนิลได้ก็ดี ฉันจะได้รู้ว่าพวกเราผิดอะไร พี่ถึงได้กลัวคนจะรู้นักว่าเราเป็นครอบครัวของพี่” ช่อเอื้องพูดไปร้องไห้ไป วรรณาสงสารเธอจับใจได้แต่ดึงให้มาซบไหล่อย่างปลอบใจ
ooooooo
กินข้าวเสร็จ ดาวนิลพาพ่อกับกลองไปช็อปปิ้งซื้อรองเท้าคู่ใหม่กันอย่างมีความสุข ระหว่างเธอสวมรองเท้าให้พ่อ มีแฟนคลับของเธอเข้ามาขอถ่ายรูป จังหวะที่เธอเดินแยกออกมาถ่ายรูปกับแฟนคลับ เทวัญ แอบกระซิบกับคำปันแล้วนี่จะไม่บอกดาวนิลหรือว่าท่านรู้แล้วว่าเธอคือดาวนิลของท่าน คำปันส่ายหน้า
“เขาคงมีเหตุผลของเขา ไม่เป็นไรหรอกครับ
ผมรอได้ แค่ได้อยู่คุยกับเขาแบบนี้ ได้รู้ว่าเขามีความสุข จะอยู่ในฐานะอะไร ผมก็มีความสุขทั้งนั้นล่ะครับ” คำปันยิ้มอย่างมีความสุข ขณะที่เทวัญแอบหนักใจแทน...
แม้จะอยู่กับพ่อตั้งแต่เที่ยงยันเย็น ดาวนิล
ไม่ปริปากบอกสักคำว่าตัวเองเป็นใคร ทั้งที่คำปันพยายามพูดถึงเรื่องในอดีตตอนอยู่แม่อายพร้อมหน้าพ่อกับลูกๆ หวังจะกระตุ้นจิตสำนึก แต่ไม่อาจทำให้เธอซาบซึ้งใจได้...
เมื่อเห็นสมควรแก่เวลาเทวัญชวนทุกคนกลับ จากนั้นเขาขับรถมาส่งดาวนิลที่หน้าคอนโดฯที่พักโดยไม่ทันสังเกตเห็นทรงพลจอดรถอยู่อีกมุมหนึ่งมองมาด้วยความสงสัย หลังจากทิ้งระยะห่างสักพัก ทรงพลขึ้นไปหาดาวนิลที่ห้องพัก ทันทีที่เจอหน้า เขาต่อว่าว่าโทร.หาหลายครั้งแต่เธอไม่เปิดเครื่อง เธออ้างแบตฯหมด
“แล้ววันนี้ไม่ออกไปไหนเหรอครับ” ทรงพลถามหยั่งเชิง
ดาวนิลโกหกหน้าตาเฉยว่าไม่ได้ไปไหนนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้อง มีธุระอะไรกับเธอหรือเปล่า ทรงพลพยายามไม่คิดอะไร ได้แต่บอกว่าจะมารับเธอไปที่บ้าน เธอรีบออกตัว ถ้าเป็นเรื่องรูปเธอยังหาให้ไม่ทัน
“ไม่ต้องแล้วล่ะผมหาทางจัดการกับเรื่องทั้งหมดได้แล้ว”...
ด้านช่อเอื้องไม่พอใจที่รู้ว่าเทวัญพาคำปันกับกลองไปเจอพี่ดาวนิลแถมพี่ยังซื้อข้าวของให้ทั้งคู่อีกด้วย ต่อว่าเขายกใหญ่ วรรณาพยายามขอร้องให้ใจเย็นๆ แต่เธอไม่ฟังถามเขาว่าพี่ดาวนิลขอให้เขาพาพ่อออกไปเจอใช่ไหม เทวัญไม่กล้าบอกว่าคำปันต่างหากที่เป็นคนขอให้ทำ ได้แต่ปฏิเสธว่าเปล่า
“เขาไม่เคยยอมรับว่าพวกเราคือใครแล้วจะมาทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน หรือคิดว่าแค่เอาเศษเงินมาซื้อของให้เพื่อจะได้ลดความรู้สึกผิดที่ตัวเองอกตัญญู ถ้าคุณหมอปล่อยให้เขาเข้าใกล้พ่ออีกครั้งเดียว ช่อเอื้องจะบอกความจริงทุกเรื่องกับทุกคน” ขู่จบช่อเอื้องวิ่งออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกให้กลับมาคุยกันก่อนของเทวัญ
วรรณาอาสาจะไปคุยกับเธอให้เอง แล้ววิ่งตามช่อเอื้องจนทันกันที่หน้าบ้านทรงพล เสียงเข้มใส่นี่เธอคิดจะทำอะไรกันแน่ ช่อเอื้องจะไปบอกความจริงให้ทรงพลรู้ วรรณาทักท้วงบอกไปแล้วจะช่วยอะไรได้
“คุณทรงพลเป็นคนดี เขาต้องเข้าใจและยอมช่วยฉันหาทางให้พ่อยอมกลับแม่อาย”
“ช่อเอื้องมีสติหน่อยทำแบบนั้นเธอกับพี่จะมองหน้ากันไม่ติดไปทั้งชาติเลยนะ” วรรณาพูดไม่ทันขาดคำ จิดาภาขับรถเข้ามาจอด เห็นช่อเอื้องยืนอยู่ลงมาทักทายว่าเธอเป็นเด็กรับใช้คนใหม่ของบ้านนี้ใช่ไหม และเป็นลูกของชายแก่ๆที่อยู่กับเด็กพิการ ช่อเอื้องไม่ไว้ใจ
จิดาภารีบบอกว่าจะไปเรียนคุณนมน้อยให้ว่าเธอมา
“ไม่ต้อง ฉันอยากคุยกับเธอก่อน...ได้ยินมาว่ามาตามหาพี่สาวที่กรุงเทพฯเหรอ แย่หน่อยนะพี่เธอคงหลงความสบายจนลืมไปหมดแล้วล่ะมั้งว่ายังมีพ่อมีน้องรออยู่ที่บ้าน หรือบางทีอาจจะไม่ลืมแต่ไม่ยอมรับ...จะทำยังไงกับคนแบบนี้ดีล่ะ จะช่วยเขาปิดแล้วเขาก็ลอยนวลสบายใจ หรือไม่ก็พูดความจริงแล้วก็ให้เขารับผิดชอบการกระทำของตัวเอง” จิดาภาปั่นหัวช่อเอื้องหวังให้เล่นงานดาวนิล
ยังไม่ทันรู้ว่าเธอจะร่วมมือด้วยไหม แม่นมน้อยเข้ามาถามช่อเอื้องเสียก่อนว่ามีอะไรหรือเปล่า จิดาภาขัดอกขัดใจมากด่าท่านว่าไม่มีมารยาท คนกำลังคุยกันมาแทรกทำไม ท่านไม่เห็นว่าคนอย่างเธอจะต้องมีมารยาทด้วย เข้ามาในบ้านนี้ทั้งที่รู้ว่าไม่มีใครต้อนรับแถมยังมาคุยกับเด็กในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต
“เจ้านายแกเป็นคนขอให้ฉันมาหาที่บ้านนี้พอใจไหม” ว่าแล้วจิดาภาเดินลิ่วเข้าบ้านโดยไม่รอให้ใครเชิญ
ooooooo










