ตอนที่ 13
ดาวนิลร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่ฟื้นจากสลบไสล หลิวหลิวต้องเตือนสติจะร้องไห้ให้ได้อะไรขึ้นมา
ลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้ นี่ไม่ใช่เวลาที่น้ำตาจะช่วยอะไรได้ เธออยากรู้แล้วจะให้ทำอย่างไรต่อไป
“รีบไปพูดกับพ่อกับน้องสิคะ ถ้าสองคนนั่นอยู่ฝั่งน้อง คำพูดคนนั้นมันก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก”
“จะให้วิไลเจอพ่อกับน้องไม่ได้” คิดได้ดังนั้น ดาวนิลรีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า...
จิดาภาเหมือนจะเดาใจดาวนิลออก พาวิไลมาดักรอที่บ้านทรงพล แม่นมน้อยไม่ยอมให้เข้าไปรอในบ้านเนื่องจากไม่มีใครอยู่ แต่เธอยืนยันเดี๋ยวก็มีคนรีบมาที่นี่เอง แม่นมน้อยนิ่วหน้าสงสัยใครกันหรือ
“นังดาวนิลไง อยากรู้ล่ะสิว่าเรื่องอะไร รอฟังตอนทุกคนอยู่ครบจะสนุกกว่านะ...ตกลงจะเอายังไง” จิดาภาปรายตามองแม่นมน้อยอย่างรอคำตอบ ท่านเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน จึงเชิญให้เข้าไปรอในบ้าน ส่วนกล้วยกับอ้อยพากันกลับไปที่ครัว เจอช่อเอื้องกำลังทำความสะอาดเตาไฟอยู่วานให้ช่วยเอาน้ำไปเสิร์ฟให้จิดาภากับแขกอีกคนหน่อย พวกตนไม่อยากยุ่งด้วย
ครู่ต่อมา ช่อเอื้องยกถาดใส่แก้วน้ำมาเสิร์ฟให้ จิดาภา พอวางแก้วน้ำให้แขกอีกคนก็ต้องตกใจเมื่อเห็นวิไลนั่งอยู่ วิไลเองก็ตกใจไม่แพ้เธอเช่นกันแต่เก็บอาการเอาไว้ แม่นมน้อยเห็นช่อเอื้องถือถาดค้างอยู่อย่างนั้น ร้องทักมีอะไรหรือเปล่า เธอส่ายหน้าไม่มีอะไรขอออกไปดูตู้จดหมายที่หน้าบ้านได้ยินเสียงเหมือนไปรษณีย์มา
แม่นมน้อยแปลกใจจะต้องขอทำไมแต่ก็ไม่ติดใจอะไรอนุญาตให้ไปได้ ช่อเอื้องเดินอ้อมมาอีกทางหนึ่งพลางส่งสายตาให้วิไลเหมือนจะให้ตามออกมา วิไลรู้งาน ทำเป็นค้นกระเป๋าถือก่อนจะบอกกับจิดาภาว่าสงสัยจะทำมือถือหล่นในรถ ยัยตัวแสบพยักหน้าให้ไปเอาได้เลย รถไม่ได้ล็อก อึดใจ วิไลออกมาที่หน้าบ้าน ช่อเอื้อง ซึ่งซุ่มรออยู่เข้ามาถามว่ามาที่นี่ทำไม แล้วมากับจิดาภาได้อย่างไร
วิไลกลับย้อนถามแล้วเธอมาที่นี่ทำไม ไหนคนที่หมู่บ้านบอกว่าดาวนิลรับไปอยู่ด้วยไม่ใช่หรือ ช่อเอื้องกลัวใครจะได้ยินรีบดึงมือวิไลหลบไปคุยที่สวนข้างบ้าน ซักเป็นการใหญ่ว่าบอกอะไรกับจิดาภาบ้าง วิไลไม่เข้าใจทำไมต้องปิดด้วย ช่อเอื้องขอร้องไม่ให้บอกอะไรกับใครทั้งนั้น
“พูดอย่างกับฉันใส่ความอะไรพี่แก ฉันก็พูดแต่เรื่องจริงทั้งนั้น”
“พี่วิไล ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ที่ชวนพี่ดาวนิลไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทุกอย่างมันก็ไม่เป็นแบบนี้ เรื่องในอดีตฉันพอให้อภัยพี่ได้นะ แต่พี่ต้องหยุดทำร้ายครอบครัวเราสักที”
“มาโทษอะไรฉัน พี่แกมันไม่ผิดเลยเหรอไง มันก็ทำทุกอย่างเพื่อเงินเหมือนกันนั่นแหละ”
ช่อเอื้องคอยพูดแก้ตัวให้พี่สาวตลอด ทำให้วิไลไม่พอใจขอร้องให้เลิกมองดาวนิลเป็นนางฟ้านางสวรรค์สักที มันบอกเธอหรือเปล่ามาว่ามันมาทำงานอะไรที่กรุงเทพฯ ช่อเอื้องรู้แค่ว่าพี่มาแสดงรำดาบ วิไลหัวเราะหยันมันมาขายตัวต่างหาก ถ้าไม่เชื่อให้รอถามมันเอง ช่อเอื้องตกใจแทบช็อก ระหว่างนั้น ดาวนิลขับรถเข้ามาจอดเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็ร้อนใจมากรีบลงจากรถ
หลิวหลิวตามมาเรียกเอาไว้ “น้องดาวนิลใจเย็นๆค่ะ”
ดาวนิลไม่ฟังอะไรทั้งนั้นพุ่งเข้าดึงวิไลออกห่างจากช่อเอื้อง ตวาดใส่มาที่นี่ทำไม คุยอะไรกับน้องสาวของตนบ้าง แล้วหันไปจะถามน้อง แต่เธอวิ่งหนีเข้าบ้านไปทั้งน้ำตา วิไลสบช่องสะบัดมือดาวนิลหลุดจะวิ่งหนี หลิวหลิวรู้ทันขวางไว้ ดาวนิลคว้าแขนเธอไว้อีกครั้ง ขอร้องอย่าทำแบบนี้กับตนเลย ยังทำลายชีวิตตนไม่พออีกหรือ จังหวะนั้นกล้วยวิ่งออกมาจากในบ้าน ดาวนิลรีบปล่อยมือจากวิไล
“คุณดาวนิลมานี่เอง เชิญในบ้านเลยค่ะ...คุณวิไลคะ คุณจิดาภาให้มาตามค่ะ”
วิไลรีบกลับเข้าข้างใน หลิวหลิวเดินไปหยิบตะกร้าผลไม้จากในรถ แล้วจูงมือดาวนิลตามเข้าไป
ooooooo
ทันทีที่เห็นดาวนิลเดินเข้ามากับหลิวหลิว จิดาภาหันไปพยักพเยิดกับแม่นมน้อย เห็นแล้วใช่ไหมว่าเป็นอย่างที่ตนพูดไว้ไม่มีผิดว่ามันต้องรีบมา ทำให้ท่านยิ่งสงสัยว่าเกิดอะไรกันขึ้น ดาวนิลกับหลิวหลิวพยายามจะไล่ตะเพิดยัยตัวแสบแต่ไม่สำเร็จ เธอกลับบอกให้ดาวนิลทักทายคนรู้จักก่อนไหมแล้วหันมองวิไล
ดาวนิลทำเนียนว่าไม่รู้จัก จิดาภาขอร้องอย่าทำไก๋ เคยทำงานด้วยกันมาก่อนไม่ใช่หรือ
“ถ้าคุณจะเที่ยวจ้างใครต่อใครมาใส่ร้ายอะไรฉัน มันไม่ได้ผลหรอกนะคะ”
“ฉันจะต้องใส่ร้ายแกทำไม แค่เรื่องจริงที่แกทำมันก็เลวร้ายมากพอจะทำให้พลตาสว่างอยู่แล้ว”
หลิวหลิวโวยวาย จะต้องมาฟังเรื่องไร้สาระกันทำไม ให้ใครไปตาม รปภ.มาลากตัวคนเพ้อเจ้อออกไปไม่ดีกว่าหรือ แม่นมน้อยไม่ยอมให้เสียมารยาทกับแขกแบบนั้น ดาวนิลตัดพ้อแล้วนี่ท่านจะปล่อยให้จิดาภามาใส่ร้ายตนแบบนี้หรือ จิดาภารู้ทันว่าแม่นมน้อยเองก็อยากจะรู้ความจริงถึงไม่ยอมไล่ตนเอง
“ตอนแรกก็ว่าจะรอพลกลับมาก่อนนะ แต่พอเห็นหน้าแกสองคนตอนนี้ ฉันทนรอไม่ไหวซะแล้วยังไงก็คงมีคนเก็บเรื่องนี้ไปรายงานพลแบบไม่ขาดตก บกพร่องอยู่แล้ว...เล่าไปเลยวิไลว่ารู้จักกับผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง”
ดาวนิลพยายามส่งสายตาเป็นเชิงอ้อนวอนไม่ให้วิไลพูดอะไร เหมือนจะมีสำนึกได้แค่เสี้ยววินาที จากนั้นเรื่องราวในอดีตของดาวนิลก็พรั่งพรูออกจากปากวิไลว่าเป็นคนพามันมาทำงานในกรุงเทพฯเพราะตอนนั้นมันเดือดร้อนเรื่องเงินก็เลยพาไปสมัครงานที่ร้านเฮีย หลิวหลิวขู่จะฟ้องหมิ่นประมาทที่วิไลใส่ความดาวนิลโดยไม่มีหลักฐาน จอมแฉถึงกับหยุดกึก มองจิดาภาอย่างลังเล ยัยตัวแสบสั่งให้แฉต่อไปไม่ต้องกลัว
“คุณทำทั้งหมดนี้เพื่ออะไรคะ คุณทำร้ายฉันไปยังไงคุณพลก็ไม่มีวันกลับไปหาคุณ”
“ใครบอกว่าฉันอยากได้พลกลับมาล่ะ ฉันแค่อยากจะรู้ว่าถ้าพลรู้ความจริง เขายังจะเห็นแกมีค่าพอที่เขาจะแต่งงานด้วยอยู่หรือเปล่า”
หลิวหลิวทนไม่ไหวหยิบสตรอเบอรี่ในตะกร้าออกมาบีบแล้วปาใส่จิดาภากับวิไล “สตรอเบอรี่มาก็ต้องสตรอเบอรี่กลับแบบนี้ล่ะค่ะ ชอบนักไม่ใช่เหรอคะโกหกทำลายชีวิตชาวบ้านเนี่ย”
จิดาภาแค้นมากที่เสื้อแพงระยับของตัวเองเลอะ สั่งให้วิไลจัดการนังผู้จัดการชายไม่จริงหญิงไม่แท้ วิไลยังไม่ทันขยับก็โดนหลิวหลิวปาสตรอเบอรี่ใส่อีกครั้ง เธอโมโหมากจะเข้าไปเล่นงานเขา ดาวนิลไวกว่าผลักเธอกระเด็นใส่จิดาภาล้มกลิ้งไปด้วยกัน แม่นมน้อยเห็นความโกลาหลสั่งให้หยุดตีกัน เกรงใจคนที่นี่บ้าง










