สมาชิก

แม่อายสะอื้น

ตอนที่ 13

จิดาภาหวังจะมาป่วนดาวนิล แต่กลับต้องเจอเรื่องเซอร์ไพรส์เมื่อทรงพลประกาศว่าจะแต่งงานกับดาวนิลและจะส่งการ์ดเชิญไปให้เธออีกด้วย ยัยตัวแสบอยากจะร้องกรี๊ดๆแต่ไม่กล้าได้แต่เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปขึ้นรถตัวเองกำลังจะถอยออกจากบ้าน กลองเดินลงมาบนถนนพอดี เธอกระแทกเบรกดังสนั่น

เด็กน้อยตกใจได้แต่ยืนตะลึง จิดาภายิ่งโมโหกดแตรไล่เสียงลั่น ช่อเอื้องรีบเข้ามาดูก็เลยถูกยัยตัวแสบเล่นงานไปด้วย ช่อเอื้องไม่อยากให้มีเรื่อง รีบขอโทษเธอแทนเด็กน้อย

“แล้วเป็นใครเนี่ย มาอยู่บ้านนี้ได้ยังไง เดี๋ยวนี้พลเปิดบ้านเป็นสถานสงเคราะห์แล้วเหรอไง รีบถอยไปสิ ขวางรถอยู่ได้” จิดาภารอจนช่อเอื้องดึงกลองพ้นทางก็ถอยรถพรืดออกไป...

ในเวลาเดียวกัน คุณนายติ๊ดจอมตืดลงทุนซื้อตั๋วเครื่องบินให้วิไลเดินทางมาพบที่ร้านเสื้อของตัวเองเนื่องจากอยากรู้ว่าเธอรู้อะไรเกี่ยวกับดาวนิลบ้าง วิไลรู้ทุกเรื่องแต่ถ้าจะให้พูดก็ต้องให้เงินเธอก่อน มีหรือที่คนอย่างคุณนายติ๊ดจะยอมจ่ายเอง จัดแจงโทร.หาจิดาภาว่าได้คนที่จะเปิดโปงดาวนิลแล้ว คนคนนี้เป็นคนพานังนั่นเข้ากรุงเทพฯ จิดาภาอยากรู้เช่นเดียวกันว่าวิไลรู้อะไรบ้าง

“มันไม่ยอมพูดค่ะ มันบอกว่าต้องได้เงินก่อน...ค่ะได้ค่ะ” คุณนายติ๊ดวางสายแล้วหันไปบอกวิไลว่า จิดาภาให้ไปหาที่บ้านตอนนี้เลย วิไลเจ้าเล่ห์อ้างชุดที่ตัวเองใส่ทั้งเก่าทั้งโทรม ใส่ไปเจอจิดาภาจะเหมาะหรือ เธอเองก็ไม่ได้เอาเสื้อสวยๆติดมาด้วยเนื่องจากรีบมา ครั้นจะให้ไปหาซื้อก็ไม่มีเวลาพอ จึงขอเสื้อที่ร้านนี้ใส่ไปก่อน คุณนายติ๊ดโวยวายเสื้อของตนเอาไว้ขายจะมาเอาไปใส่ได้อย่างไร

“ยืมใส่สองสามชั่วโมงเอง อย่างกนักเลยคุณนายไม่ได้เสียอะไรสักหน่อย ฉันแต่งตัวดูดีก็จะได้ดูน่าเชื่อถือไม่ใช่เหรอไง” ว่าแล้ววิไลเดินไปเลือกดูเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ คุณนายติ๊ดไม่มีทางเลือกจำต้องยอมตามที่เธอต้องการ ตั้งใจมั่นไว้แฉนังดาวนิลเสร็จเมื่อไหร่ค่อยเอาคืนยังไม่สาย

ooooooo

เทวัญกำลังจะปิดประตูคลินิกกลับบ้าน แต่ดาวนิลแวะมาหาเสียก่อน เขาก็เลยต้องเชิญเข้าไปคุยกันข้างใน เธอจะมาถามว่าพ่อของเธอเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อเช้าจะไปเยี่ยมแต่ช่อเอื้องไม่ยอมให้พบ เธอพยายามอธิบายให้น้องเข้าใจ แต่น้องไม่ฟังก็เลยจะมาขอร้องให้เขาช่วยพูดให้น้องเข้าใจเธอหน่อย

“ดาวนิล คนที่ไม่เข้าใจอะไรเลยตอนนี้มันคือดาวนิลเองต่างหาก หมอจะพูดครั้งสุดท้ายนะ หมอเชื่อว่าความจริงมันไม่ทำร้ายใคร”

“เอะอะคุณหมอก็จะให้ดาวนิลพูดความจริงคุณหมอไม่เป็นดาวนิลคุณหมอไม่มีวันเข้าใจหรอก”

“ก็จริง หมอไม่เข้าใจดาวนิลจริงๆนั่นแหละ...คุณตาคำปันอาการดีขึ้นแล้ว หมอกลับบ้านก็ว่าจะแวะไปดู ดาวนิลจะไปด้วยกันไหมล่ะ” เทวัญพูดไม่ทันขาดคำ มีเสียงมือถือของดาวนิลดังขึ้น ทรงพลโทร.มาถามว่า

อยู่ที่ไหนจะชวนไปกินข้าว เธอตอบตกลงทันทีจะรีบไปเจอกับเขาที่ร้านอาหาร เทวัญถึงกับพูดอะไรไม่ออก...

ระหว่างนั่งกินอาหารด้วยกัน ทรงพลตัดสินใจชวนดาวนิลแต่งงาน สิ่งที่เขาพูดกับจิดาภาเมื่อเช้าไม่ได้พูดเล่น เธออยากจะมีงานแต่งแบบไหนให้บอกมาได้เลย ดาวนิลแล้วแต่เขาจะจัดงานแบบไหนได้หมด แค่ได้แต่งกับเขาเป็นยิ่งกว่าความฝันสำหรับเธอ ทรงพลยิ้มปลื้มที่เธอทำให้เขารู้สึกว่าเป็นผู้ชายโชคดีที่สุดในโลก

“เราแต่งงานกันเดือนหน้าเลยนะ ผมไม่อยากรออะไรแล้ว”

ดาวนิลอึกอักแล้วคุณนมน้อยจะยอมหรือ ทรงพลปลอบว่าไม่ต้องเป็นกังวล ถ้าท่านรักเขาจริงๆเขาเชื่อว่าท่านต้องเข้าใจ เขารู้ว่าท่านรักเขามากพอจะยอมรับการตัดสินใจของเขา

“ค่ะ ถ้าคุณพลเชื่ออย่างนั้น เราจะแต่งงานกันเดือนหน้าค่ะ” แม้จะดีใจที่ชายคนรักขอแต่งงาน แต่ดาวนิลอดเป็นกังวลเรื่องพ่อไม่ได้...

ในเวลาต่อมา คุณนายติ๊ดพาวิไลมาพบจิดาภาที่ห้องพักภายในคอนโดฯหรู ยัยตัวแสบไม่รอช้าถามวิไลมีหลักฐานยืนยันไหมว่าเป็นคนพาดาวนิลมาทำงานที่กรุงเทพฯ พอรู้ว่าไม่มีก็ไม่อยากเสียเวลาคุยด้วยขยับจะไป วิไลร้องบอกว่าตัวเองรู้ความลับของดาวนิลที่ไม่มีใครรู้ซึ่งสำคัญมากพอที่มันจะไม่มีวันอยากให้ใครรู้

“ว่ามาสิ ฉันรอฟังอยู่” จิดาภาเร่งรัด วิไลอยากรู้ถ้าบอกเรื่องนี้จะได้อะไร เธอเสนอจะให้เงิน จะเอาเท่าไหร่ให้ว่ามา วิไลต้องการเงินสองแสนบาท คุณนายติ๊ดตกใจที่วิไลเรียกแพงกว่าที่ตกลงกันไว้ วิไลยังย้ำคำเดิม เงินมาก่อนถึงจะยอมพูด จิดาภายอมจ่ายอยู่แล้วเงินจิ๊บจ้อยแค่นี้ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องจริง

“คุณก็ลองหาทางพาฉันไปเจอดาวนิลสิคะ แค่ให้มันเห็นหน้าฉัน คุณก็จะรู้ว่าเงินสองแสนนี่มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม” วิไลยิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่า

ooooooo

คำปัน กลองกับกล้วย อ้อยและแม่นมน้อยนั่งกินข้าวกันอยู่ในครัวโดยที่ช่อเอื้องยกสำรับไปให้เทวัญที่บ้าน อ้อยเร่งให้กล้วยรีบกินละครที่ดาวนิลเล่นตอนแรกใกล้จะฉายแล้ว

“กินข้าวเสร็จ ล้างถ้วยล้างชามให้เสร็จก่อนฉันถึงจะอนุญาตให้ดูได้” แม่นมน้อยสั่งเสียงเข้ม กล้วยกับอ้อยรีบตักข้าวกินไม่พูดอะไรอีก ทุกคนมัวแต่สนใจเรื่องละครไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าที่แปลกไปของคำปัน...

ด้านเทวัญเห็นช่อเอื้องเอาสำรับกับข้าวมาให้ รีบบอกว่าเก็บของเสร็จจะแวะไปดูคำปันให้ ช่อเอื้องส่ายหน้าไม่ต้องแวะไปดูก็ได้พ่อหายดีแล้ว เดี๋ยวคงจะกลับแม่อายได้แล้ว เขาพยายามกล่อมให้เธออยู่ต่อ กลับไปอยู่บ้านจะลำบากเปล่าๆ ที่สำคัญกลองจะได้เรียนในโรงเรียนที่เหมาะสมกับแก ดาวนิลยินดีจะช่วยอยู่แล้ว ช่อเอื้องไม่อยากรบกวนใคร ที่พี่อยากช่วยก็เพราะอยากตัดปัญหา ถ้าพวกเรากลับแม่อายปัญหาทุกอย่างคงจบ

จังหวะนั้นทรงพลเดินเข้ามาจะขอปรึกษากับพี่ชาย ช่อเอื้องจึงเดินเลี่ยงออกมา แต่พอได้ยินว่าทรงพลจะมาปรึกษาเรื่องดาวนิลรีบหลบมุมแอบฟัง...

กล้วยกับอ้อยล้างจานเสร็จพอดีกับละครที่ดาวนิลแสดงเริ่มออนแอร์ กลองจูงมือคำปันเข้ามาขอดูด้วย

แม้ตาจะไม่เห็นได้ยินเสียงก็ยังดี กล้วยรีบยกเก้าอี้มาให้คำปันนั่ง กดรีโมตเร่งเสียงเพื่อที่เขาจะได้ยินชัดๆ

ครั้นถึงฉากเปิดตัวดาวนิลในละคร คำปันจำเสียงที่พูดได้แม่นว่าเป็นเสียงลูกสาวคนโตของตัวเองถึงกับน้ำตาคลอเบ้าโดยที่ไม่มีใครเห็นเพราะทุกคนใจจดจ่อกับละครในทีวี...

ทรงพลยังคงคุยอยู่กับเทวัญเรื่องจะแต่งงานกับดาวนิลเดือนหน้า ตั้งใจจะจัดแค่งานเล็กๆมีเพียงคนในครอบครัวซึ่งเรามีกันแค่สี่คน ส่วนดาวนิลเองก็ไม่มีใคร เทวัญสงสัยว่าเธอบอกน้องชายแบบนั้นหรือ


แม่อายสะอื้น

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด