ตอนที่ 9
“หยุดเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นนังนี่ตาย!”
เพลิงจำต้องยุติเรื่องวิวาทไว้แค่นั้นและสวมบทบาทอินทรีย์พาตัวกระรอก มาลัย ตะเภาและจงอางกลับไปให้แสนตัดสินโทษ เจ้าพ่อเมืองพลกวาดตามองพวกที่ก่อเรื่องด้วยสายตาแข็งกร้าว
“ไอ้อินทรีย์...จริงเหรอวะที่มึงคิดพาเชลยของกูหลบหนี”
“จริงหรือไม่ฉันยังไม่ตอบ แต่ฉันอยากถามไอ้สิงโต ...มันกับไอ้มั่นปลอมตัวไปโรงพยาบาลทำไมถ้าไม่มีแผนร้าย”
สิงโตกับมั่นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พยายามส่งสายตาไปทางดอกไม้แต่เธอก็ลอยตัวเหนือปัญหาทำไม่รู้ไม่ชี้ สองสมุนของแสนเลยต้องเอาตัวรอดด้วยการแถข้างๆคูๆ
“กูพรางตัวไปสอดแนมมึงโว้ยไอ้อินทรีย์ ขืนโผล่ไปดื้อๆก็ถูกจับได้สิวะ”
เซ่งนิ่วหน้าให้คำแก้ตัวแบบขอไปทีของสิงโต เขาเชื่อว่าอินทรีย์เพื่อนรักไม่น่าคิดสั้นแบบนั้นเลยจะช่วยไกล่เกลี่ย แสนนิ่งฟังเงียบๆจนกระรอกใจไม่ดี
รีบโพล่งสารภาพว่าเธอวางแผนทุกอย่าง ตะเภากับจงอางแค่ทำตามที่เธอขอร้อง เพลิงมีสีหน้าเคร่งเครียดอยากช่วยทุกคนจึงรับผิดทุกอย่างเอง
“ฉันเป็นคนต้นคิดเรื่องทั้งหมดเพราะฉันอยากได้กระรอกเป็นเมียอีกคนก็เลยหาเรื่องพาหนี ส่วนตะเภากับจงอางถูกฉันหลอกใช้...พวกเขาไม่เกี่ยว”
คำสารภาพของเพลิงหรืออินทรีย์เท่ากับฆ่าตัวตาย เซ่งมองมาอึ้งๆ เช่นเดียวกับสิงโตและดอกไม้ที่ไม่คิดว่าเพลิงหรืออินทรีย์จะยอมรับผิดง่ายๆ แสนเป็นคนเดียวที่มีท่าทีนิ่งสงบแต่จู่ๆก็โพล่งเสียงเข้ม
“มึงบังอาจมากไอ้อินทรีย์ คิดจะชิงของรักของกู มึงกล้าดียังไงวะ”
“ช่วยไม่ได้นะนาย...เรื่องตัณหาราคะมันไม่ เข้าใครออกใครอยู่แล้ว”
เพลิงรู้ชะตากรรมตัวเองแต่ยังยิ้มกวนประสาท แสนโมโหที่อีกฝ่ายไม่สำนึกฟาดคมแฝกจนสลบ!
ooooooo
กัลป์พักรักษาตัวจนอาการทุเลาลงมาก แม้จะยังไม่ได้ไล่มนตร์ดำออกจากตัวแต่ไม่อ่อนแรงเหมือนที่ผ่านมา ชายหนุ่มจะถอดสร้อยพระคืนตะโพน
แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ
“เอ็งใส่ไว้ก่อนดีกว่ามั้งไอ้กัลป์ เกิดไอ้รังสีมหาประลัยนั่นมันใช้มนตร์ดำขึ้นมาเอ็งมีหวังได้คลั่งเป็นผีเข้าอีกรอบ”
“เอ็งวางใจเถอะตะโพน...พระพุทธคุณน่ะไม่ได้ขึ้นอยู่กับวัตถุหรอกแต่ขึ้นอยู่กับใจมากกว่า”
อัคนีเอ่ยเสียงเรียบก่อนหันไปสบตากัลป์ศิษย์เอกคนเดียวที่เหลือ
“ต่อจากนี้ไปข้าขอให้เอ็งเจริญสติตั้งจิตภาวนาและสวดมนต์ตามที่ข้าบอกทุกค่ำเช้า รับรองว่าอีกไม่ช้ามนตร์ดำจะถูกลบหายจากร่างของเอ็ง จะอยู่หรือตายก็ขึ้นกับสมาธิของเอ็ง เอ็งต้องหนักแน่นเข้าไว้ ส่วนบาดแผลน่ะข้าเปลี่ยนสมุนไพรขนานใหม่ให้แล้ว อีกแค่สามวันเจ็ดวันคงแห้งสนิท”
“ขอบพระคุณครับอาจารย์”
กัลป์ยกมือไหว้อัคนีและเริ่มต้นนั่งสมาธิเพื่อขับไล่มนตร์ดำออกจากตัว อัญชันเฝ้ามองด้วยความเป็นห่วงแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นกำลังใจ ส่วนองอาจกับตะโพนไปตรวจสอบกับดักระเบิดรอบบ้านโดยไม่รู้เลยว่าศัตรูตัวร้ายอย่างรังสีจะบุกในคืนนั้นเอง!
องอาจกับตะโพนวิ่งไปดูกับดักระเบิดที่วางไว้เมื่อได้ยินเสียงแปลกๆก่อนจะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนล่อพวกเขาออกจากกระท่อม เปิดโอกาสให้ผู้บุกรุกยามวิกาลอย่างรังสีเปิดศึกกับอัคนีคู่ปรับเก่า
แม้จะหมดพลังไปมากจากบาดแผลเมื่อหลายปีก่อนแต่สติและญาณของอัคนียังยอดเยี่ยม พลังด้านมืดรุนแรงของรังสีทำให้อัคนีลืมตาออกจากสมาธิและหันไปสั่งกัลป์










