ตอนที่ 12
สุนทรก็คิดได้เหมือนเยี่ยมยุทธ เหตุการณ์ไฟไหม้บ้านดาวเด่นเรียกความทรงจำคืนมาและตัดสินใจทำเรื่องถูกต้องด้วยการไปแจ้งความและขอมอบตัวที่สถานีตำรวจ
“ผมเป็นคนดี คนสว่าง ผมจะทำแต่เรื่องดีๆ ผมขอสารภาพ...ผมเป็นคนวางเพลิงบ้านหลังหนึ่งจนมีคนตาย”
“โห...คงอึดอัดมาก บอกรายละเอียดมาได้เลยครับ”
“คนจ้างผมเป็นธนานุวัตรเจ้าของธนาคารใหญ่เลยนะครับ”
“แต่ถ้าคุณปรักปรำเขาหรือพูดไม่จริงคุณจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จนะครับ”
“เรื่องจริงครับ ตอนนั้นผมเป็นพนักงานเขา นี่ไงบัตรพนักงานธนาคาร...ผมยังเก็บไว้”
บัตรพนักงานขาดๆในกระเป๋าเงินเก่าๆทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอึ้งไปอึดใจ แต่สุนทรไม่ยี่หระรีบบอกสิ่งที่อยู่ในใจ
“ผมทำเพื่อนาย นายของผมท่านมีบุญคุณ ท่านใช้หนี้ให้ผมที่บ้านนอกผมเลยสัญญาจะรับใช้ท่าน ท่านให้ผมไปเผาบ้านไอ้คนนั้นมันตายแต่ช้างสีชมพูรอด...”
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนสุนทรอีกพักใหญ่ก็ได้ข้อสรุปว่าทำอะไรไม่ได้เพราะคดีหมดอายุความแล้ว สุนทรไม่ยอมแพ้ขอมอบตัวและยืนยันว่าเผาบ้านตามคำสั่งของหนึ่งในผู้บริหารธนานุวัตรจริงๆ
เจ้าของเพจแฉความจริงบนโลกโซเชียลผ่านมาได้ยินเรื่องราวของสุนทรพอดี ดักรอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจผละไปจึงโผล่มาหาสุนทรพร้อมสมุดจดบันทึก “ถ้าคุณจำชื่อจำรายละเอียดบ้านที่คุณวางเพลิงได้ผมก็ช่วยคุณได้ แต่ถ้าบอกแค่ช้างสีชมพูผมก็คงเอาขึ้นโซเชียลให้ไม่ได้”
สุนทรพยักหน้ากระตือรือร้นจะเล่าความจริง
“จำได้ครับ...พักหลังหมอให้ยาผมจำอะไรได้หลายอย่างเลย ให้บอกบ้านเลขที่ ให้พาไปดูก็ได้...เรื่องที่เล่าเป็นความจริงนะครับ”
“ผมทำเพจแฉความจริงครับ นี่ครับ...ผมมีหน้าที่เสนอข่าวที่ข้อกฎหมายเอาผิดไม่ได้”
“ได้ๆ...ผมจะเล่า จะพยายามพูดให้รู้เรื่อง...ผมนึกออกแล้วจริงๆนะครับ”
ooooooo
เยี่ยมยุทธพาดาวเหนือไปที่บ้านและโชว์หลักฐานและข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับคดีพ่อแม่
“ตั้งแต่แรกผมไม่ได้ชอบปิ่นมุก ผมใช้เขาเป็นสะพานเพื่อสืบเรื่องพ่อแม่”
ดาวเหนือตกใจมาก ในหัวปะติดปะต่อเรื่องราวที่ผ่านมา
“ผมคือลูกชายของนนท์...หุ้นส่วนของธนานุวัตร คนก่อน พ่อผมถูกฆาตกรรมในกองเพลิงเพื่อเปิดทางให้เปรมจิตและโตมรเข้าครอบครองธนาคารธนานุวัตร!”










