สมาชิก

บุพเพสันนิวาส

ตอนที่ 3

หมื่นสุนทรเทวารู้สึกใจเต้นเมื่อใบหน้าเธออยู่ใกล้ หญิงสาวพึมพำว่าเหมือนฝัน เขาจึงถามว่าทำไมต้องเหมือนฝัน เธอลืมตัวดื่มด่ำพร่ำว่า

“ก็ได้แต่ฟังอาจารย์พูด ได้แต่นึกไปเอง ได้แต่จินตนาการไปเอง แต่นี่กะตา...กะตาเลย” พลันเรือโคลง เกศสุรางค์เสียหลักเอนมาซบท่านหมื่น จำปาตาโพลง เอ็ดจ้อยว่าแจวเรือไม่เป็นประสา หญิงสาวตั้งสติถอยห่างแบบไว้ฟอร์ม ท่านหมื่นแก้เก้อหาว่าเธอตื่นเต้นไม่เข้าเรื่อง เธอทำท่าจะเถียง ก็พอดีถึงที่หมาย เธอจึงหันมองแล้วต้องตื่นตาอีกครั้ง

“วัดเดิมอโยธยา...ฉันเห็นอีกแล้วไอ้เรืองเอ๊ย...อยากเห็นมานานแล้วค่ะวัดนี้”

หมื่นสุนทรเทวาแปลกใจว่าเกศสุรางค์ไม่เคยมาเลยหรือ เธอจึงย้อนถามว่าการะเกดเคยมาไหม อ้างว่าลืมจริงๆ ท่านหมื่นสะบัดเสียงว่าตนบวชที่วัดนี้ เกศสุรางค์หน้าเหวอจะเป็นลม

ผู้คนที่มาวัดล้วนแต่งตัวด้วยถนิมพิมพาภรณ์ตามฐานะของแต่ละคน ขบวนออกญาโหราธิบดีเดินขึ้นโบสถ์ มีคนทักทายและกราบไหว้ แต่พอเห็นหน้าการะเกดต่างชักสีหน้า บ้างก็กระซิบนินทา บ้างก็ทักด้วยถ้อยคำแดกดัน ทำให้เกศสุรางค์ต้องพึมพำกับตัวเองว่า

“การะเกดเอ๊ย เธอคงแสบไม่เบา คนเขาชังน้ำหน้ากันหมด ดูสิ แต่ละคนมองยังกะฉันเป็นตัวเชื้อโรค” พอทนไม่ได้ก็สวนบ้างว่า ตนไม่ใช่ผีทำไมจะเข้าวัดไม่ได้พวกต้นตระกูลมนุษย์ป้า

หมื่นสุนทรเทวาช่วยแก้ต่างให้ว่า นางไม่ค่อยสบาย พร้อมกับแตะหลังเบาๆให้เดินต่อ...จันทร์วาดกับครอบครัวนั่งอยู่ก่อน เห็นท่านหมื่นมาก็ยิ้มแย้มดีใจ แต่พอเห็นการะเกดยิ้มให้ก็หุบยิ้ม เกศสุรางค์ยิ้มเก้อไป เหลือบมองท่านหมื่น เห็นตาสายตาอ่อนโยนก็เหน็บว่า

“เจอกิ๊กตาเชื่อมเชียวนะตาหมื่น” ท่านหมื่นหันมาจ้องหน้านิ่งก็แอบขำ “น่ากลัวต่อหน้ากิ๊กไม่กล้ายิ้มกับสาวคนไหน” เกศสุรางค์ได้ยินออกญาโหราธิบดีทักขึ้นว่า

“หลวงวิชัยมาไหว้ออเจ้าแน่ะ ขุนเหล็ก...”

เกศสุรางค์รีบหันไปมอง อยากเห็นออกญาโกษาธิบดีเหล็กเต็มๆตา ท่านหมื่นกระแอมเตือนให้ระวังกิริยาก็รีบสำรวม...คุณหญิงท่านหนึ่งทักจันทร์วาดเรื่องที่เรือล่มจนบ่าวตาย แล้วปรายตามองมายังเกศสุรางค์ เธอทำหน้าไม่ถูก ออกญาโหราธิบดีเห็นออกตัวให้ว่า มนต์กฤษณะกาลีคงไม่เว้นผิดคน ทำให้คุณหญิงท่านนั้นหน้าม้านไป และคนอื่นๆก็หลบตา

“คุณลุงเจ้าขา คุณลุงโคตรน่ารักเลยค่ะ ไม่เหมือนลูกชายเล้ย...” เกศสุรางค์พึมพำ

เสียงคุณหญิงนิ่มเรียกการะเกด...เกศสุรางค์ลืมว่าตัวเองคือการะเกดจึงไม่ได้สนใจ จนท่านหมื่นต้องเตือน จึงรีบขานรับ นิ่มถาม

“มิเคยเห็นออเจ้าออกนอกเรือน ได้ยินว่าเป็นไข้อยู่เนืองๆ หายดีแล้วฤา”

“หายดีแล้วเจ้าค่ะ คงเป็นเพราะมนต์กฤษณะกาลีกระมังเจ้าคะ” เกศสุรางค์จงใจพูดเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนทั่ว จึงโดนท่านหมื่นมองอย่างตำหนิ เพราะคนอื่นเขาพูดกันเบาๆ

ผินกับแย้มสงสารนาย จึงแตะขากระซิบชวนออกไปเดินเล่นข้างนอก เกศสุรางค์รีบไปทันทีเพราะอึดอัดเต็มทน...ออกมานั่งเล่นศาลาริมน้ำ เกศสุรางค์คิดถึงคำสอนของอาจารย์ที่เล่าว่า เจ้าพระยาโกษาธิบดี เป็นนักรบคนสำคัญสมัยพระนารายณ์ ถือเป็นนักรบคู่ใจ ส่งไปรบพม่าก็ชนะ ส่งไปรบกับมอญก็ชนะ จนพระเจ้าอังวะไม่กล้ายกทัพมาตีอยุธยาอีกเป็นร้อยปี เพราะท่านรบอย่างชาญฉลาด ศึกษาหลักพิชัยสงครามอย่างละเอียด จึงได้รับการเรียกขานว่า...ขุนเหล็ก

แต่ประวัติศาสตร์บันทึกว่าพระนารายณ์เข้าใจผิดว่าท่านคอร์รัปชัน จึงถูกสั่งโบยจนตาย...เกศสุรางค์คิดไป มองสายน้ำไปเรื่อยแล้วให้คิดถึงแม่กับยาย จึงพึมพำน้ำตาร่วงว่า

“คุณยาย แม่ รู้ไหมว่าเกศอยู่ที่นี่...ให้ฉันมาอยู่นี่ทำไม พาฉันกลับบ้านเถิดนะ” ผินกับแย้มตกใจถามเป็นอะไร “ข้าอยากกลับบ้าน ข้าคิดถึงบ้าน ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่” ว่าแล้วก็ปิดหน้าร้องไห้

ผินกับแย้มกอดขาคนละข้างร้องไห้ไปด้วย เกศสุรางค์ต้องชะงักแล้วบอกบ่าวทั้งสองว่าตนหยุดร้องแล้ว ผินกับแย้มบอกไม่เคยเห็นแม่นายร้องไห้อย่างนี้ หญิงสาวย้อนถาม เคยเห็นแต่ตนทำให้คนอื่นร้องไห้ใช่ไหม สองบ่าวพยักหน้าช้าๆ

“ข้านี้มีบาปหนักหนาใช่ไหมพี่...เดี๋ยวไปทำบุญให้อีแดงกับ...เอ่อ ตัวข้าเอง เผื่อบุญจะช่วยให้กลับไปหา...” พูดไม่ออกน้ำตาพรั่งพรูจนต้องเช็ดด้วยสไบ

หมื่นสุนทรเทวาตามออกมาเห็นก็แปลกใจ เข้าไปนั่งข้างๆแต่ยังวางฟอร์ม เปรยว่า คนเราต้องรู้จักหักใจในสิ่งที่ควรหัก เกศสุรางค์ชะงักหันมองบอกตนแค่คิดถึงบ้าน เขาจึงบอกว่า

“หมกมุ่นครุ่นคิดถึงสิ่งที่ผ่านเลยไป ก็หาประโยชน์อันใดไม่ได้...พ่อแม่ตายจากไป คิดถึงแค่ไหนก็ไม่ฟื้นคืนกลับมา อาจจะทำให้เป็นบ่วงเป็นใยกับวิญญาณของท่าน"

บุพเพสันนิวาส

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด