สมาชิก

บุพเพสันนิวาส

ตอนที่ 3

ท่านหมื่นจึงถามว่าต้องอย่างไรถึงจะอดข้าว

เกศสุรางค์บอกตนพูดว่า ตนไดเอต ปริกสวนว่านั่นไง จำปาจึงถามว่าไดเอตของนางหมายความว่าอย่างไร ออกญารำคาญตัดบทให้ไปถามกันทีหลัง ตอนนี้ตนหิว...

เกศสุรางค์จึงนั่งร่วมวงแล้วเปิบข้าวอย่างชำนาญขึ้น

ท่านหมื่นโพล่งขึ้นเรื่องที่การะเกดอยากให้สวดมนต์กฤษณะกาลีอีก ออกญาตกใจบอกมนต์นี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ จะสวดพร่ำเพรื่อไม่ได้ เกศสุรางค์รีบบอกว่า เป็นการยืนยันว่าตนไม่ได้ถูกผีเข้า ออกญาลูบหัวนางอย่างเอ็นดู บอกตนเชื่อว่านางไม่ได้ฆ่าอีแดงและไม่ได้ผีเข้า

เกศสุรางค์ซาบซึ้งใจกลับเข้าห้องร้องไห้...ด้านจำปาเชื่อว่าการะเกดโดนผีเข้า แม้มนต์กฤษณะกาลีจะทำอะไรนางไม่ได้ หมื่นสุนทรเทวาก็เชื่อว่านางวิปลาสเพราะมนต์นี้ แต่ออกญากลับคิดว่าอีกไม่นานนางจะเป็นปกติ โดยให้มองลูกนัยน์ตานาง มันบอกว่านางพูดเรื่องจริง

วันต่อมา เกศสุรางค์เห็นออกญาโหราธิบดีนั่งเขียนหนังสืออยู่ลำพัง ก็ตัดสินใจเข้าไปคุยด้วย ถามว่าทำไมท่านถึงเชื่อว่าตนไม่ได้ผีเข้า

“ข้าเชื่อออเจ้ามิเป็นการดีฤา ไยต้องรู้ว่าเพราะเหตุใด”

“คุณลุงไม่รู้หรอกเจ้าค่ะว่าคุณลุงช่วยข้าไว้ เพราะข้ากำลังจะจมน้ำอยู่แล้วเจ้าค่ะ”

ออกญามองนิ่งๆสักครู่ก็กล่าวว่า “แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ต่อไปออเจ้าต้องช่วยตัวเอง หวังให้ผู้ใดช่วยตลอดมิได้หรอกหนา”

เกศสุรางค์รับคำ ออกญาเตือนอย่างรู้ดีว่า นางมาจากดินแดนแสนไกล มาอยู่ที่ใหม่มีแต่คนแปลกหน้าและจ้องจะเกลียดชัง ถ้าทำสิ่งใดที่เขาเกลียดชังเพิ่มขึ้น เช่นนั้นเป็นคนฉลาดหรือเป็นคนโง่...เกศสุรางค์ตกใจเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกตื้นตัน น้ำตาปริ่ม ก้มกราบท่านออกญา...

เย็นวันนั้น เกศสุรางค์นุ่งกระโจมอกแบบขมวดปมที่หน้าอกหลายทบแบบกลัวหลุด นั่งทอดสายตาไปตามลำน้ำ ปล่อยให้ผินกับแย้มขัดสีฉวีวรรณให้ นางมองเด็กกระโดดน้ำเล่นที่ฝั่งตรงข้าม ระหว่างนั้นหมื่นสุนทรเทวาเดินมาจะอาบน้ำเช่นกัน พอเห็นการะเกดก็ชะงักหลบที่พุ่มไม้แอบมอง เห็นสายตานางที่ดูเศร้าก็แปลกใจ

เกศสุรางค์คิดถึงแม่กับยายแล้วน้ำตาร่วง ผินกับแย้มตกใจรีบถามว่าร้องไห้ไยกัน หญิงสาวปัดว่าไม่มีอะไรแล้วหันมาคุยเล่นสนุกสนาน ท่านหมื่นรู้สึกประหลาดใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของนาง แล้วนางก็หัวเราะออกมาเสียงดัง ผินกับแย้มรีบปรามว่าไม่ควร นางจึงกระซิบถามว่ามีคนจะแอบดูหรือ สองบ่าวรีบบอกว่าไม่มีใครกล้า เพราะท่าน้ำนี้สำหรับเจ้านายอาบเท่านั้น

เมื่ออาบน้ำเสร็จ เกศสุรางค์ขอนั่งเล่นอีกแป๊บ ผินกับแย้มงงกับคำว่าแป๊บของนาง...เกศสุรางค์นั่งแกว่งเท้าแช่น้ำ ผู้คนพายเรือผ่านมาเหลียวมองจนตกน้ำตกท่า

นางหัวเราะเสียงดัง จวบจนเย็นย่ำจึงเดินฮัมเพลงกลับจะขึ้นเรือน หมื่นสุนทรเทวายืนขวางกลางบันได เธอกล่าว

“ขอโทษค่ะ ขอทางหน่อย” ท่านหมื่นขมวดคิ้ว จึงกล่าวใหม่ “ข้าจะขึ้นเรือนค่ะ หลีกทางให้ข้าหน่อยค่ะ”

ท่านหมื่นตำหนิที่เมื่อครู่นางยิ้มในหน้าที่ท่าน้ำ วันก่อนก็โบกมือให้ทหารที่ป้อมเพชร แล้วแดกดันว่า อีกหน่อยคงโบกมือให้คนทั้งพระนคร เกศสุรางค์แอบขำ จึงถูกเอ็ด

“กิริยาเช่นนี้อีก ออเจ้าว่ามิใช่วิญญาณพเนจรมาสิงสู่แม่การะเกด ออเจ้าก็ต้องไม่มีกิริยาวาจาแปลกประหลาดราวกับมาจากป่าหิมพานต์”

“ป่าหิมพานต์เหรอคะ คุณหมื่น เอ๊ย คุณพี่รู้จักป่าหิมพานต์ด้วยหรือคะ”

ท่านหมื่นไม่พอใจที่โดนย้อน จึงเดินเลี่ยงไปท่าน้ำ เกศสุรางค์เห็นว่ามืดจึงถามจะเอาไฟไหม พอเขาไม่ตอบก็ร้องเตือนว่าระวังตกน้ำ ท่านหมื่นหงุดหงิดตัวเองที่ทำไมถึงรู้สึกใจระทึก

ค่ำนั้น เกศสุรางค์เย็บกางเกงในจนเสร็จ ผินกับแย้มช่วยนวดขาให้คนละข้าง แล้วบอกให้นางเตรียมตัวไปงานบุญบ้านออกญาโกษาธิบดีย่ำรุ่งวันพรุ่ง เธอตาโตรีบถามว่าออกญาโกษาธิบดีเหล็กหรือปาน ผินตอบว่าเหล็ก ปานเป็นผู้น้อง เกศสุรางค์ตื่นเต้นที่จะได้เห็นตัวจริง

ooooooo

เช้าตรู่ เกศสุรางค์รีบตื่นขึ้นมาแปรงฟันริมระเบียง แล้วยืดเส้นเหวี่ยงแขนโยกตัวไปมา หมื่นสุนทรเทวาออกมาเห็นตกตะลึงกับท่าทางน่าขำเช่นนั้น หญิงสาวหันมาเห็นก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เดินผ่านท่านหมื่นไป ปล่อยให้เขายืนงวยงง

บุพเพสันนิวาส

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด