“อนุทิน” มุ่งมั่นดันไทยเข้าเป็นสมาชิก OECD เลี่ยงตอบปม สถานการณ์ร้อนไทย-กัมพูชาต่อการตัดสินใจยุบสภา “จุลพันธ์” ส่ง กก.บห.พท.ลงพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน “ณัฐพงษ์” ชง Endgame ระบอบ “ฮุน เซน” บี้บัวแก้ว-ปปง. ลุยสุดซอยขจัดแก๊งเทา ป.ป.ช.ฟันอดีต สส.นนทบุรี เพื่อไทย ฮุบที่ ส.ป.ก. “สรวงศ์” เล็งหาผู้สมัครคนใหม่ แทน ยอมรับเป็นกังวลยื่นซักฟอกในช่วงสถานการณ์ร้อน ศาล รธน.ตีตกคำร้องปลัดคลังออกมาตรการจัดเก็บภาษีมิชอบนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจยุบสภาเร็วหรือช้าหรือไม่ ตอนนี้ขอทำหน้าที่ผู้นำประเทศ ในการรักษาอธิปไตยและปกป้องประเทศให้ปลอดภัยสูงสุด“อนุทิน” มุ่งมั่นเข้าสมาชิก OECDเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้การต้อนรับนายฟรานติเช็ก รูซิกกา รองเลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ที่เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในนามของนายมาทีอัส คอร์มันน์ เลขาธิการ OECD เพื่อหารือแนวทางขับเคลื่อนกระบวนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย นายอนุทินกล่าวว่า ถือเป็นก้าวสำคัญที่ไทยจะเข้าสู่การเป็นสมาชิก OECD ขอบคุณ OECD และประเทศสมาชิกที่ให้คำแนะนำและสนับสนุนประเทศไทยมาต่อเนื่อง ทุกขั้นตอนการเข้าเป็นสมาชิก OECD นับเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของไทย ช่วยเสริมศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนเต็มที่ ทั้งนี้ หลังการหารือนายอนุทินมอบเอกสารสำคัญ 2 ฉบับให้รองเลขาธิการ OECD ได้แก่ 1.บันทึกเบื้องต้น (Initial Memorandum) เป็น เอกสารประเมินความพร้อมของไทยให้สอดคล้องกับกรอบของ OECD 2.หนังสือแสดงเจตจำนงในการเริ่มกระบวนการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ ในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศ (OECD Anti-Bribery Convention)เลี่ยงปมไทย–กัมพูชากับการยุบสภานายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีผลต่อการตัดสินใจยุบสภาเร็วหรือช้าหรือไม่ว่า ได้ออกคำสั่งและข้อสั่งการในนามรัฐบาล ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ข้อสั่งการของบุคคล แต่เป็นข้อสั่งการของรัฐบาลให้ผู้ปฏิบัติคือฝ่ายกองทัพ ฝ่ายปกครองดำเนินการด้วยความมั่นใจ และความสบายใจว่ารัฐบาลให้การสนับสนุนทุกรูปแบบ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ ที่เป็นเป้าหมายสูงสุด เมื่อถามว่าฝ่ายการเมืองควรยุติการยื่นร้องเรียนต่างๆในช่วงนี้ไปก่อนหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องไปถามคนที่ต้องการเช่นนั้นมากกว่า หน้าที่ขณะนี้เป็นนายกฯ เป็นผู้นำประเทศ เป็นผู้รักษาแผ่นดิน รักษาอธิปไตยต้องปกป้องประเทศให้ปลอดภัยสูงสุด ไม่ให้ใครมาดูหมิ่น เหยียดหยาม ก้าวก่ายในเกียรติภูมิ หรืออธิปไตยของเรา“จุลพันธ์” ส่ง กก.บห.พท.ลงพื้นที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจัดตั้งทีมประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน มอบหมายให้กรรมการบริหารพรรค 3 คน ได้แก่ นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ จ.สระแก้ว จันทบุรี และตราด น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่บุรีรัมย์ และสุรินทร์ และนายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ กก.บห.พท. ดูแลพื้นที่ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เป็นตัวแทนลงพื้นที่ดูแลช่วยเหลือในแต่ละภูมิภาค อาทิ ประสานงานด้านการอพยพ จัดเตรียมสิ่งของจำเป็นที่ยังขาดแคลนในศูนย์อพยพ ดูแลที่อยู่อาศัยชั่วคราว รวมถึงดูแลสภาพจิตใจประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย รวมถึงประชาชนในพื้นที่สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางโซเชียลของพรรคเพื่อไทย ให้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วที่สุด และขอเรียกร้องรัฐบาลเตรียมความพร้อมดูแลประชาชนในทุกด้าน พรรคเพื่อไทยขอเป็นกำลังใจให้ทหารไทย และพี่น้องประชาชนตามแนวเขตชายแดน ให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างปลอดภัย“เท้ง” ชง Endgame ระบอบ “ฮุน เซน”ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์โซเชียลระบุว่า Endgame ระบอบฮุน เซน เปิด 3 แนวรบ จบปัญหาถาวร วันนี้เราเผชิญ Hybrid Warfare การรบที่มีหลายแนวหลายรูปแบบ ขอเสนอให้รัฐบาลเปิด 3 แนวรบ ระดมทุกสรรพกำลังเพื่อจบเกมรัฐบาลกัมพูชา ดังนี้ 1.แนวรบทางทหาร รัฐบาลประกาศสนับสนุน และกองทัพดำเนินการอยู่แล้ว การรบอย่างเต็มกำลัง มุ่งทำลายเป้าหมายทางทหารเพื่อขจัดขีดความสามารถการรบของกัมพูชา 2.แนวรบข่าวสาร กระทรวงการต่างประเทศต้องเร่งชี้แจง ว่าไทยมีความชอบธรรมในการปกป้องตนเองต่อประชาคมโลก และเราจำกัดขอบเขตโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารอย่างเคร่งครัด 3.แนวรบโลกล้อมกัมพูชา ด้วยการปราบสแกมเมอร์ รัฐบาลต้องเดินหน้าสุดซอยขุดรากถอนโคนขบวนการสแกมเมอร์ ที่เป็นหัวใจของระบอบฮุน เซนบี้ กต.-ปปง.ลุยสุดซอยขจัดแก๊งเทานายณัฐพงษ์ระบุอีกว่า มีข้อสังเกตว่าการแถลงข่าวของนายกฯ เรื่องการอายัดทรัพย์เบน สมิท, ยิม เลียก, ก๊ก อาน และเฉินจื้อ มีรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงนั่งกันเป็นแถว แต่กลับไม่มีตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ แสดงว่าในใจของนายกฯ กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้อยู่ในแนวหน้าปราบสแกมเมอร์ ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะหัวใจสำคัญในการปราบสแกมเมอร์ คือต้องเอาโลกล้อมตระกูลฮุน กระทรวงการต่างประเทศต้องเดินหน้าสุดซอย ปปง.ก็ต้องสุดซอย ตรวจสอบเส้นเงิน อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์ ไม่ใช่แค่เบน สมิท, เฉินจื้อ, ยิม เลียก แต่ต้องขยายผลถึงคนไทยที่อยู่เบื้องหลัง อย่าตัดตอนแค่ชาวต่างชาติ สุดท้ายนี้ขอส่งความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชนที่ต้องเดือดร้อนอพยพหนีภัยการสู้รบตลอดแนวชายแดน และขอส่งกำลังใจให้ทหารที่หน้าแนวทุกนาย หวังว่าทุกคนจะปลอดภัย ได้กลับบ้านไปหาคนที่รักในเร็ววันสว.น้ำเงินชม รบ.ตอบโต้เด็ดขาดพล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา กล่าวว่า ก่อนการโจมตีแต่ละครั้งฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุทุกวิถีทาง เมื่อไทยไม่ตอบโต้หรือไม่ทำอะไรที่เกินกว่ากติกาสากล หรือหลักมนุษยธรรม กัมพูชาทนไม่ได้ก็ยิงเข้ามา ทำให้เกิดความชอบธรรมที่ไทยจะตอบโต้ และมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลารบแล้วเราไม่ขลาด ไทยพยายามรักษาข้อตกลงสันติภาพมาตลอดแต่สุดท้ายยังไม่เป็นผล แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ทำตามก็ไม่มีผล ต้องทำตามกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อฝั่งกัมพูชาเปิดมาไทยก็ต้องทำให้จบโดยเร็ว หากเวลาเนิ่นนานไปประชาชนจะยิ่งเดือดร้อน เชื่อว่าเวทีโลกจะเข้าใจในบริบทของกัมพูชาดีพอสมควร ที่ผ่านมากัมพูชาเสมือนเด็กงอแง สู้ไม่ได้หรือไม่ได้ดั่งใจก็งอแงไปฟ้องแม่ นานาชาติคงเห็นเหมือนเรา การตัดสินใจเด็ดขาดชัดเจน กำลังทางอากาศเราใช้ไปแล้ว แต่ต้องเป็นสากล เราต้องไม่ไปละเมิดกฎ คิดว่ารัฐบาลทำได้รวดเร็ว สมเหตุสมผล เป็นไปตามขั้นตอนป.ป.ช.ฟันอดีต สส.พท.ฮุบที่ ส.ป.ก.วันเดียวกัน นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ครั้งดำรงตำแหน่ง สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง กรณีถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01 ข) เลขที่ 2443 ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เนื้อที่ 49-1-59 ไร่ จากการไต่สวนพบว่านายจิรพงษ์ ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินดังกล่าว แสวงหาประโยชน์จากที่ดินปลูกต้นยางพารา เก็บเกี่ยวผลผลิตต้นยางพาราเรื่อยมา ทั้งที่ทราบดีว่าคุณสมบัติการได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหมดสิ้นไป เพราะไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีรายได้ประจำจากเงินเดือน ค่าตอบแทนเพียงพอแก่การยังชีพ การที่นายจิรพงษ์เพิกเฉยไม่แจ้งสละสิทธิครอบครองที่ดิน หรือส่งมอบพื้นที่คืนให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยเจตนาหลีกเลี่ยงมิให้ที่ดินที่ครอบครองเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อนำไปจัดสรรให้เกษตรกร เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเอง ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการดำรงตำแหน่ง สส. จึงมีมติว่าการกระทำของนายจิรพงษ์ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 87 ต่อไป“สรวงศ์” เล็งหาผู้สมัครใหม่แทนนายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กำกับดูแลพื้นที่ภาคกลาง ให้สัมภาษณ์กรณีนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลจริยธรรมภายหลังใช้ที่ ส.ป.ก.โดยไม่มีสิทธิ์ว่า เจ้าตัวทราบเรื่องแล้ว พรรคเพื่อไทยเตรียมสรรหาผู้สมัครคนใหม่ ย้ำว่าไม่เป็นไร ถือว่าดีที่รู้ก่อนจะมีการสมัคร ไม่มีปัญหากังวลยื่นซักฟอกในสถานการณ์ร้อนผู้สื่อข่าวถามว่า มีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พรรคเพื่อไทยยังจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า เป็นข้อกังวลอยู่ แต่ อย่าลืมว่าหน้าที่ของฝ่ายค้านคือตรวจสอบรัฐบาล ต้องบอกว่าเราพร้อม แต่ทั้งหมดเราต้องคำนึงหลายๆ อย่าง หลังจากอุทกภัยครั้งใหญ่ เราก็มาเจอปัญหาชายแดนอีก ตอนนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกำลังประชุมเครียดกันอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อ เมื่อถามย้ำว่า ที่ประชุม สส.พรรควันที่ 9 ธ.ค. จะมีการพูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ประชุม สส.อาจมีการถกกัน เราต้องขอความเห็นจาก สส.ด้วย“สกลธี” เกินคาดคนแห่สมัคร สส.กทม.นายสกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ กทม. กล่าวว่า หลังพรรคเปิดแคมเปญ “สส.ที่ดี...คุณเองก็เป็นได้นะ” และจัดงาน “First Meet Bangkok” มีผู้สนใจเข้ามาสมัครกว่า 150 คน เพื่อคัดเลือกเป็นตัวแทนพรรคลงสมัครสส. ทั้ง 33 เขตใน กทม. ถือว่าเกินความคาดหมายกระแสตอบรับดีมาก มีทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มคนที่ไม่ใช่นักการเมือง ที่หวังนำองค์ความรู้และประสบการณ์ มาร่วมระดมความคิดช่วยกันพัฒนากรุงเทพฯ และประเทศ เชื่อว่าทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจสุจริต อยากเห็นการเมืองสุจริตภายใต้พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 15-16 ธ.ค.นี้ กรรมการสรรหาฯจะสัมภาษณ์รายบุคคล เพื่อเสนอคณะกรรมการบริหารพรรค ขอมติ เลือกผู้ที่เหมาะสมในวันที่ 24 ธ.ค.ยังไม่นัดวินิจฉัยคดี “ทวี-ภูมิธรรม”วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ สว. ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 42 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากผู้ถูกร้องทั้งสองมีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการเลือก สว. อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำ สว. ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญให้รอบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง หรือความเห็นของพยานบุคคลที่ยังส่งไม่ครบถ้วนตีตกคำร้องปลัดคลังเก็บภาษีมิชอบนอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติเป็นเอกฉันท์ มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ น.ส.รัชชร วิไลสกุลยศ ผู้ร้อง กล่าวอ้างว่านายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้ถูกร้อง ที่กำหนดนโยบายโครงการต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ให้ประชาชนได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ และวิธีการจัดเก็บภาษีอัตราก้าวหน้า และให้กรม สรรพากรคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยการนำกฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากรที่ออกตามความในประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (17) มา บังคับใช้ในโครงการลดหย่อนภาษี ไม่เป็นไปตามหลักการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้เสียภาษีฐานล่างได้รับความเดือดร้อนเสียหาย เป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 26 มาตรา 27 และมาตรา 62 ศาลฯเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ ผู้ร้องยื่นฟ้องผู้ถูกร้องต่อศาลปกครอง และศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา เป็นเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 47 (4) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้นผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213“โอ๊ค–เอม” เยี่ยมพ่อครบ 3 เดือนช่วงสายที่เรือนจำกลางคลองเปรม น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี พร้อมนายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ภรรยา เข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยมีมวลชนคนเสื้อแดงส่วนหนึ่งมารอรับให้กำลังใจ น.ส.พินทองทากล่าวว่า ตอนนี้ครบสามเดือนแล้ว ทราบว่าคุณพ่อมีความดันสูง ในฐานะลูกรู้สึกห่วงทุกวัน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามกรณีนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จากศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ลี้ภัยทางการเมือง โพสต์รูปภาพที่นายทักษิณถ่ายคู่กับนายลลิต โมดิ ผู้ต้องหาที่ถูกศาลอินเดียออกหมายจับข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงิน แต่ น.ส.พินทองทา ไม่ได้ตอบคำถามยังไม่ได้ปรับให้เป็นนักโทษชั้นดีผู้สื่อข่าวได้รับรายงานเพิ่มเติมจากกรมราชทัณฑ์ว่า ปัจจุบันนายทักษิณยังเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง ยังไม่ได้เลื่อนปรับเป็นชั้นดี เนื่องด้วยกระบวนการของระดับเรือนจำยังไม่ได้รวบรวมรายชื่อผู้ต้องขังเสนอปรับเลื่อนชั้นไปยังส่วนกลางกรมราชทัณฑ์ จึงยังคงชั้นกลางดังเดิม ขณะที่กรอบเวลาการได้รับการพิจารณาพักโทษกรณีทั่วไปนั้น นายทักษิณต้องถูกคุมขังเป็นระยะเวลา 6 เดือนก่อน จึงจะผ่านเกณฑ์ได้รับการพักโทษ ซึ่งจะตรงกับช่วงเดือน มี.ค.2569 เนื่องจากเงื่อนไขหลักในการขอพักโทษ ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ระบุว่า ระยะเวลาที่ต้องรับโทษ ต้องได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษามาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ