แถลงออกมาล่าสุดอีก 2 ประเทศแล้วครับ สำหรับประเทศในเอเชียที่รอคอยผลเจรจาเรื่องอัตราภาษีนำเข้าว่าสหรัฐฯจะเรียกเก็บใหม่ในอัตรากี่เปอร์เซ็นต์...ได้แก่ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่นปรากฏว่าผลโดยสรุปของฟิลิปปินส์ออกมาที่อัตราภาษี 19 เปอร์เซ็นต์ ได้ลดลงจากที่ประกาศไว้ล่าสุด 20 เปอร์เซ็นต์ เพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในขณะที่ฟิลิปปินส์จะไม่เก็บภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ (รอรายละเอียดจะสงวนอะไรบ้าง) และเพิ่มความสัมพันธ์ทางด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นข่าวบางกระแสระบุว่าฟิลิปปินส์ไม่น่าจะพอใจในดีลครั้งนี้เท่าไรนักเพราะลดเพียงเปอร์เซ็นต์เดียวดังกล่าว แถมยังเพิ่มขึ้นจาก 17 เปอร์เซ็นต์ ที่ทรัมป์ชูป้ายครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนเสียด้วยซ้ำแต่เท่าที่ดูจากสีหน้าระหว่างการให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ทำเนียบขาวก็พบว่าประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส มิได้มีอะไรผิดปกติ ให้สัมภาษณ์ด้วยใบหน้ายิ้มๆด้วยซ้ำอาจเป็นเพราะว่าประธานาธิบดีทรัมป์มานั่งให้สัมภาษณ์เคียงข้างด้วย และมีกล้องทีวีสหรัฐฯมาถ่ายทอดสดพึ่บพั่บไปหมดแถมทรัมป์ยังโพสต์ในโซเชียลของตนเองอย่างหยดย้อยชื่นชมประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ว่าเป็นผู้นำที่รักและเคารพในประเทศของตนเองอย่างสูง และเป็นนักเจรจาต่อรองที่ดีมากคนหนึ่ง และเป็นการมาเยี่ยมเยียนทำเนียบขาวที่งดงาม ฯลฯอีกประเทศซึ่งเจรจามาหลายยก (ประมาณ 7-8 ครั้ง) และเป็นข่าวอยู่พอสมควรมาโดยตลอด ก็จบลงเป็นที่เรียบร้อยเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ข้อความในเวลาต่อมา ได้แก่ ญี่ปุ่นนั่นเองทรัมป์เริ่มด้วยคำพูดที่ว่าท่านเพิ่งลงนามในข้อตกลงทางการค้าครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์กับญี่ปุ่น หลังจากที่การเจรจากับบุคคลระดับสูง ล่าสุดได้ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ยิ่งแก่ทั้ง 2 ฝ่าย“พวกเขาจะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 15 เปอร์เซ็นต์สำหรับการนำเข้า ซึ่งอัตรานี้จะใช้กับรถยนต์และยานยนต์ ตลอดจนชิ้นส่วนของรถยนต์ ซึ่งจะทำให้ญี่ปุ่นได้เปรียบผู้นำเข้ายานยนต์จากประเทศอื่นๆ ซึ่งถูกเรียกเก็บร้อยละ 25 ตามที่ประกาศไว้เมื่อเดือนเมษายน” ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ไว้ช่วงหนึ่งพร้อมให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าญี่ปุ่นยังจะมาลงทุนในสหรัฐฯในมูลค่า 550,000 เหรียญสหรัฐฯ และจะไม่เก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ (รอรายละเอียด ว่าจะสงวนสินค้าใดบ้าง)ครับ! ก็เป็นรายงานล่าสุดเกี่ยวกับภาษีทรัมป์ที่โลกกำลังรอคอยอยู่ขณะนี้ ซึ่งผมขอเล่าละเอียดนิดหน่อยเพื่อโยงมาถึงประเทศไทยของเราที่กำลังรอคอยว่า ทรัมป์จะตัดสินใจเก็บภาษีในอัตราเท่าใด?จากข่าวที่ผมสรุป วันนี้จะเห็นว่าทรัมป์เป็นคน “ขี้โอ่” และชอบคุยเสมอๆว่า เขาได้พูดกับใคร เจรจากับใคร เช่น กรณี อินโดนีเซีย วันก่อนก็อ้างว่าคุยกับประธานาธิบดี ซูเบียนโต โดยตรง และคราวนี้ก็โอ่ว่าคุยกับหมายเลข 1 ของฟิลิปปินส์สำหรับญี่ปุ่นแม้ล่าสุดจะไม่ได้คุยกับนายกฯโดยตรงแต่ทรัมป์ก็ใช้คำพูดว่า “เขาส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูง” มาเจรจากับเราตั้งแต่แรกในกรณีของประเทศไทยผมไม่แน่ใจว่าหลังจากพิจารณาข้อเสนอล่าสุดของเราแล้ว ทรัมป์จะโทร.มาคุยกับใคร เพราะนายกรัฐมนตรีไทยตัวจริงไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ และไม่แน่ใจว่าทรัมป์จะยอมคุยกับนายกรัฐมนตรีรักษาการหรือไม่?ก็ช่างเถอะ คุยหรือไม่คุยไม่ใช่ประเด็นใหญ่...เพราะเรื่องใหญ่ที่สุดก็คือเขาจะเก็บเราที่อัตราใด? อย่าลืมว่า ณ นาทีนี้ทรัมป์ตกลงกับอาเซียนไปแล้ว 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม 20 เปอร์เซ็นต์, อินโดนีเซีย 19 เปอร์เซ็นต์, ฟิลิปปินส์ 19 เปอร์เซ็นต์ถ้าเราโดนเก็บเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ไปเยอะๆ เช่น 28% หรือ 25% (จากตอนนี้ 36%) แม้จะลดลงมาแต่ก็จะเสียเปรียบเพื่อนอาเซียน 3 ประเทศที่ว่าค่อนข้างมากลุ้นระทึกกันต่อไปนะครับว่า เราจะโดนกี่เปอร์เซ็นต์ และทรัมป์จะคุยโอ่ว่าเขาเจรจากับใครในประเทศไทย?"ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม