“อำนาจ” นั้นมันเป็นดาบสองคม หากใช้ไปในทางที่ดีรอบคอบก็จะส่งผลดีต่อตัวเองและส่วนรวม ตรงกันข้ามหากใช้ไปในทางไม่ดีก็จะกลับมาเล่นงานตัวเองได้เช่นกัน แม้เวลาจะล่วงเลยมา 20 กว่าปีแล้วก็ตาม แต่คนใต้โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดยังคงอยู่ในความทรงจำมิอาจจะลบเลือนไปได้ง่ายๆ“ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนค่อนข้างสูงทำให้เขามีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ สามารถที่ชี้นกเป็นไม้ได้ทั้งมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดจะทำอะไรก็คิดว่าง่ายไปเสียหมดจนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจนมาถึงวันนี้นั่นคือการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดที่ยืดเยื้อยาวนาน ลองผิดลองถูกกันมาเยอะ โดยรัฐบาลก่อนหน้านั้นได้ดำเนินนโยบาย “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับแต่พอ “ทักษิณ” ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศที่มีอำนาจมากล้นเขาบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของ “โจรกระจอก” เขาสามารถจัดการได้เพียงไม่กี่วันจากนั้นก็เริ่มรื้อนโยบายใหม่ สั่งตำรวจเข้าไปปฏิบัติภารกิจด้วยการลุยฆ่าตัดตอนปราบปรามแบบบู๊ล้างผลาญทันทีเป็นผลให้เกิดความรุนแรงขึ้นมาทันที!จนเกิดเหตุ “ตากใบ” ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยเพราะความผิดพลาดที่เป็นแผลใจมาจนถึงทุกวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ร่วมกระทำผิดไม่มีใครถูกลงโทษแม้แต่คนเดียวเพราะเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยไม่เอาจริงเอาจัง จนกระทั่งคดีหมดอายุความในสมัยรัฐบาลนี้ ซึ่ง “ลูกสาวทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรีจาก “พ่อถึงลูก” ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง...วันนี้ “ทักษิณ” คิดจะกลับมาแก้ตัว “ล้างบาป” หรือ “สร้างบาป” อีกครั้งยังไม่รู้ได้ แต่เขาจำเป็นที่จะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลให้มีผลงาน จะได้กุมอำนาจต่อไปนานๆเหตุพอดีที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้เป็นประธานอาเซียนได้แต่งตั้งให้เขาเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ก็เลยได้ช่องคือแก้ไขปัญหาเมียนมาและ 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะถ้าแก้ไข 2 ปัญหานี้ได้ก็จะทำให้มีผลงานชัดเจน เรียกคะแนนให้ “เพื่อไทย” ได้เพียบ“ทักษิณ” จะเดินทางไป 3 จังหวัดภาคใต้พร้อมกับ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีกลาโหม โดย “ทวี สอดส่อง” รัฐมนตรียุติธรรม เจ้าของพื้นที่ร่วมขบวนไปด้วยจุดมุ่งหมายก็เพื่อรับฟังปัญหาและคำแนะนำจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะคนในพื้นที่ เพื่อนำมาประมวลและออกนโยบายใหม่ในการแก้ไขปัญหามีข่าวว่าจะปัดฝุ่นนโยบาย 66/2523 ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งแก้ไขปัญหาคอมมิวนิสต์จนสำเร็จมาปรับใช้ประกอบกับการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่รู้ดีว่าปัญหาที่เกิดขึ้นควรจะแก้ไขอย่างไร จากนั้นก็จะนำนโยบายใหม่นี้มาปฏิบัติบทเรียนที่ผ่านมาคงทำให้ “ทักษิณ” ได้คิดถึงความผิดพลาดที่ตัวเองได้ก่อไว้ จึงต้องรับฟังความเห็นต่างๆอย่างรอบด้านไม่ดันทุรังเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่ก็หวังว่าแนวทางใหม่นี้จะ “ดับไฟใต้” ได้!เพราะจะเป็นประโยชน์แก่คน 3 จังหวัด แล้วยังเกิดผลดีต่อประเทศโดยรวมที่ทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศเกิดความสงบ สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขแน่นอนรัฐบาลจะได้คะแนนไปเต็มๆพื้นที่ภาคใต้ที่ “เพื่อไทย” ไม่เคยมี สส. ต่อไปอาจจะมีก็ได้เพราะสนามเลือกตั้งครั้งต่อไปนี้ต้องการได้ สส.มากที่สุดจึงต้องหวังจากทุกพื้นที่!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม