ทำร้านอาหาร “หลายรส” ที่ถนนพระราม 6 โดยมี “ข้าวแช่ชาววัง” ที่สืบทอดจากมารดาเป็นเมนู อมตะ ตำนานของร้าน ซึ่ง ดุจ เกษมสุวรรณ ได้จากมารดา อุไร เกษมสุวรรณ ที่ติดตามพี่สาว หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา ไปอยู่ในวังละโว้ตั้งแต่สาวๆ จนแต่งงานมีลูก พวก คุณดุจ จึงวิ่งเล่นอยู่ในวังตั้งแต่เกิด ทำให้คุ้นเคยกับรสชาติอาหารที่ต้นเครื่องในวัง “ป้าคำหวาน” ทำถวาย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ รวมทั้งสำรับข้าวแช่ ที่ต้องขึ้นโต๊ะเสวยทุกหน้าร้อน เมื่อมารดาออกมาอยู่นอกวัง เปิดร้าน หลายรส จึงขอสูตร “ข้าวแช่” ชาววังมาทำขาย ซึ่ง คุณดุจ ก็ได้สืบทอดต่อเป็นปีที่สี่สิบแล้ว โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม หลายรส จะขึ้นป้ายใหญ่ “เทศกาลข้าวแช่ชาววัง” หน้าร้านบอกกล่าวลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำกินกันมาหลายสิบปีจนบางคนอายุ 80-90 ระยะหลัง คุณดุจ หันไปสนุกกับการคิดธีมต่างๆ เชิญชวนลูกค้าผ่านทางเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม จึงได้ทั้งลูกค้า และได้เป็น นางเอกของคลิปตัวเองด้วย ที่กรี๊ดมากคือ ได้ บิบ กูร์มองด์ มิชลิน ไกด์ ซึ่งมีเมนูอร่อย 3 เมนู คือ ข้าวแช่ชาววัง กุ้งต้มกะทิ และของหวาน ข้าวเม่าน้ำกะทิเม็ดแมงลัก ซึ่ง คุณดุจ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรเลย เพื่อสืบทอดรสชาติอาหารชาววังละโว้ทุกคำ ทั้งลูกกะปิ พริกหยวกยัดไส้ ห่อด้วยหรุ่ม ที่มีเทคนิคพิเศษในการสะบัดข้อมือตามแบบฉบับชาววัง พอส่งคลิปออกไปก็มีแฟนคลับติดตามหัวเราะกันมากมายจน คุณดุจ ต้องทำคลิปทุกเทศกาล สำหรับเทศกาลข้าวแช่ปีนี้ คุณดุจ มาในธีม “เพลิงพระนาง” ละครดัง โดยลงทุนทำเสลี่ยง ให้เด็กผู้ชาย 4 คนหาม ยึดฟุตปาทหน้าร้าน หลายรส ริมถนนพระราม 6 เป็นสตูดิโอ ถ่ายทำการเคลื่อนขบวนกันหลายชั่วโมง สร้างความแตกตื่นขบขันแก่คนในรถยนต์ที่ติดไฟแดงแถวหน้าร้าน และมีรถหลายคันนึกสนุกด้วย เปิดกระจกรถเอามือถือถ่ายภาพไปทำไวรัลกันครึกครื้นกับความช่างกล้าของ “พระมหาเทวีเจ้า” ที่ใส่วิกทรงสูง ประดับด้วยช่อดอกไม้ทองเต็มหัว นุ่งผ้าถุงลายพม่า ห่มผ้าไหม ติดเข็มกลัดเพชรอันยักษ์ พร้อมสร้อยเพชรชุดใหญ่ สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบเห็นในถนนและที่เดินผ่านฟุตปาทหน้าร้าน แต่ขณะที่คนดูคลิปขำกันทั้งเมือง ไม่มีใครรู้ว่า เบื้องหลังการถ่าย “เจ้านางอนันต์ทิพย์” เกือบตกเสลี่ยงสิ้นพระชนม์ เพราะเสลี่ยงที่ออกแบบเองตามมีตามเกิด ไม่มีการคำนวณความถูกต้องตามหลักวิศวะเลยแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว โดยลงทุนซื้อไม้ไผ่ 300 บาท ไปจ้างตีตะปูต่อไม้อีก 100 แล้วเอาเก้าอี้ในครัวไปตั้ง เอาผ้าสีทองคลุมๆให้ดูหรู พอขึ้นไปนั่งเสลี่ยงจึงโยกไปโยกมา จน พระนางดุจ เกือบหัวทิ่มตกเสลี่ยงแขนขาหรือคอหักไปหลายเทก แต่ความเสียดายค่าพร็อพที่ลงทุนไปเยอะ (แต่มีข้อแม้ว่าต้องไม่เกิน 1,000 รวมทิปลูกน้องแล้ว) พระนางดุจ จึงอดทนเสี่ยงตายถ่ายต่อจนจบ และเข็ดกับการขึ้นที่สูงไปเลย--ธีมใหม่หลังจากธีมข้าวแช่ คุณดุจ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ นักแสดง ผู้กำกับ จึงประกาศจะถ่ายทำแบบติดดินเท่านั้น เพราะไม่อยากถูกจับแช่โลงเย็นก่อนวัยอันควร และตั้งใจอยากสร้างความสุขให้ผู้ชมได้หัวเราะกันบ้าง ในยุคที่ผู้คนมากมายแทบจะยิ้มไม่ออก เมื่อเจอวิกฤติต่างๆรุมเร้าในสังคมโลกปัจจุบัน.โสมชบาอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่