จับมือกันเข้ามาต่อยอดพัฒนาธุรกิจของครอบครัว รินรดา-จารุพงศ์-จารุพันธุ์ ทรัพย์คีรี ทายาทร้านอาหารเมธาวลัย ศรแดง ที่โด่งดัง ได้ใช้แนวคิดของคนรุ่นใหม่มาพัฒนาธุรกิจสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกิจการในครอบครัว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคโควิดนี้รินรดา หรือ นาย พี่สาวคนโต มีดีกรีปริญญาตรีบัญชีและการเงิน จาก University of Edin burgh และปริญญาโท Marketing Strategy and Innovation, Bayes Business School มหาวิทยาลัย ส่วนน้องชายฝาแฝด เนม-จารุพงศ์ จบปริญญาตรีด้านบริหาร The University of British Columbia และ นาม-จารุพันธุ์ จบด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งทั้ง 3 คน ได้เข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัว ร้านอาหาร “เมธาวลัย ศรแดง” ร้านดังในตำนานที่อยู่บนถนนราชดำเนิน ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้มิชลินไกด์การันตรีความอร่อย โดย เนม-นาม เล่าว่า ร้านนี้มีประวัติก่อตั้งปี 2500 และทางครอบครัวตนได้มาเทกโอเวอร์ แล้วได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมธาวลัย ศรแดง เทกโอเวอร์เมื่อปี 2536 โดยมีคุณย่ากับ คุณพ่อเป็นผู้บริหาร บ้านของเราอยู่ข้างหลังร้าน สนามเด็กเล่นของเราคือ ร้านศรแดง เราจึงคลุกคลีในครัวตั้งแต่เด็ก และมีความคิดว่าอยากกลับมาทำงานกับที่บ้าน ซึ่งตอนที่เรียนต่างประเทศเนมและนามก็ไปฝึกงานที่ร้านอาหารไทย โดยเนมไปเป็นเด็กเสิร์ฟ ส่วนนามทำงานในครัว พอเรียนจบ นามรู้สึกชอบการทำอาหารเลยไปเรียนทำอาหารไทย ที่ MSC Thai Culinary School ส่วนนายได้ออกไปทำงานข้างนอกบ้านสักพัก สุดท้ายก็กลับมาช่วยกันทำงานของที่บ้าน พร้อมกับการผุดโปรเจกต์ใหม่ การทำร้านอาหาร “บ้านแดง by เมธาวลัย ศรแดง” ที่ตั้งอยู่โครงการ Block 28 จุฬาซอย 5 เปิดบริการทุกวัน 11.00-21.00 โทร.06-3624-6652 Line OA : @methasorndaeng “บ้านแดง เป็นโปรเจกต์ที่ทั้งคุณพ่อและพวกเราอยากขยายธุรกิจในเครือเมธาวลัย ศรแดง อยู่แล้ว แต่ว่าเราไม่อยากขยายในชื่อของเมธาวลัย ศรแดง เพราะเรารู้สึกว่าร้านเมธาวลัย ศรแดง เป็นตำนานที่เราไม่อยากให้ชื่อนี้มาทำหลายๆที่ เราจึงอยากสร้างอีกแบรนด์หนึ่ง ซึ่งบ้านแดงจะมีความร่วมสมัย มีเมนูใหม่ๆ และมีบางเมนูมาจากเมธาวลัยศรแดง แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เราการันตีความอร่อย ซึ่งเราตั้งใจเปิดเมื่อเดือน มี.ค. เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่เจอโควิด ระลอกแรก ทำให้เราเลื่อนมาเปิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ในปีนี้ พร้อมกับการปรับตัวในการทำธุรกิจรับภาวการณ์โควิดด้วย” ทายาททั้ง 3 บอกกล่าว ในการรับช่วงไม้ต่อผู้บริหารรุ่นใหม่ทั้ง 3 มองว่าในการทำงานไม่ว่าจะทำอะไรล้วนมีความท้าทาย ซึ่งธุรกิจใหม่นี้เปรียบเสมือนโรงเรียนที่จะเสริมสร้างประสบการณ์ให้แก่เราทั้ง 3 คน โดยทุกคนต่างจับมือกันทำงานร่วมกัน ซึ่งนายและเนม จะดูเรื่องการตลาด การเงิน บัญชี บริหาร และนาม ดูแลในเรื่องอาหาร โดยยึดคำสอนของพ่อ ที่ให้ยึดหลักการทำงาน คืออาหารต้องอร่อยเหมือนเดิม ไม่ว่าจะสั่งสักกี่ครั้ง และเชื่อว่าถ้าเรายังคงความพยายามในการทำงาน วันหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จ วันหนึ่งเราจะเดินไปถึงจุดจุดนั้น ตามที่เราคาดหวังเอาไว้...พลังบวกที่สู้งานไม่ถอยของผู้บริหารไฟแรงทั้ง 3 คน.