แบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคบรูเซลโลซิส (Brucellosis) นั้นมีรายงานว่าพบในสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น แกะป่า แพะ วัวควาย กระทิงยุโรป กวางเรนเดียร์ และหมูป่า องค์การอนามัยโลกระบุว่าโรคนี้แพร่ระบาดในโค และมนุษย์ติดเชื้อชนิดนี้เมื่อสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ ซึ่งในโบราณกาลนั้นสัตว์เหล่านี้ล้วนเป็นแหล่งอาหารของกลุ่มมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล (Neanderthal) เครือญาติยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมนุษย์เราที่สูญพันธุ์ไปแล้วล่าสุด ทีมวิจัยนำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซูริก ในสวิตเซอร์แลนด์ เผยพบหลักฐานของโรคบรูเซลโลซิสในซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล ที่อาจเป็นหลักฐานแรกสุดของการแพร่กระจายโรคบรูเซลโลซิสจากสัตว์สู่คน เมื่อตรวจวิเคราะห์โครงกระดูกมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล ที่รู้จักกันในชื่อ “Old Man of La Chapelle” ที่พบในถ้ำใกล้กับหมู่บ้านลา ชาแปล อ็อง แซ็งส์ ของฝรั่งเศสเมื่อปีพ.ศ.2451 นักวิจัยระบุว่านี่เป็นซากมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เกือบสมบูรณ์ชิ้นแรกที่ค้นพบและเป็นหนึ่งในซากที่มีการวิจัยมากที่สุดการศึกษาก่อนหน้านี้พบว่ามนุษย์คนนี้มรณาเมื่อช่วง 50,000 ปี ขณะอายุ 50 ปีหรือ 60 ปีปลายๆ และยังเป็นโรคข้อเสื่อมขั้นสูง ซึ่งพบได้บ่อยในลำกระดูกสันหลังและข้อต่อที่สะโพก แต่การวิจัยกระดูกครั้งใหม่พบว่าการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยาบางอย่างเกิดจากการอักเสบที่มาจากแบคทีเรียบรูเซลโลซิส บ่งชี้ถึงการที่โรคแพร่จากสัตว์สู่คนในช่วงวิวัฒนาการของสายพันธุ์มนุษย์ ทั้งนี้ โรคบรูเซลโลซิสยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้เป็นไข้ ปวดกล้ามเนื้อ เหงื่อออกตอนกลางคืนนานหลายสัปดาห์ถึงหลายปี นักวิจัยสงสัยว่าแบคทีเรียที่ก่อโรคนี้อาจเข้าสู่ร่างกายมนุษย์นีแอนเดอร์ธัลผ่านการที่พวกเขาฆ่าสัตว์หรือกินเนื้อดิบๆ นั่นเอง.Credit : Martin Hausler/UZH