คุกคืนแรกของฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 2004 “มนัส บุญจำนงค์” มีอาการเครียด นอนไม่ค่อยหลับ แต่โฆษกราชทัณฑ์มองว่าเป็นเรื่องปกติของคนที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำคืนแรก เชื่ออาการจะดีขึ้นเพราะตรวจแล้วไม่มีโรคประจำตัว จิตใจปกติดี ส่วนกรณีมีความสามารถพิเศษเป็นถึงนักมวยสมัครเล่นเหรียญทองโอลิมปิก คงไม่ถึงกับต้องให้มาสอนผู้ต้องขังชกมวย ทำได้อย่างมากแค่นำออกกำลังกาย ต้องหลังจากพิจารณาแล้วว่าจะไปรับโทษ 2 ปี 9 เดือนที่เรือนจำไหนกรณีตำรวจ บก.ปทส. นำกำลังจับกุมนายมนัส บุญจำนงค์ อายุ 45 ปี อดีตนักมวยสมัครเล่นเหรียญทองโอลิมปิก 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ และเหรียญเงินโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามหมายจับศาลแขวงดอนเมือง 2หมาย ประกอบด้วยเลขที่ 35/2568 ลงวันที่ 28 ม.ค.2568 ข้อหาฉ้อโกง และหมายจับศาลแขวงดอนเมืองที่ 110/2568 ลงวันที่ 31 มี.ค.2568 ข้อหาฉ้อโกงเช่นเดียวกัน กรณีชักชวนเหยื่อร่วมลงทุนโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท หลังชุดจับกุมส่งตัวให้ศาลแขวงดอนเมืองตามหมายศาลสั่งให้คุมตัวไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครทันที ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าจากกรมราชทัณฑ์ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์เปิดเผยถึงการถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครคืนแรกของนายมนัส บุญจำนงค์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่เรือนจำดำเนินการรับตัวผู้ต้องหาตามขั้นตอน ต้องตรวจประวัติและสุขภาพตามระเบียบ เช่น ตรวจสอบเอกสาร หมายจำคุก หมายเลขประจำตัวประชาชน พิมพ์ลายนิ้วมือ ส่วนสุขภาพไม่พบว่ามีโรคประจำตัวและจิตใจปกติดี สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ผู้ต้องขังใหม่จะแยกเข้าห้องควบคุมโรคตามมาตรการหรือแดนแรกรับประมาณ 5 วัน ก่อนพิจารณาย้ายแดนต่อไป“เบื้องต้นได้รับรายงานว่า นายมนัสมีความเครียดบ้าง นอนไม่ค่อยหลับหลังเข้ามาอยู่ในเรือนจำคืนแรก ตามปกติของผู้ต้องขังเข้าใหม่อาจใช้เวลาสักพักเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในเรือนจำ นอกจากนี้เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเป็นเรือนจำระหว่างพิจารณาคดีไม่มีการฝึกอาชีพ เมื่อศาลตัดสินแล้วจะส่งตัวไปเรือนจำอื่น แม้ผู้ต้องขังมีความสามารถเป็นอดีตนักมวยทีมชาติ อาจไม่ถึงขั้นกับต้องมาสอนมวยกันจริงๆจังๆ แต่ทำได้แค่นำผู้ต้องขังคนอื่นๆ ออกกำลังกายทั่วไปเท่านั้น” โฆษกกรมราชทัณฑ์กล่าวมีรายงานด้วยว่า ข้อเท็จจริงในส่วนของกระบวนพิจารณาคดีนายมนัส บุญจำนงค์ ของศาลแขวงดอนเมือง สรุปได้ดังนี้ นายมนัสถูกฟ้องเป็นจำเลยความผิดฐานฉ้อโกง 2 คดี เกี่ยวกับการหลอกลวงผู้เสียหายว่า สามารถนำสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจำหน่ายให้แก่ผู้เสียหายได้ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้จำเลย ชั้นพิจารณาจำเลยให้การรับสารภาพ และขอผ่อนชำระเงินคืนผู้เสียหาย ศาลจึงจำหน่ายคดีชั่วคราว แต่เมื่อถึงวันนัดฟังผลเกี่ยวกับการชำระเงินให้ผู้เสียหายครั้งสุดท้าย จำเลยไม่มาศาลตามนัด ศาลจึงออกหมายจับเพื่อให้มาฟังคำพิพากษาเมื่อถึงวันนัดฟังคำพิพากษาจำเลยไม่มาศาลตามนัดอีก ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย โดยคดีแรกอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ม.ค.68 ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน ส่วนคดีที่สองอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 มี.ค.68 ให้จำคุก 1 ปี 3 เดือนโดยให้นับโทษต่อจากคดีแรก รวมโทษจำคุก 2 ปี 9 เดือน กระทั่งวันที่ 19 ธ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายมนัสมาส่งให้ศาลแขวงดอนเมือง สอบถามยืนยันตัวตนตามขั้นตอนแล้วจึงออกหมายจำคุกถึงที่สุด มีผลให้จำเลยถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพื่อรับโทษจำคุกตามหมายคดีถึงที่สุดต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่