“อนุทิน” โอ่ถกนอกรอบผู้นำสหรัฐฯ ไทยมีลุ้นได้เงื่อนไขดีอัตราภาษีการค้ามะกัน หารือประธานาธิบดีเกาหลีใต้ดันเป้าการค้าให้ถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ การันตีดูแลเอกชนเกาหลีเต็มที่ ขึ้นเวทีเอเปกชูไทยสะพานเชื่อมเศรษฐกิจโลก “ทรัมป์-สี จิ้นผิง” หารือลดดีกรีสงครามการค้า เผยจีนกลับมาซื้อถั่วเหลือง-ลดคุมเข้มส่งออกแร่หายาก 1 ปี “ธรรมนัส” ป้อง “ชนนพัฒฐ์” ถูกขุดคดีเก่า โต้ผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้วต้องแยกแยะให้ความเป็นธรรม โบ้ยถ้าเช็กกว่า 440 สส.ทั้งสภาฯมีประวัติกันหมด “โรม” หวดนายกฯประกาศสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ แต่ไม่ปราบจริงจัง ชงออก พ.ร.ก.ปราบสแกมเมอร์ ห่วงทุนดำยึดสนามเลือกตั้ง “ไอซ์” แฉแก๊งฟอกขาวเงินดำผ่านเว็บลอตเตอรี่ หว่านเงินเทาซื้อเสียงเข้าสู่อำนาจรัฐ พท.จัดทัพดัน “จุลพันธ์” นั่ง หน.พรรคคนใหม่ “ประเสริฐ” คัมแบ็กเลขาฯพรรคนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ใช้เวทีการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย.ที่เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี ชูบทบาทประเทศไทยเป็นสะพานเชื่อมเศรษฐกิจของภูมิภาค ส่วนการหารือนอกรอบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯเรื่องภาษีการค้า นายกฯระบุมีสัญญาณเป็นบวกต่อประเทศไทย“อนุทิน” ตีปี๊บถก “ทรัมป์” ทิศทางดีเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 29 ต.ค. ภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกเป็นกรณีพิเศษ และได้นั่งรับประทานอาหารค่ำโต๊ะเดียวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายอนุทินได้เดินไปยืนพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างเป็นกันเองลุ้นเงื่อนไขเจรจาภาษีการค้าสหรัฐฯจากนั้นที่โรงแรม Commodore Hotel เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทินให้สัมภาษณ์กรณีมีโอกาสพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ว่า มีสัญญาณดีหลายเรื่อง ทั้งการคลี่คลายความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา หลังการลงนามถ้อยแถลงร่วมฯ รวมถึงการเจรจามาตรการภาษีสหรัฐฯ เรายังมีการเจรจาภาษีการค้ากันอยู่ กำลังรอร่างข้อตกลงล่าสุด ที่จะลงนาม ได้ขอให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยได้รับเงื่อนไขที่ดีมากกว่านี้ ท่านรับปากจะไปแจ้งให้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯที่รับผิดชอบให้พูดคุยกัน เพื่อให้ไทยได้รับประโยชน์เป็นแนวโน้มที่ดี และจากการที่ได้พูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ถึง 2 ครั้งคือที่มาเลเซียครั้งหนึ่งและที่เกาหลี ท่านได้รับปากแสดงถึงทิศทางที่ดีเป็นสัญญาณบวกสำหรับไทยหารือ บ.วัคซีนเพิ่มศักยภาพต่อมาเวลา 09.30 น. วันที่ 30 ต.ค. (ตามเวลา ท้องถิ่นเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง) ที่โรงแรม Commo dore Gyeongju เมืองคยองจู นายอนุทินหารือทวิภาคีกับนายอัน แจ-ยง ประธานบริษัท SK bioscience Co., Ltd. มีพื้นฐานด้านธุรกิจวัคซีนมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 มีนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุขเข้าร่วม นายอนุทินกล่าวว่า สมัยเป็น รมว.สาธารณสุขปี 2565 ได้หารือโครงการเชื่อมโยงความร่วมมือกับบริษัท SK bioscience ในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนของไทย ส่งเสริมการใช้วัคซีนที่ผลิตในประเทศ หวังว่าหากมีความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชกรรม และ SK bioscience ในการผลิตวัคซีน ไทยจะมีวัคซีนใน 100 วัน หากเกิดภาวะระบาดใหม่ด้วยราคาเหมาะสม ด้านนายอันกล่าวถึงการร่วมทุนกับองค์การเภสัชกรรมจะเป็นประโยชน์ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้การผลิตวัคซีน เชื่อว่าจะนำไปสู่การผลิตวัคซีนตามความคาดหวัง ขอบคุณนายอนุทินที่ให้คำแนะนำการพัฒนาวัคซีนที่ครอบคลุมและหลากหลาย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านวัคซีนทั้งในไทยและระดับภูมิภาคด้วยชวนเอกชนสหรัฐฯลงทุนในไทยเมื่อเวลา 10.10 น. ที่ Salon Heritage เมืองคยองจู นายอนุทินหารือกับผู้แทนกลุ่มนักธุรกิจสหรัฐฯ สมาชิกองค์กร US-APEC Business Coalition พร้อมผู้เข้าร่วมจากภาคเอกชนหลากหลายบริษัท อาทิ Amazon Mastercard โดยนายอนุทินขอบคุณ US-APEC Business Coalition ที่จัดหารือครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่ไทยได้พบกับพันธมิตรทางเศรษฐกิจสำคัญอย่างสหรัฐฯ ไทยยินดีที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ เช่น Amazon Web Services รวมถึง Google และ Microsoft ขยายการลงทุนในไทย ขอเชิญชวนภาคเอกชนสหรัฐฯร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์และอุตสาหกรรมเกษตร-อาหาร ที่ไทยมีศักยภาพสูงและพร้อมต่อยอดด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงจากสหรัฐฯ ด้านผู้แทนภาคธุรกิจสหรัฐฯขอบคุณนายกฯ ชื่นชมต่อความมุ่งมั่นของรัฐบาล ตลอดจนนโยบายด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ อาทิ โครงการคนละครึ่งพลัสและพร้อมเข้ามาขยายการลงทุนในโครงการ digital payment ของรัฐบาลหารือทวิภาคีดูแลเอกชนเกาหลีอย่างดีจากนั้นเวลา 15.40 น. ที่ห้องหารือทวิภาคี ศูนย์ประชุม Hwabaek International Con vention (HICO) เมืองคยองจู นายอนุทินหารือทวิภาคีกับนายอี แช มย็อง (H.E. Mr. Lee Jae Myung) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระหว่างประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก สาระสำคัญนายอนุทินได้กล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เสนอให้ทั้ง 2 ประเทศตั้งเป้าหมายการค้าให้ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีเขตการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือสำคัญ ไทยจะดูแลนักลงทุนเกาหลีใต้เต็มที่ ทั้งในโครงการ Hyundai, COSMAX, KakaoBank ที่จะจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาในไทยและบริษัท Korea Land & Housing Corporation (LH) ที่จะตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกาหลีใต้แห่งแรกในไทย ขอประธานาธิบดีพิจารณาเพิ่มแรงงานถูกกฎหมายที่จะมาทำงานในเกาหลี ช่วยดูแลปัญหาคนไทยและนักท่องเที่ยวไทยถูกปฏิเสธการเข้าเมืองเมื่อมาถึงเกาหลีแล้ว สูญเสียทั้งเงินและเวลาด้วยชูบทบาทไทยสะพานเชื่อมโลก ศก.จากนั้นเวลา 16.30 น. ที่ Gyeongju Art Center เมืองคยองจู นายอนุทินกล่าวปาฐกถาพิเศษในการประชุมสุดยอดผู้นำภาคธุรกิจของเอเปกประจำปี 68 ภายใต้หัวข้อ “Bridge. Business. Beyond.” เนื้อหาตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมุ่งมั่นวางรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืน ผ่านแนวทาง Quick Big Win มุ่งเน้น 3 ด้านหลักคือการเชื่อมช่องว่างทางเศรษฐกิจที่ต้องเริ่มจากประชาชนให้ทุกคนมีส่วนร่วม การสร้างโอกาสทางธุรกิจ เสริมกำลังให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs กำลังหลักเศรษฐกิจไทย และการมองไปข้างหน้าให้ไกลกว่าเดิม เพื่ออยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมและความร่วมมือใหม่ๆ ทุกความพยายามของรัฐบาลคือการสร้างสะพานเชื่อมผู้คนผ่านโอกาสและการมีส่วนร่วม เชื่อมเศรษฐกิจผ่านการค้าและนวัตกรรม เชื่อมโยงการทำงานของวันนี้กับอนาคตที่ต้องการ โดยไทยเปิดกว้างและพร้อมทำงานร่วมกับทุกภาคีสานสัมพันธ์แคนาดาครบรอบ 65 ปีกระทั่งเวลา 18.00 น. ที่โรงแรม Commodore Gyeongju เมืองคยองจู นายอนุทินหารือทวิภาคีนายมาร์ก คาร์นีย์ นายกฯแคนาดา โดยนายกฯทั้ง 2 ประเทศยินดีที่ได้หารือกันเป็นครั้งแรก เห็นพ้องจะร่วมมือส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ปีหน้าจะครบรอบ 65 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้ง 2 ฝ่ายยินดีต่อการเปิดเส้นทางบิน Vancouver-Bangkok ของสายการบินแอร์แคนาดา จากเดิมเป็นฤดูกาลมาบริการตลอดทั้งปี (เริ่ม 28 ต.ค.68) ส่วนความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ เห็นพ้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขและต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการฉ้อโกงออนไลน์สแกมเมอร์ นายกฯประสงค์ให้การเจรจา FTA ไทย-แคนาดาสรุปผลได้ภายในปีหน้า ขณะที่นายกฯแคนาดาแสดงความเสียใจ ขอให้สถานการณ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้นโดยเร็ว“ทรัมป์–สี จิ้นผิง” ถกนอกรอบลดดีกรีวันเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปก ที่เกาหลีใต้ หวังคลี่คลายปัญหาทางการค้าที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก หลังรัฐบาลสหรัฐฯของนายทรัมป์ตัดสินใจใช้นโยบายกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่างๆโดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ตาม การประชุมดังกล่าวมีผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่าไม่ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเรื่องผลกระทบของการค้าโลก เนื่องจากไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆอย่างเป็นทางการ เป็นเพียงการตกลงรับปากในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าสหรัฐฯ-จีนจีนซื้อถั่วเหลือง–ลดคุมส่งออกแร่หายากการประชุมระหว่างนายทรัมป์และนายสี จิ้นผิง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที จากเดิมตั้งเป้าไว้ว่าจะหารืออย่างเข้มข้นนาน 3-4 ชั่วโมง และผู้นำสหรัฐฯได้เดินทางไปสนามบิน เพื่อบินกลับสหรัฐฯทันที ไม่มีการออกแถลงการณ์ร่วม ปรากฏเพียงภาพถ่ายรูปจับมือ โดยนายทรัมป์แสดงท่าทีพยายามยิ้มแย้ม แต่มีสายตาที่เคร่งเครียด ขณะที่นายสี จิ้นผิง แสดงสีหน้านิ่งเฉยพร้อมเม้มปากบางช่วงเวลา จากนั้นนายทรัมป์จึงไปชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ระหว่างเดินทางกลับสหรัฐฯ ระบุว่าสิ่งที่ตกลงรับปากกันคือเรื่องจีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากเกษตรสหรัฐฯ (หลังจากที่ยุติการซื้ออย่างสิ้นเชิงจนยอดเป็นศูนย์ในเดือน ก.ย.) และจะลดการควบคุมการส่งออกแร่หายากจากจีนเป็นเวลา 1 ปี ตราบเท่าที่สหรัฐฯระงับการตรวจสอบอุตสาหกรรมการขนส่ง ต่อเรือว่าละเมิดข้อตกลงกับสหรัฐฯหรือไม่ ส่วนทางการจีนระบุต่อมาว่า จีน-สหรัฐฯมีการเห็นพ้องขั้นพื้นฐาน“เอกนิติ” ปลื้มเงินสะพัดคนละครึ่งพลัสที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและ รมว.คลัง กล่าวถึงโครงการคนละครึ่งพลัส หลังเริ่มวันแรกเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค. มีเงินสะพัด 1,500 ล้านบาท มีประชาชนใช้สิทธิ์ 1.6 ล้านคน ร้านค้าประมาณ 6 แสนราย ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนโครงการนี้ ยืนยันว่าร้านค้ายังลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 19 ธ.ค. เมื่อถามว่าประชาชนที่ตกหล่นรอโครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 ได้เลยใช่หรือไม่ นายเอกนิติกล่าวว่า ได้ เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย สั่งการแล้วสั่ง จว.ชวนร้านค้า–โอทอปเข้าร่วมนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยแพร่หนังสือปลัดกระทรวงมหาดไทยถึง ผวจ.ทั่วประเทศและผู้ว่าฯ กทม.ขอให้สนับสนุนและรายงานผลงานดำเนินงานโครงการคนละครึ่งพลัส ตามที่นายกฯสั่งการ โดย 1.ให้อำเภอและขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อำนวยความสะดวกรับลงทะเบียนร้านค้าระดับพื้นที่ตำบล/ชุมชนให้ทั่วถึงทุกกลุ่มร้านค้า 2.ให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอเชิญชวนร้านค้า/ผู้ประกอบการโอทอปเข้าร่วม และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าโอทอปกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เช่น จัดตลาดนัดสินค้าโอทอปทุกสัปดาห์ ที่ศาลากลางจังหวัดหรือที่ว่าการอำเภอ เป็นต้น 3.ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจร้านค้าว่ากระทรวงการคลังไม่ได้ส่งต่อข้อมูลธุรกรรมให้กรมสรรพากรตรวจสอบรายได้ 4.มอบหมายที่ทำการปกครองจังหวัดรายงานผลประชาสัมพันธ์โครงการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกวันศุกร์ ครั้งแรกวันที่ 7 พ.ย.จนสิ้นสุดโครงการ“ธรรมนัส” ป้อง “ชนนพัฒฐ์” ถูกขุดคุ้ยเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเชื่อมโยงนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรค กธ. เกี่ยวข้องเส้นเงินแก๊งสแกมเมอร์ว่า ขออภัยที่วันที่ 29 ต.ค. ไม่ตอบคำถาม เพราะไม่ได้มีข้อมูลและติดประชุมด่วนที่กระทรวง ได้ฟังนายชนนพัฒฐ์ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย เป็นคดีเก่าก่อนเข้าสู่การเมือง ผ่านกระบวนการยุติธรรมมาแล้ว ส่วนใหญ่นักการเมืองทุกคนทุกพรรคมีอดีต หากไปเจาะจงโจมตี แฉอดีตเขาไม่เป็นธรรม สังคมมองทุกอย่างเป็นสแกมเมอร์หมดต้องแยกแยะ แก๊งสแกมเมอร์ พนันออนไลน์ การค้ามนุษย์ การนำเสนอข่าวต้องชี้แจงให้ชัดเจน ได้หารือผู้บริหารพรรค ฝากทุกคนว่าเวลานี้พรรคเราโตไว เป็นปกติที่กระแสจะเข้าไปโจมตี สส.หรือสมาชิกพรรคโบ้ยเช็ก 400 สส. มีประวัติกันหมดร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ต.ค.เรียกนายชนนพัฒฐ์มาพบที่กระทรวงเกษตรฯ ถามเรื่องราวอะไรชี้แจงได้ให้ชี้แจง อย่าไปโต้วาที เราเป็นนักการเมืองต้องพร้อมให้ตรวจสอบ ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าเหมารวม จะดำเนินการคนทำให้พรรคเสียหายหรือไม่เป็นเรื่องเฉพาะตัว น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ พรรคกล้าธรรม ประธานยุทธศาสตร์ จะไปกำหนดยุทธศาสตร์ ทำให้พรรคเสียหายต้องดำเนินการอย่างไร ถ้าเราตรวจสอบทั้งหมด 400 กว่าชีวิตในสภา ทุกคนมีประวัติและอดีตกันหมด มีบางพรรคที่ตั้งชุดเฉพาะกิจพิเศษขึ้นมาตรวจสอบพรรคต่างๆ โจมตีหวังผลทางการเมือง พรรค กธ.ไม่ทำแบบนั้น แวดวงการเมืองมันปิดกันไม่ได้ ส่วนคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ สภาฯ จะเชิญไปให้ข้อมูลแก๊งสแกมเมอร์ มีประชุมตั้งแต่เช้า บ่ายติดภารกิจสำคัญ ไม่มีเวลา เหลือไม่กี่เดือนจะยุบสภาแล้ว เราทำหน้าที่ผู้บริหารให้ดีที่สุด อีกบทบาทในฐานะ สส.พยายามทำอะไรที่เกิดประโยชน์กับประชาชนบิ๊ก รบ.เมินแจง กมธ.โยงสแกมเมอร์เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานคณะ กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เชิญบุคคลเข้าให้ข้อมูลปัญหาแก๊งสแกมเมอร์ อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลัง แต่ไม่มีใครมาตามนัด โดยนายวรภัคแจ้งว่าอยู่ในช่วงการรวบรวมเอกสารข้อมูลพยานหลักฐานให้ครบถ้วนและเตรียมดำเนินคดีผู้หมิ่น ประมาท นางนฤมลแจ้งติดประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ร.อ.ธรรมนัสไม่มีหนังสือแจ้ง ส่วนนายกฯมอบเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญา กรรมทางเทคโนโลยีมาแทน นายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์ว่า ตัวละครสำคัญไม่ว่านายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือเบน สมิท มีข้อสงสัยว่าบุคคลในรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์หรือการฟอกเงินได้อย่างไร นายอนุทินบอกว่า สแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ แต่คนในรัฐบาลไม่มาตอบ จะเป็นวาระแห่งชาติได้อย่างไร“โรม” ดูเส้นเงิน “อนุทิน” อยู่เฉยได้ไงเมื่อถามว่ามีการเปิดชื่อนักการเมือง ช. นายรังสิมันต์ตอบว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ พยายามเปิดเผยเรื่องนี้และนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรค กธ.ออกมาปฏิเสธแล้ว บอกว่าเป็นบัญชีพ่อแม่ ได้ข้อมูลมาบางส่วนแล้ว เรื่องผังเส้นเงินเราตรวจสอบแน่ ร.อ.ธรรมนัสถ้าบอกไม่รู้เรื่องนายชนนพัฒฐ์อาจฟังไม่ขึ้น เว็บพนันกับแก๊งสแกมเมอร์เหมือนพี่น้องกัน ใช้เครือข่ายบัญชีม้าเหมือนกันเผลอๆที่ตั้งเซิร์ฟเวอร์อาจอยู่ในพื้นที่เดียวกัน น่าสนใจที่ ร.อ.ธรรมนัสและเครือข่าย เหมือนจะไปเกี่ยวข้อง ไม่ได้กล่าวหา แต่เหมือนจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเทาๆเยอะ เส้นทางการเงินที่จับกุมนายชนนพัฒฐ์น่าสนใจว่า กระบวนการยุติธรรมเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่ดำเนินการอย่างที่ควรจะเป็น มีหลายส่วนตัวละครเยอะ ตัวละครใหม่และเก่า เชื่อมมาถึงเหมือนกัน แต่วันนี้จะขอโฟกัสเรื่องนี้ หากตั้งหลักดีๆ คีย์แมนจะมี 2 คนคือ ยิม เลียกและเบน สมิท เมื่อเรื่องถึงขนาดนี้ไม่เข้าใจว่านายอนุทินอยู่เฉยได้อย่างไรจ่อยื่น ปปง.สอบอาชญากรรมข้ามชาตินายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรค ปชน.เลขานุการคณะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ แถลงว่าธนาคารกสิกรไทยชี้แจง กมธ.ว่าได้ป้องกันการฟอกเงินเข้มงวด ธนาคารไม่ได้เป็นคู่ค้ากับบุคคลชื่อนายเบน สมิท ปัจจุบันไม่ได้เป็นคู่ค้ากับ BIC แล้ว ยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจตั้งแต่ ส.ค.-ก.ย. กมธ.มีข้อเสนอแนะจะยื่นหนังสือและเอกสารต่อ ปปง.เพื่อให้ตรวจสอบบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติว่ามีเหตุอันควรสงสัยหรือไม่และควรตรวจสอบต่อไป นายกฯไปเจอนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯพูดคุยเรื่องเหล่านี้หรือไม่ อย่าลืมนายโดนัลด์ ทรัมป์และสหรัฐฯคว่ำบาตรบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ บุคคลเหล่านั้นวนเวียนอยู่ในประเทศไทย นายกฯต้องจริงจังมากกว่าตั้งคณะกรรมการ เกรงใจใครจึงไม่ดำเนินการจะเดินช้าอยู่เช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหนยุออก พ.ร.ก.ปราบสแกมเมอร์ต่อมาเวลา 14.15 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ด่วนด้วยวาจา 3 ญัตติ เรื่องการปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.อภิปรายว่า ฐานที่ตั้งแก๊งสแกมเมอร์ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะกัมพูชามีฐานปฏิบัติการยืนยันได้ 53 ฐาน ต้องสงสัยอีกกว่า 40 ฐาน แต่หน่วยงานไทยไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แม้นายอนุทินประกาศสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ แต่ไม่ขยายผลปราบปรามไทยเทาจริงจัง สงสัยมีนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐเทา มีข้อเสนอแก้ปัญหาสแกมเมอร์คือ 1.นโยบายเป็นรูปธรรมชัดเจน เช่น เอ็มโอยูกับประเทศต่างๆประกาศกรอบเวลาให้ชัด 2.มีแผนปฏิบัติการชัดเจน 3.ตั้งศูนย์ยุทธการมอนิเตอร์ข้อมูลประเทศต่างๆ 24 ชั่วโมง เพื่อปิดแหล่งอินเตอร์เน็ต แหล่งเงิน ทำลายโครงสร้างอาชญากรรม 4.ออก พ.ร.ก.ปราบปรามสแกมเมอร์จริงจัง 5.ประกาศโครงสร้างทำงานให้ชัด ใครคือแม่ทัพเบอร์ 1 นำไปสู่การแก้ปัญหาเป็นรูปธรรม 6.วางกรอบเวลาและเคพีไอแต่ละช่วงเวลาห่วงทุนดำยึดสนามเลือกตั้งนายรังสิมันต์กล่าวว่า 7.เมื่อข้อมูลชี้ชัดมีนักการเมือง และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ ถูกเชื่อมโยงแก๊งสแกมเมอร์ แต่หนีสื่อ หนี กมธ.ไม่กล้าชี้แจง ความเชื่อมั่นรัฐบาลถูกตั้งคำถาม ทำไมนายกฯไม่รู้ ถ้าเคลียร์ไม่ได้ ประชาชนไม่เชื่อมั่น ทุนเทาจะยึดประเทศไทย มีเงินหลายแสนล้านบาทถูกฟอกผ่านธุรกิจในไทย เช่น ร้านอาหาร มูลนิธิ สมาคม ธุรกิจขนาดใหญ่ ประเทศไทยจะเป็นสวรรค์ฟอกเงิน ภาพลักษณ์ประเทศไม่ต่างจากกัมพูชา คนพวกนี้อยากได้การปกป้องจากอำนาจรัฐ ต่อไปจะซื้อข้าราชการ นักการเมืองไทย เลือกตั้งรอบนี้จะมี 4 พรรคแข่งขันคือ ส้ม แดง น้ำเงิน และดำ เงินเหล่านี้จะลงสู่การเลือกตั้งทั้งระบบ แก๊งสแกมเมอร์กำลังจะซื้อประเทศไทย แต่สิ่งที่รัฐบาลทำคือซื้อเวลา แค่ตั้งคณะกรรมการ แต่ไม่พยายามดำเนินการเป็นรูปธรรม ขอนายกฯทำหน้าที่สมกับความคาดหวังประชาชน ไม่ให้ประเทศตกอยู่ในอาณาจักรสีเทา เงามืดที่จ้องยึดประเทศแฉฟอกเงินผ่านเว็บลอตเตอรี่ต่อมาเวลา 15.40 น. น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม พรรค ปชน.อภิปรายญัตติด่วนการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ แก๊งสแกมเมอร์ว่าไทยไม่สามารถจัดการสแกมเมอร์ฟอกเงินได้ เพราะมีตัวการใหญ่อยู่ในรัฐบาลหรือไม่ หลอกเงินประชาชนโดยทำเว็บพนันและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เงินแล้วนำเงินสีดำไปฟอกเป็นสีขาวในลอตเตอรี่ ไปซื้อจากคนถูกรางวัลที่ 1 ซื้อที 10-30 ใบ ด้วยราคาสูงกว่า เป็นสาเหตุตามหาโควตาลอตเตอรี่หลายแสนใบมาเป็นของตัวเอง จากนั้นเปิดเว็บขายลอตเตอรี่เข้าถึงผู้ถูกรางวัลง่ายขึ้น นี่คือวิธีฟอกเงินผ่านโควตาลอตเตอรี่ รวมถึงฟอกเงินผ่านการตั้งร้านขายของในแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ร้านขายของถูกมากๆ ขาดทุนไม่เสียดาย นำเงินฟอกไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซื้อแพงไม่อั้น ทั้งย่านห้วยขวาง เยาวราช บางส่วนเอาไปปั่นหุ้น พยายามฮุบโครงสร้างพื้นฐานประเทศ ไทย บางคนเอามาทำงานการเมืองเข้าสู่อำนาจรัฐ เอาเงินสีเทามาซื้อเสียงเลือกตั้งจ่ายไม่อั้น บางส่วนมาสร้างเครือข่ายอินฟลูเอนเซอร์ ไปตั้งมูลนิธิ ซื้อของแจก ติดไฟ สร้างถนนให้ชาวบ้าน สุดท้ายอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้มีคะแนนนิยม เอามาสนับสนุนพรรคการเมืองที่ให้ต้นทุนทางสังคมกับตัวเองซัดมีโจรใน รบ.ปราบทุนเทาไร้ผลน.ส.รักชนกกล่าวว่า แก๊งสแกมเมอร์ตัวใหญ่ๆ วันนี้อาจเข้ามามีอำนาจรัฐแล้ว มีหลายคนในรัฐบาลถูกตั้งข้อสงสัยเทาหรือไม่เทา แต่ไม่ดำเนินการให้ชัดเจน เช่น นายวรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลังถูกกล่าวหาฟอกเงินหรือไม่ แม้ลาออกไม่ควรจบแค่นั้น ต้องสืบเป็นจริงหรือไม่ หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯถูกกล่าวหาสนิทสนมตัวเอ้แก๊งสแกมเมอร์ แต่ไม่เคยมาชี้แจงต่อสภาฯ น่าสงสัยคนรอบตัว ร.อ.ธรรมนัส ไม่ใช่แค่นายเบน สมิท แต่ยังมีนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรค กธ. อาจเป็น ช.ที่หลายคนตามหา การไม่สามารถจัดการปัญหาสแกมเมอร์ได้ เพราะมีโจรอยู่ในรัฐบาลหรือไม่ รัฐบาลต้องเอาคนเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการ ถ้าไม่ใสจริงควรมีใครติดคุก วันใดพรรค ปชน.มีอำนาจรัฐ มีเราไม่มีเทามากัดกินเป็นเห็บหมัด กัดกินประเทศไทย“ไชยชนก” ไขก๊อก กมธ.เอ็มโอยู43–44ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมสภาฯนายไชยา ประธานการประชุม ได้แจ้งที่ประชุมทราบว่านายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรค ภท.และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจเอ็มโอยู 2543 และ 2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา สภาฯขอลาออกจากตำแหน่ง กมธ.วิสามัญฯ ที่ประชุมสภาฯมีมติเห็นชอบให้นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เป็น กมธ.สัดส่วนพรรค ภท.แทน จากนี้ที่ประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณา MOU43 และ 44 ระหว่างไทยกับกัมพูชา สภาฯจะคัดเลือกตำแหน่งประธาน กมธ.ใหม่อีกครั้งกมธ.ค้านทำประชามติล้มเอ็มโอยู 44 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.ต่างประเทศ สภาฯ มี น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรค พท.ประธาน กมธ.เป็นประธานการประชุม พิจารณารายงานผลการศึกษาการบริหารจัดการพื้นที่ไทย-กัมพูชาอ้างสิทธิ์ในไหล่ทวีปทับซ้อนหรือเอ็มโอยู 44 จากนั้น น.ส.สรัสนันท์กล่าวว่า หลังศึกษาเอ็มโอยู 44 นาน 6 เดือน ถ้ามีเหตุผลยกเลิกได้ แต่การโยนไปทำประชามติไม่ใช่แนวทางดีที่สุด ยกเลิกฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องมีระยะเวลาขอยกเลิกอย่างน้อย 1 ปีแสดงเจตจำนง ขณะที่การทำประชามติจะเกิดคำถามตามมาหลายมิติ ทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ การบริหารทรัพยากรทางธรรมชาติ อธิปไตย ความมั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศล้วนละเอียดอ่อน ซับซ้อนเกินกว่าที่ประชาชนต้องมาตอบใช่หรือไม่ใช่“สุทิน” ลั่นยังอยู่ พท.ปัดข่าวปั่นไขก๊อกนายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวจะยื่นลาออกจากพรรค พท.ไปตั้งพรรคใหม่ว่า ไม่เป็นความจริง เคยชี้แจงไปชัดเจนแล้ว ยืนยันยังคงทำงานอยู่กับพรรค พท. เชื่อว่าคนปล่อยข่าวเป็นผู้ไม่หวังดีกับตนรวมถึงพรรค หวังสร้างกระแสทำให้ดูว่าพรรค พท.ยังมีเลือดไหลออก ยืนยันยังไม่คิดจะไปไหน ยังทำงานอยู่กับพรรค พท. วันที่ 31 ต.ค. จะเข้าร่วมประชุมใหญ่วิสามัญพรรค พท.ใช้สิทธิ์เลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไม่ว่าจะเลือกใครเป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่พร้อมยอมรับทุกคน“จุลพันธ์” หัวหน้า พท. “ประเสริฐ” เลขาฯผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีพรรค พท.วันที่ 31 ต.ค. เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แคนดิเดตชิงดำมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ กับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ ล่าสุด สส.จะสนับสนุนให้นายจุลพันธ์ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค เนื่องจากการทำงานสภาฯโดดเด่น มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐกิจปัญหาหลักของประเทศ การตอบคำถามสื่อมวลชนฉะฉาน จะเป็นประโยชน์ต่อพรรคในการดีเบตช่วงเลือกตั้งต้นปีหน้า ส่วนนายจาตุรนต์จะได้ลุ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคในอนาคต ขณะที่เลขาธิการพรรค พท.เดิมมีชื่อนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรค พท.จะทำหน้าที่ต่อ แต่ล่าสุดจะเปลี่ยนให้นายสรวงศ์เป็นรองหัวหน้าพรรค แล้วให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกฯและอดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อดีตเลขาธิการพรรค กลับมาเป็นเลขาธิการพรรคอีกครั้งรอง หน.ผสมทีมรุ่นใหญ่–รุ่นใหม่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รองหัวหน้าพรรค พท.คาดว่าจะมีกว่า 10 รายชื่อมีทั้งผู้อาวุโสในพรรคและคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงานขับเคลื่อนพรรค อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมว.การอุดมศึกษาฯ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.แรงงาน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. ขณะที่นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีตที่ปรึกษานางมนพร เจริญศรี เป็นเหรัญญิกพรรคและนายจักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนพรรคอาลัย “วิโรจน์” อดีตหัวหน้าลาโลกผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงดึกคืนวันที่ 29 ต.ค. พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบด้วยโรคชราในวัย 91 ปี ทำให้นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 43 เลื่อนลำดับมาเป็น สส.บัญชีรายชื่อ แทน พล.ต.ท.วิโรจน์ ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความเสียใจต่อการจากไปของผู้ใหญ่ที่น่าเคารพนับถือมาก เมตตาต่อน้องๆในพรรคทุกคน คอยแนะนำข้อกฎหมายต่างๆ ตลอดมากกต.พร้อมจัด ลต.คู่ประชามติที่โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการเตรียมการเลือกตั้งและจัดทำประชามติว่า กกต.พร้อม โดยต้องการเวลาให้ความรู้ เผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจประเด็นที่จะทำประชามติทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญและ MOU 75 วันนับย้อนจากวันที่ 29 มี.ค.69 ขึ้นอยู่กับรัฐสภาและ ครม.จะส่งคำถามแรกมาที่ กกต.เมื่อไหร่ หากส่งช้าเกิน 75 วันทำให้การออกเสียงประชามติและการเลือกตั้ง สส.ไม่สามารถจัดในวันเดียวกันได้ เหตุที่งบฯสูงเพราะมีจำนวนผู้มีสิทธิเพิ่มเป็น 53 ล้านคน ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่และหน่วยเลือกตั้งเป็น 1.2 แสนหน่วยจากเดิม 9 หมื่นหน่วย บัตรเลือกตั้ง สส. สถานทูตและสถานกงสุลแต่ละประเทศต้องส่งกลับมานับที่ประเทศไทย ส่วนบัตรประชามติกฎหมายให้นับที่หน่วยเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดจะชัดเจนเมื่อ กกต.หารือกับนายกฯอย่างเป็นทางการอีก 2 ครั้งครม.ส่งคำถามช้าสุดก่อน 13 ม.ค.69นายแสวงกล่าวว่า ยังมีรายละเอียดต้องพิจารณา ให้รอบคอบ โดยเฉพาะการออกเสียงทำประชามติ ไม่สามารถออกเสียงล่วงหน้าได้ แต่ประชาชนออกเสียงนอกเขตได้และต้องทำในวันจริงเท่านั้น ต้องไม่เพิ่มภาระประชาชน ไม่ทำให้เกิดบัตรเสีย เช่น คำถามประชามติครั้งที่ 1 กับครั้ง 2 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าให้ทำรวมกันได้กับเรื่อง MOU รวมได้ จะประหยัดงบฯแน่ๆกว่า 55 ล้านบาท แต่ประชาชนจะสับสนหรือไม่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.ตั้งกำหนดขอเวลา 75 วัน เผยแพร่ให้ความรู้ประชาชน ผู้เกี่ยวข้องต้องส่งประเด็นคำถาม โดยเฉพาะรัฐสภาต้องส่งคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ ครม.และส่งให้ กกต.ก่อนวันที่ 13 ม.ค.69 หรือช้าสุดไม่เกินวันที่ 28 ม.ค.69 ยังอยู่ในกรอบเวลา 60-150 วันของกฎหมายประชามติ 2568“เอม–พงศ์” เยี่ยม “ทักษิณ” ปรับตัวได้แล้วเมื่อเวลา 10.00 น. ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอมและนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี เป็นตัวแทนครอบครัวเข้าเยี่ยมนายทักษิณ พร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ โดยทั้งคู่ยกมือไหว้ทักทายกลุ่มคนเสื้อแดงเล็กน้อยก่อนเข้าเรือนจำ ต่อมาเวลา 11.00 น. นายณัฐพงศ์เปิดเผยว่าคุณพ่อบอกว่าปรับตัวได้ และบอกว่าอีกแป๊บเดียวจะ 2 เดือนแล้ว แต่มีปัญหาความดันเล็กน้อยส่วนวันที่ 31 ต.ค. จะเลือกหัวหน้าพรรค พท. คนใหม่ไม่ได้พูดคุยกันเลย ผู้สื่อข่าวพยายามถามนายณัฐพงศ์ว่า ใกล้ถึงช่วงเวลาของการเลือกตั้งใหญ่แล้ว ยังคงสนใจจะลงเล่นการเมืองหรือไม่ นายณัฐพงศ์หันมายิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถาม จากนั้นทั้งคู่เดินเข้าไปยกมือพูดคุยกับพี่น้องคนเสื้อแดงบอกเล่าอาการนายทักษิณให้ฟังร้องศาลฯสั่ง 136 สว.ยุติปฏิบัติหน้าที่เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว พร้อมตัวแทน สว.สำรอง 10 คนเข้ามายื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ขอให้วินิจฉัยถอดถอนและมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ของ สว. 136 คน พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า หลังร้องคัดค้านประกาศผลเลือก สว. 10 ก.ค.67 นาน 1 ปี 4 เดือนแล้ว มีข้อสงสัย กกต.ดึงเวลาสอบคดีฮั้ว สว. เพื่อให้ สว.เห็นชอบคัดเลือกกรรมการองค์กรอิสระ มีคณะ สว.สำรองอีกกลุ่มหนึ่งไปฟ้อง กกต.ในคดีมาตรา 157 และมาตรา 172 ไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ กกต.กลับไม่ได้มีท่าทีจะเร่งรัดคดี จึงใช้สิทธิ์ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาสั่งการ กกต.ให้สรุปและนำสำนวนทั้งหมดส่งมายังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งภายใน 7 วัน โดยขอให้ศาลฯมีคำสั่งให้ สว.กลุ่มนั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลจะตัดสินประท้วง MOU แรร์เอิร์ธไทย-มะกันเมื่อเวลา 10.30 น. ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน พร้อมเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ 27 องค์กร ร่วมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไม่เห็นด้วยกับการทำ MOU แร่หายาก นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน กล่าวว่า ไทยมีปัญหาจากการทำเหมืองที่เมียนมา ส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังแม่น้ำกกฝั่งไทยรุนแรงมาก สหรัฐฯกับไทยต้องทำ MOU แก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดนจากการทำเหมืองแร่หายากมากกว่า รัฐบาลบอกว่าถ้าไม่มีประโยชน์ยกเลิกได้แล้วเซ็นตั้งแต่แรกทำไม เนื้อหาใน MOU ขัดแย้งกับสิ่งที่นายกฯพูดว่าไม่มีความสำคัญ ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐฯต้องการช่วงชิงแร่หายากจากจีน โดยใช้ไทยเป็นช่องทางนำเข้า กระตุ้นให้ทำเหมืองแร่ในไทยมากขึ้นด้าน น.ส.สุภาภรณ์ มาลัยลอย ตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ กล่าวว่า ทำไมก่อนเซ็น MOU ไม่ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และไม่ผ่านกระบวนการรับรู้ของคนในประเทศเลย “กัน จอมพลัง” แจงบริจาคให้กองทัพเมื่อเวลา 16.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.ทหาร สภาฯ มีนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรค ปชน. ประธาน กมธ.ทำหน้าที่ประธานการประชุม นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ชี้แจงข้อเท็จจริงการบริจาคสิ่งของให้กองทัพผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ 20 นาที ได้โชว์หนังสือขอความอนุเคราะห์จากกองทัพขอเงินจากมูลนิธิกัน จอมพลัง ไปซื้อสิ่งของที่ต้องการ เช่น แผ่นเกราะแข็งป้องกันกระสุนระดับ 4 รวม 250 แผ่น มูลนิธิโอนเงินไปที่บริษัทที่กองทัพแจ้งมา บริษัทส่งของให้หน่วยงานเลย ไม่ขอระบุว่ามีหน่วยงานใดบ้างที่ของบฯ เชื่อว่ากองทัพมีตังค์ แต่ถ้าความรวดเร็วและขั้นตอน มูลนิธิทำได้เลยขณะที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงต่อ กมธ.ว่า ที่ผ่านมากองทัพไม่ได้ห้ามบริจาค เพิ่งรู้ว่ากันจัดหาของที่สูงกว่ามาตรฐานจากที่กองทัพใช้ทั่วไป ระดับ 4 เป็นสเปกสูง ตามนโยบายกองทัพไม่มีการรับบริจาค พยายามบริหารงบให้ไปได้ แต่มีหน่วยงานภายนอกที่แสดงน้ำใจจึงรับไว้ ของที่บริจาคมาเอาไปใช้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ขาดแคลน เงินบริจาคไม่มีนโยบายแน่นอน หากเห็นว่าฉ้อโกงให้แจ้งความดำเนินคดีได้เลยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่