วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยกันเรื่อง “ทักษะใหม่ของแรงงานในอนาคต” กันนะครับ ทุกวันนี้บัณฑิตที่จบการศึกษาใหม่เริ่มหางานทำยากขึ้น ตำแหน่งงานเริ่มน้อยลง จากการเข้ามาแทนที่ของ AI บริษัทต้องการคนที่มีทักษะพิเศษในการทำงานมากขึ้น ข้อมูลจาก “วารสารการเงินธนาคาร” เดือนกรกฎาคมรายงานว่า ผลสำรวจผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคลในสหรัฐฯพบว่า ผู้บริหารกว่า 89% มีแนวโน้มที่จะเลี่ยงการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ ซึ่งผู้บริหาร 60% มองว่า เด็กจบใหม่ยังขาดประสบการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง 55% ระบุว่า ขาดทักษะการทำงานเป็นทีม 51% มองว่า เด็กจบใหม่ไม่มีทักษะที่เหมาะสม และ 50% ระบุว่ายังมีมารยาททางธุรกิจที่ไม่ดีนักบริษัทส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะ จ้างฟรีแลนซ์ หรือ จ้างพนักงานที่เกษียณไปแล้ว หรือไม่ก็ปล่อยให้ตำแหน่งงานว่างลงสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ก็มีการวิเคราะห์ข้อมูลการรับสมัครงานออนไลน์พบว่า ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครมีเพียง 22.3% เท่านั้นที่ไม่ต้องการประสบการณ์ทำงานจากผู้สมัคร สอดคล้องกับตัวเลขผู้ว่างงานในไตรมาส 1/2568 กลุ่มที่มีอัตราการว่างงานมากที่สุด คือผู้ที่จบการศึกษาระดับอุดมศึกษา เมื่อพิจารณาลึกลงไปถึงประสบการณ์ทำงานพบว่า 74.3% ของผู้ว่างงานระยะยาวเป็นผู้ที่ไม่เคยทำงานมาก่อนเลยทำให้ผู้ว่างงานเหล่านี้แทบจะไม่มีโอกาสได้งานได้ในอนาคตสิ่งจำเป็นสำหรับแรงงานยุคใหม่ในยุคเอไอก็คือ Soft Skills ที่เป็นทักษะทางสังคม เช่น บุคลิก ทัศนคติ ความคิดสร้างสรรค์ มีกระบวนการคิดที่จะทำให้สามารถสื่อสารกับบุคคลอื่นได้ดี มีการปฏิสัมพันธ์และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลสำรวจของ Linkedin ในปี 2562 พบว่า กว่า 92% ขององค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญกับ Soft Skills เทียบเท่าหรือมากกว่า Hard Skills อีกกว่า 80% ระบุว่า Soft Skills มีบทบาทสำคัญต่อความ สำเร็จขององค์กร รายงาน Future of Jobs Report 2025 ของ WEF ระบุว่า 39% ของทักษะงานที่มีอยู่ในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปภายในปี 2573 ส่งผลให้แรงงานต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ๆให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดผลสำรวจของ สภาพัฒน์ ก็พบว่า เด็กจบใหม่และแรงงานไทยยังเข้าใจเรื่อง Soft Skills สวนทางกับตลาดแรงงานโลก ซึ่งน่าเป็นห่วงองค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญกับ Soft Skills ที่เป็น “ทักษะแห่งอนาคต” โดยเฉพาะ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ความยืดหยุ่นคล่องตัว ความคิดสร้างสรรค์ แต่ แรงงานไทยยังให้ความสำคัญกับ Soft Skills ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานในปัจจุบันเท่านั้น นักศึกษาและแรงงานเกือบ 1 ใน 3 ยังเข้าใจ “ทักษะ Soft Skills” ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการ เช่น การทำงานเป็นทีม การบริหาร การเอาใจใส่ลูกค้า การสื่อสาร การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยยังพัฒนาเรื่อง Soft Skills น้อยมาก ส่วนใหญ่เรียนรู้เองจากการศึกษา การพัฒนา Soft Skills ใน ฝรั่งเศส อินเดีย พบว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ 10–12% ที่ สิงคโปร์ มีการจัดตั้งหน่วยงาน Skills Future Singaporeขึ้นมา ส่งเสริมการพัฒนา Soft Skills ทุกช่วงวัย ผ่านหลักสูตรการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ ช่วยจับคู่จ้างงาน โดยรัฐบาลสิงคโปร์ให้เงินสนับสนุนนายจ้างที่มีการพัฒนา Soft Skills พนักงานสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ กว่า 250,000 บาทสิงคโปร์ จึงมี Hub มากมาย โดยไม่ต้องประกาศเป็นนโยบายรัฐบาล หรือออกเป็นกฎหมายเหมือนไทย แต่ไม่เคยสำเร็จสัก Hub เดียว เพราะสิงคโปร์มีแรงงานที่มี Soft Skills และ Hard Skills ที่มีการศึกษาดีรองรับจำนวนมาก ถ้านับจำนวน Hub ที่รัฐบาลไทยประกาศ ประเทศไทยน่าจะมี Hub มากที่สุดในโลก แต่เป็น “Hub ร้าง” แม้แต่ ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก EEC ที่รัฐบาลทุ่มเงินลงไปมหาศาล ผ่านไปสิบปีแล้วก็ยังไม่เกิด รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ก็ไม่เกิด เมืองการบินอู่ตะเภา ก็ไม่เกิด เรื่อง Soft Skills, Hard Skills ยิ่งล้าหลัง จากการศึกษาที่ล้มเหลวซ้ำซาก แต่รัฐบาลก็ไม่ใส่ใจ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม