จากที่เคยปะทะกันเมื่อ ๑๔ ปีก่อน กรณีปราสาทพระวิหาร มาวันนี้กองกำลัง ไทย– กัมพูชา ก็เปิดศึกกันอีกครั้ง ด้วยเรื่องสิทธิพื้นที่เหนือปราสาทตาเมือนธม ซึ่งมีบาดเจ็บเสียชีวิตกันเป็นสิบคนตามสนามพระ จึงมีหลายคนเอาเรื่องเก่ามาเล่าสู่กันฟัง ว่า ที่จริงไทย-เขมร (ขอเรียกชื่อเก่า) ตบตีกันมาหลายยุค เพราะพอเขมรเกิดสงครามกลางเมือง ฝ่ายหนึ่งหนีมาพึ่งกรุงศรีอยุธยา อีกฝ่ายพึ่งเวียดนาม ไทยจึงช่วยรบกับเขมรที่ฝักใฝ่เวียดนาม ผลัดกันแพ้ชนะ มาตั้งแต่ยุค สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ จนถึง รัชกาลที่ ๑ ทำให้รู้จักกษัตริย์เขมรหลายองค์ในประวัติศาสตร์ไทย-เขมร เช่น นักองค์ตน นักองค์เอง นักองค์จัน และ องเชียงสือ ซึ่งเคยมาขอลี้ภัยในไทย--ที่รู้จักกันคือ สมุนไพรอภัยภูเบศร ซึ่งมาจากชื่อ ออกญายมราช (แบน) ที่มีความชอบในการรบ ร.๑ จึงตั้งเป็น เจ้าพระยาอภัยภูเบศรกลับมาสนามพระของเรา ดูพระที่เชื่อว่าต้นตอมาจากเขมรคือ พระกริ่งตั๊กแตน (นอก) บัวฟองมัน เนื้อสัมฤทธิ์ ๑ในสกุล “พระกริ่งนอก” ที่แพร่หลายในไทยมาในสมัยกรุงศรีอยุธยา และตอนแรกเชื่อว่า เป็นพระกริ่งที่สร้างในกัมพูชา (ขะแมร์) ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ราวปีพุทธศักราช ๑๗๐๐เพราะมีลักษณะต่างจาก “พระกริ่งนอก” ตระกูลอื่นที่เข้ามาไทย เพราะล้วนสร้างจากจีน อย่าง พระกริ่งใหญ่ พระกริ่งบาเก็ง พระกริ่งหนองแส หรือ พระกริ่งตรีอ๋อง พระกริ่ง (นอก) ตั๊กแตนบัวฟองมัน ของ “เสี่ยกบ Kerry” ฐิการ ศุภวิรัชบัญชา.แต่ไม่มีประวัติชัดเจน และไม่เคยพบมีพระนี้ในเขมร จึงมีความคิดเห็นใหม่ จากการพิจารณาพุทธศิลป์ว่ามีลักษณะเป็นเช่นเดียวกับ พระอุปคุต พระบัวเข็ม ฝีมือช่างไทยเชื้อสายมอญ ที่น่าจะสร้างมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาต่อเนื่องรัตนโกสินทร์ลักษณะเป็นองค์พระประทับนั่งสมาธิเพชรบนฐานบัวตุ่ม บัวฟองมัน บัวฟันปลา ฯลฯ พระหัตถ์อุ้มหม้อน้ำมนต์ วชิระ หรือดอกบัว พระพักตร์กลมเล็กพระศก สังวาลย์ พระนาสิก เป็นเม็ดตุ่มกลม ดูรวมคล้าย หน้าตั๊กแตน เป็นที่มาของนาม “พระกริ่งตั๊กแตน”เนื้อพระเป็นโลหะผสมสัมฤทธิ์เงิน ผิวกลับดำ ที่นิยมเล่นสูงสุดเป็นพระยุคต้น พิมพ์บัวฟองมัน ที่มีเนื้อคล้าย “เงินพดด้วง” พระปิดตามหายันต์หลวงพ่อทับ วัดทอง หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังฯ อย่างองค์นี้ ของ “เสี่ยกบ Kerry” ฐิการ ศุภวิรัชบัญชาตามมาด้วย พระกำแพงซุ้มกอ (ดำ) พิมพ์ใหญ่ ไม่มีลายกนก กรุลานทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร พุทธ ศิลป์สมัยสุโขทัยและอานุภาพ “มีกู ไม่จน”ค้นพบ เนื้อดิน ส่วนใหญ่ กับ เนื้อชินแยกพิมพ์ได้เป็น ๑.พิมพ์ใหญ่ มีลายกนก ๒.พิมพ์ใหญ่ ไม่มีลายกนก (ซุ้มกอดำ) ๓.พิมพ์กลาง ๔.พิมพ์เล็ก ๕. พิมพ์ขนมเปี๊ยะ พระกำแพงซุ้มกอ (ดำ) พิมพ์ใหญ่ไม่มีลายกนก กรุลานทุ่งเศรษฐี ของอ้วนลอยฟ้า คุณพระคุ้มครอง.องค์นี้ของ เสี่ยอ้วนลอยฟ้า คุณพระคุ้มครอง เป็น พิมพ์ซุ้มกอดำ ที่มีพบน้อย หายากกว่าพระพิมพ์ใหญ่ โดยเฉพาะเนื้อดำสนิททั้งองค์แบบเต็มร้อยอย่างนี้ ที่ในวงการแค่หลักหน่วย ยิ่งองค์สวยแชมป์เดิมๆ แบบนี้ ราคาฟังว่าหลายสิบล้านอีกองค์คือ พระกริ่ง พระพุฒาจารย์ (ท่านเจ้ามา) วัดจักรวรรดิฯ กรุงเทพฯ องค์นี้ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง ซึ่งกำลังภูมิใจ เพราะมืออาชีพสายตรง ที่หามาให้บอกแค่ว่าเป็นพระกริ่งเก่า แท้แน่ ทั้งรูปลักษณ์ เนื้อโลหะ ผิวพรรณ วรรณะสูงค่า แต่ไม่แน่ใจว่าวัดไหนใครสร้าง รับประกันเป็นพระแท้ น่าเก็บ พระกริ่งท่านเจ้ามา วัดจักรวรรดิ ของอิทธิ ชวลิตธำรง.พอเห็นองค์จริงส่องดูด้วยความรู้สึกของตัวเอง ที่สะสมพระกริ่งไว้มาก ทุกรุ่นนิยม จึงเชื่อว่าเป็น พระสกุลท่านเจ้ามา จากขนาด รูปทรง พิมพ์พระ เส้นศิลป์ เหลี่ยมมุม ฝีมือแต่งและลักษณะการปิดก้น เป็นแผ่นทองแดงเชื่อมติดเช่นเดียวกับพระกริ่งปวเรศฯที่ชัดสุดคือ เนื้อโลหะ ที่เป็นสัมฤทธิ์ (กลับดำ) ที่นำเทียบกับ พระกริ่ง ล้มลุก เนื้อดำ ที่มีอยู่แล้ว พบเป็นเนื้อเดียวกันชัดเจน จึงมีความมั่นใจเป็นพระกริ่งของท่านเจ้ามา (เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่สายตรงหลายคนเห็นด้วย) ที่สร้างขึ้นตามตำราสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ที่ท่านได้รับมอบมาจากสมเด็จกรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส เป็นการ “บูชาครู” ในวาระสำคัญระยะแรกๆ องค์ต่อไปเป็น พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่านพิมพ์ใหญ่ กรรมการ วัดช้างให้ ปัตตานี ของ Mr. Lee พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่านพิมพ์ ใหญ่กรรมการ พ.ศ.๒๕๙๗ วัดช้างให้ ของ Mr.Lee.พระสมบูรณ์สวยแชมป์ เดิมๆ ที่ระยะ ๒-๓ ปีนี้ไม่ค่อยมีมาให้ชมกัน เพราะพระแท้ พระสวยสกุลนี้ทุกพิมพ์ทุกเนื้อถูกซื้อเก็บเงียบ มีแต่คนรอซื้อ ไม่มีคนขาย นับวันจะยิ่งหาชมยากขึ้นรายการต่อไป พระลีลาใบขนุน กรุวัดราษฎร์บูรณะจ.พระนครศรีอยุธยา พระกรุพระเก่า พุทธศิลป์สมัยอยุธยายุคต้น สร้างราวปี พ.ศ.๑๙๖๗ ในสมัยพระบรมราชาธิบดีที่ ๒ (เจ้าสามพระยา) ค้นพบจากกรุองค์พระเจดีย์วัดราษฎร์บูรณะ ที่กรมศิลป์ ทำพิธีเปิด เมื่อปีกึ่งพุทธกาล พ.ศ.๒๕๐๐ พระลีลาใบขนุน เนื้อชินเงิน กรุวัดราชบูรณะ ของสมชาย สัญญรัตน์.มีมากมายหลายพิมพ์ หลายขนาด ทั้งเนื้อดินเผา ชินเงิน เช่น พิมพ์ซุ้มประภามณฑล ซุ้มเรือนแก้ว พระพุทธชินราช พิมพ์ซุ้มเส้นคู่ พระกำแพงศอก พระลีลากำแพงใบขนุน พระซุ้มร่มโพธิ์ พระปรุหนังเดี่ยว พระยอดขุนพล พระปางลีลาซุ้มดอกไม้องค์นี้ของ เสี่ยสมชายสัญญรัตน์ เป็นพระสวย สมบูรณ์ ขนาดบูชา ที่มีน้อย หายาก ผิวเนื้อมีผิวปรอทจับแน่นเต็มร้อยแบบนี้หายากและแพงมากสุดท้ายเป็น รูปเหมือนหล่อโบราณ พิมพ์เศียรลาย พระพรหมสร (รอด) พ.ศ.๒๔๘๕ วัดบ้านไพ นครราชสีมา อมตะพระเกจิฯเมืองย่าโม ที่มีชื่อเสียงเทียบได้กับหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ ในยุคหลัง รูปเหมือนหล่อโบราณ พิมพ์เศียรลาย พระพรหมสร (รอด) พ.ศ.๒๔๘๕ วัดบ้านไพ ของโอเล่ โคราช.ท่านมีวัตรปฏิบัติเคร่งครัด มีเมตตา ใช้พระธรรม และพุทธาคมช่วยชาวบ้านจนเลื่องลือถึงความเข้มขลัง พระเครื่องของขลังท่าน จึงได้รับความนิยมสูง อย่างเหรียญรุ่นแรก ก็เป็นเหรียญพระเกจิฯ อันดับ ๑ ของโคราช มาถึงปัจจุบัน-- ส่วนรูปเหมือนหล่อโบราณ รุ่นแรก “พิมพ์เศียรลาย” นี้ ของ เสี่ยโอเล่ โคราช ก็เป็นรุ่นนิยมสุด สภาพสวยเดิมๆ แบบนี้ราคาหลักแสนลากันด้วยเรื่องปิดท้าย ในโรงเรียนย่านบางลำพู ซึ่งครูชั้น ม.ปลาย เรียกประชุม ถามนักเรียนถึงแนวทางการศึกษาในอนาคตว่าจะเรียนต่ออะไร โดยเรียกหัวหน้าชั้น ลูกชายเสนาธิการทหาร ตอบเป็นคนแรก ลูก เสธ.ทหาร ตอบว่า ตั้งใจจะเรียนต่อเตรียมทหารตามอย่างพ่อ คนต่อมา มีพ่อเป็นวิศวกรชื่อดัง บอกผมก็จะเรียนวิศวะ เพื่อนๆก็ตบมือยินดีพอถึง นายชาตรีลูกเซียนพระ ก็มีเพื่อนแซวว่า คงเรียนวิชาดูพระจากพ่อ เป็นเซียนพระง่ายดี แต่ นายชาตรี ส่ายหน้า บอกเป็นเซียนพระยากไปโว้ย มีอาชีพง่ายกว่านั้นครูและเพื่อนที่กำลังรอฟังหูผึ่ง จึงได้ฮาเมื่อ นายชาตรี บอกว่า จะไปบวช เรียนทางธรรม พอไต่เต้าเป็นเจ้าอาวาสได้ก็สบาย เพราะรายได้ดีมีเงินเป็นร้อยล้านเหมือนในข่าว เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม