เสิร์ฟความฮาป่วนยกแก๊งไปกับภาพยนตร์ “แต่ง Monk” นำแสดงโดย เป้–อารักษ์ อมรศุภสิริ, เฟย–ภัทร เอกแสงกุล, ออม–กรณ์นภัส เศรษฐรัตนพงษ์, จาตุรงค์ โพธาราม, แจ็ค–เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ และ โอม–ธนาภัค จงใจพระ เข้าฉายแล้วเมื่อ 6 มี.ค. ในโรงภาพยนตร์งานนี้ “เป้–อารักษ์ อมรศุภสิริ” เปิดความท้าทายให้ตัวเองอีกครั้งกับการรับบท “หลวงพี่เป้” พระสุดเคร่งในพระธรรมวินัยที่หาทางหยุดการแต่งงานของ ออม (ออม–กรณ์นภัส) น้องสาว คนเดียวที่กำลังจะแต่งงานกับ พระชิน (เฟย–ภัทร) พระญี่ปุ่นที่ทั้งดื่มเบียร์ เที่ยวผับ แถมจะมาขอน้องสาวแต่งงาน! “เป้–อารักษ์” เล่าหลายเรื่องราวถามถึงหนัง “แต่ง Monk” หลายคนเซอร์ไพรส์ที่เป้มารับบทเป็นพระ?“ผมอยากเล่นเป็นพระครับ พี่โน๊ต จูเนียร์ มาชวน ผมอยากเล่นเป็นอะไรสักอย่างที่ไม่เคยเล่นอยู่แล้ว พอบอกว่าเป็นพระเลยอยากลอง แต่ตอนนั้นไม่มีเวลาไปบวชครับ ก่อนจะเปิดกล้องผมเลยไปอยู่ที่สำนักสงฆ์เขากระดาษ ใน จ.ฉะเชิงเทรา เป็นอารมณ์วัดป่าที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไปศึกษากิจวัตรประจำวันของพระ หัดห่มจีวร และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นหลายวัน ก็ผูกจีวรเก่งขึ้น เรียนรู้ท่าทางต่างๆ เรื่องการคุยกับพระ กับฆราวาส ท่องบทสวดที่จำเป็น จริงๆอยากอยู่นานมากกว่านี้ แต่เวลาไม่พอครับ ตอนนั้นก็เก็บความลับประมาณนึง ก็มีหลังจากที่ผมถ่ายเสร็จแล้วก็ทำงานก็แค่ไปดูเหมือนสกินเฮด คิ้วบางๆ ความจริงตัวผมก็ยังไม่ใกล้พระพุทธศาสนาเท่าไหร่ ผมให้พระอาจารย์ที่สอนโกนผมโกนคิ้วให้ด้วยวันแรก อินจัดจนลืมไปว่ามันเป็นหนังตลก พอเรามาถ่ายเราก็อ้าวเป็นพระแบบนี้นี่ ก็ตลกดี เป็นพระที่เคร่งแต่ก็มีความหลุดต้องไปตามน้องสาวเพราะไม่อยากให้น้องแต่งงาน แต่คาแรกเตอร์จริงๆเป็นพระที่ค่อนข้างสำรวม บวชมานานเป็น 10 ปี มีลูกศิษย์ 3 คนที่ติ๊งต๊องคือ แจ็ค จาตุรงค์ และโอมก็ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยกันเกือบเดือนครับ รวมทั้งเฟยและน้องออมด้วย ทำงานกับน้องออมน่ารัก ทำงานเก่งครับ ตอนนั้นก็ง่ายๆเลย ส่วนกับเฟยยิ่งง่ายเลย เฟยเป็นผู้ชายตรงไปตรงมา ตอนที่อยู่ที่ญี่ปุ่นก็อยู่ด้วยกันตลอดเวลา กินข้าวทุกมื้อด้วยกัน ไม่แยกกันเลย” ก่อนหน้านี้บทบาทในหนังมาทางเข้มๆ ไม่ใช่คอมเมดี้เลย?“ความจริงแล้วผมเล่นโรแมนติกคอมเมดี้อยู่ตลอดในช่วงที่เป็นละคร อยากจะให้คนดูเห็นว่าเราเล่นได้หลากหลาย เป็นได้ทุกอย่างครับ แต่การได้เล่นเป็นแก๊งสเตอร์ก็มันก็มีประโยชน์นะเพราะหนังที่มันเท่ๆมันหาเล่นได้น้อยและเล่นซ้ำอีกยาก ผมเคยคิดว่าเล่นเป็นเสือใบแล้ว ผมจะไปเป็นอย่างอื่นก็ลำบาก โชคดีที่ได้รู้จักกับพุฒิ-พุฒิพงษ์ แล้วก็ได้เล่นทั้ง 4KINGS แล้วก็เล่นวัย หนุ่มต่อ”ความท้าทายของการรับบทเป็นพระล่ะ?“เรื่องนี้ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น เน้นตลกฮา คือโอกาสที่จะเล่นเป็น พระยากมากครับในชีวิต เพราะว่าไทม์ไลน์มันต้องเป๊ะจริงๆ เพราะมันไม่ใช่แค่ตัดผมแล้วถ่ายเสร็จแล้วไปทำงานอื่นต่อได้ มันต้องรออย่างน้อยอีก 2 เดือน ตอนนั้นผมก็เตรียมตัวถ่ายวัยหนุ่มพอดี โชคดีที่วัยหนุ่มเลื่อนออกไปนิดหน่อย” การเป็นพระรู้สึกว่ามันได้ มุมไหนกลับมามั้ย?“ทำให้ผมได้ไปสัมผัสกับพระที่น่าเลื่อมใสครับ คือการได้ไปเจอพระแล้วก็การไปทำ Research เพื่อนก็พาไปหาพระที่คล้ายๆในเรื่อง ทำให้เราได้เข้าใจว่า ศาสนาพุทธก็มีช่องทางในการทำลายความทุกข์อีกแบบนึง แล้วมันก็เกิดขึ้นได้จริงๆ มันก็เหมือนกับเราได้ไปเจอไลฟ์โค้ช ผมเข้าใจแล้วว่าศาสนาไม่ได้ช่วยแค่ว่าทำให้เราควบคุมมนุษย์อย่างเดียว อย่างพระออกมาบิณฑบาต สิ่งที่เค้าตอบแทนกับสังคม ก็คือความสบายใจและก็ปัญญาที่เค้าไปศึกษาเรื่องพวกนี้มา แล้วอธิบายกับเราได้ในแบบที่คนทั่วไปอาจจะคิดไม่ถึง เรื่องวัยแล้วก็วุฒิภาวะ บางทีผมก็ทำตัวติ๊งต๊องแต่ว่าพอเป็นเรื่องวัย เรื่องอะไรพวกนี้เราก็จะทำตัวเหลวแหลกไม่ได้แล้ว ยิ่งไปทำงานตัวเอง กำกับหนังของตัวเอง เรื่อง “The Stone พระแท้ คนเก๊” พอเป็นหัวหน้าปุ๊บก็ยิ่งโดนสอนว่าต้องนิ่งขึ้น”เห็นว่ากลับมาจากญี่ปุ่นปุ๊บก็เจอเรื่องหนัก แต่ก็ผ่านมาได้?“ตอนกลับจากญี่ปุ่นมาผมก็ป่วยนิดหน่อยแต่ว่าผ่านมาแล้ว ตอนนั้นเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองแต่ว่าเป็นแบบชั่วคราว เราอยู่ญี่ปุ่นนานแต่พอกลับมาเมืองไทยเจอเชื้อโรคเหมือนเดิมร่างกายเอ๋อไปเลยเกิดเป็นโรคไขข้อเสื่อม ก็อยากให้ทุกคนระวังกัน ตอนนั้นพอกลับมาจากญี่ปุ่นปุ๊บ ก็ซ้อมมวยที่บ้านรู้สึกว่าทำไมเมื่อยก้น วันที่ 2 ก็ไปเรียนต่อสู้แล้วปวดหลังก็ให้หมอกายภาพมานวดที่บ้าน ปกติจะหายแต่คราวนี้ขยับคอไม่ได้ คอเคล็ดแบบลุกจากเตียงไม่ได้ เกิดมาไม่เคยเป็นมาก่อน เลยเริ่มไปหาหมอออร์โธปิดิกส์ ก็ให้ยามามันไม่หาย จนตอนที่ แจ็ค แฟนฉัน พาไปเดินขึ้นถ้ำนาคา ปรากฏว่าตอนเดินลงมาเข่าบวมแล้ววันต่อมาบวมหนักเหมือนเป็นเกาต์ หลังก็ปวด คอก็ปวด เลยไปหาหมอหมี นพ.จตุพล บอกว่าช่วงหลังคนเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองเยอะหลังจากมีโรคโควิด เคยเจอมาหลายเคสแล้วกรณีที่ปวดนู่นปวดนี่แล้วไม่รู้ว่าเป็นอะไรจนเกือบผ่าแล้ว แต่พอย้ายประเทศปุ๊บหาย บางทีอาหารกับเชื้อโรคเราไม่ชิน ภูมิคุ้มกันเราเปลี่ยน สุดท้ายก็เลยไปหาหมอด้านรูมาตอยด์ ก็ตรวจเลือดบอกว่ามีโอกาสเป็น แต่ลองรักษาด้วยวิธีการกินยาแก้ปวดก่อน 4 เดือน แล้วถ้าครบ 4 เดือนค่อยมากินยากดภูมิ แล้วก็พอดีคุณจอส เวอาห์ เค้ากำลังชอบแช่น้ำแข็งอยู่ช่วงนั้น เป็นการแพทย์ทางเลือก เค้าอินเรื่องสุขภาพไปเจอที่ Breath inspired คือผมไม่อยากกินยาแก้ปวดตลอด ตอนไปเวิร์กช็อปเรื่องวัยหนุ่ม ผมหันคอไม่ได้ ผมบอกพุฒิว่า ถ้าผมทำไม่ได้จริงๆอาจจะต้องถอนตัวนะถ้าผมไม่หาย เพราะหมอพูดเหมือนว่ามันเป็นตลอดชีวิตได้ พุฒิก็บอกให้ใจเย็นๆ ก็เลยไปลองวิธีแช่น้ำแข็ง แล้วก็คุณจี๋-สุทธิรักษ์ ก็ทักมาบอกว่าพี่ลองนี่มั้ย Carnivore Diet ก็คือไม่กินแป้ง ไม่กินน้ำตาล ลดผักผลไม้ให้น้อยที่สุดและกินแต่เนื้อสัตว์ โปรตีน เท่านั้นเพราะว่าการย่อยแป้งกับน้ำตาลมันเป็นการทำให้ร่างกายอักเสบ ผมก็ทำหมดทำ 5 เดือนเลย โชคดีอย่างนึงที่หมอบอกว่าออกกำลังกายได้ พอแช่น้ำแข็งแล้วมันใช้ชีวิตได้ การไดเอตก็คือทำให้เหมือนไม่มีจังหวะที่ร่างกายมันจะต้องอักเสบ ผมจำได้ว่า 2 อาทิตย์ คอผมเริ่มปกติ น้ำหนักลงไป 5 กิโลกรัม แล้วก็ดีขึ้นแบบดีขึ้นมากๆครับ ร่างกายก็เหมาะกับการเล่นวัยหนุ่ม อาการเจ็บป่วยปรากฏว่า 4 เดือนมันหาย โชคดีที่ตอนนี้หายแล้ว” ช่วงนั้นรู้สึกกังวลมากมั้ย?“กังวลมากครับ คิดว่าอาจจะเล่นหนังไม่ได้แล้ว คิดเลยว่าลำบากแล้ว แต่เราก็ไม่ได้ออกมาพูด มาพูดทีหลังตอนหายแล้ว เราก็ไม่อยากจะพูดเรื่องเจ็บป่วย”มีกลัวว่าจะไม่หายมั้ย?“กลัวครับ มีนิดหน่อยครับ แต่ตอนนี้พอมันหายก็ดี ลืมไปแล้วว่าตอนนั้นกลัวแค่ไหน เป็นการเจ็บป่วยครั้งใหญ่โดยที่งงว่าเจ็บอะไรก็ต้องระวังๆไว้ครับ” แต่ความเป็น เป้–อารักษ์ ยิงยาวในวงการบันเทิง ความฮอตก็ไม่แผ่ว?“เป็นเกียรติมากครับ อยากอยู่ต่อครับ”ความฮอตก็ยังขยายสู่เด็กๆรุ่นใหม่?“มันต่อรุ่นได้เพราะว่าน้องๆก็อาจจะไม่ได้รู้จักละครแจ๋วใจร้าย หรือ สุดเขต สเลดเป็ด แล้ว แต่ว่าน้องๆยังรู้จัก 4KINGS วัยหนุ่ม ก็ดีครับ ขอบคุณมาก ผมรู้สึกว่าตลาดของผมมันค่อนข้างจะกว้าง มันไม่ได้อยู่ในโซเชียล แต่ว่าออกไปข้างนอกก็ได้เจอผู้คนท้องถนนรู้จักเราหลายรุ่น เพลงก็กลับมา พอหนังวัยหนุ่มมาน้องๆก็กลับไปฟังเพลงไก่ ผมเข้าไปในยูทูบคือ 12 ปีที่แล้วนะครับ เด็กๆสมัยนี้อาจจะงงว่าเพลงอะไรเนี่ยไม่เคยฟัง”ทำให้เรากลับมาคึกคักสนุกกับการทำงานมั้ย?“ผมไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับการได้รับความนิยมมั้ย เพราะผมก็ทำอยู่ดีครับ ก็โชคดีที่เรายังมีสมองในการทำได้และคนให้โอกาสมีคนเห็นค่าของมันครับ แต่ว่าเรื่องการได้รับความนิยมมันก็ดีกับการดำรงอาชีพนี้อยู่แล้ว ก็ขอบคุณมากๆ ก็หวังว่ามันจะให้โอกาสต่อๆไปครับ เมื่อมีโอกาสเข้ามาแล้วก็ทำเต็มที่ ที่เหลือจากตอนนี้มันเป็นโบนัสแล้วสำหรับผม ผมพยายามที่จะคิดอย่างนั้น อยากได้โบนัสต่อไปเรื่อยๆ”ชีวิตช่วงนี้ความรักก็แฮปปี้?“แฮปปี้ครับ มีแฟนแล้ว พอดีว่าเค้าไม่ได้อยู่ในวงการก็เลยง่าย ที่ผ่านมาในวงการแล้วมันลำบาก ต้องมาตอบคำถามแทนเค้า ก็แฮปปี้ครับ เค้าก็เป็นสาวน้อยท่านหนึ่งครับ เด็กกว่าเรา” ไม่ได้มีเรื่องราวความรักมาพักใหญ่ทำไมคนนี้ถึงโดนใจ?“ตอนนั้นเราก็คิดว่าเราจะโสดไปยาวๆ ก็ไปเจอคนนี้แหละ เจอคนที่รู้สึกว่าไม่อยากให้เค้าหายไปแล้ว ไม่อยากให้แชร์ อยากเป็นเจ้าของครับ (ยิ้ม) ก็เลยบอกว่าจีบเป็นตัวเป็นตน เค้าก็ทำงานประจำแต่ก็จะมีเวลาเจอกันได้ เค้าเข้าใจไลฟ์สไตล์เรา อย่างตอนทำหนังเค้าก็มาอยู่ในห้องตัดด้วยก็เต็มที่ครับ เราก็เต็มที่ทุกครั้งแหละครับ แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ผมว่า การแต่งงานมันก็ไม่ใช่จุดจบลงเอยของความรัก”.เรื่อง :สุภลัคน์วุฒิกรีธาชัยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่