สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนีถูกยุบประเทศและไปรวมกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อ 7 ตุลาคม 1990 ตั้งแต่การรวมชาติเมื่อ ค.ศ.1990 ไม่เคยมีครั้งไหนที่มีคนมาลงคะแนนมากเท่าการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ 23 กุมภาพันธ์ 2025 มีผู้มาใช้สิทธิมากถึงร้อยละ 84 ผลการเลือกตั้ง พรรคของนายโอลาฟโชลซ์ นายกรัฐมนตรี คือพรรคสังคมประชาธิปไตยแห่งเยอรมนี (SPD) ได้คะแนนเพียงร้อยละ 16.4ค.ศ.1863 มีการตั้งพรรคแรงงานเยอรมันทั่วไป (ADAV) ค.ศ.1875 พรรค ADAV ร่วมกับพรรคประชาธิปไตยสังคมนิยม (SDAP) ตั้งพรรคใหม่ชื่อพรรคแรงงานสังคมประชาธิปไตยแห่งเยอรมนี ค.ศ.1890 เปลี่ยนชื่อเป็น SPDSPD เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของขบวนการสังคมประชาธิปไตยในเยอรมนี ประวัติศาสตร์ 162 ปีของ SPD ไม่เคยมีการเลือกตั้งครั้งใดที่จะเสื่อมเกียรติได้มากเท่ากับการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ 23 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมาสิ่งหนึ่งซึ่งคนเยอรมันไม่ลงคะแนนให้ผู้สมัครที่นายโชลซ์เป็นหัวหน้า คือการไม่จัดการกับปัญหาการอพยพเข้าเมือง ปล่อยให้ผู้อพยพสร้างความวุ่นวายในแผ่นดินเยอรมนี สร้างปัญหาทางสังคม นอกจากนั้น สงครามรัสเซีย-อูเครน ที่เยอรมนีต้องสนับสนุนอูเครนในฐานะสมาชิกนาโตก็มีส่วนทำให้คะแนนของ SPD ตกต่ำโชลซ์ทำตามมาตรการของสหรัฐฯและนาโตหลายเรื่อง เช่น ลดการพึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เดือนพฤศจิกายน 2024 รัฐบาลของนายโชลซ์สั่งให้ท่าเรือของเยอรมนีปฏิเสธการรับ LNG หรือก๊าซธรรมชาติเหลวจากรัสเซีย ทำให้เกิดความโกลาหลอลหม่าน แต่ก่อนง่อนชะไร ประชาชนคนเยอรมันแฮปปี้มีความสุข รัสเซียส่งก๊าซให้เยอรมนีมากถึงร้อยละ 55 ของก๊าซที่คนเยอรมันต้องการใช้ทั้งหมด พอเกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน เยอรมนีไม่รับก๊าซจากรัสเซีย ทำให้เกิดการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ ราคาพลังงานในประเทศสูงขึ้นนางอังเกลา แมร์เคิล จากพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนเยอรมนี (CDU) เป็นนายกฯอยู่นาน 16 ปี (2005-2021) ลงจากตำแหน่งเมื่อ ค.ศ.2021 นายโชลซ์ก็เป็นนายกฯ ช่วงการบริหารของนายโชลซ์ ราคาพลังงานสูงจนไปกระทบกับภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน เศรษฐกิจหดตัว ค.ศ.2024 บริษัทเยอรมัน 2.24 หมื่นแห่งประกาศล้มละลาย รัฐบาลพยายามจัดหาพลังงานจากแหล่งอื่น และหันมาพัฒนาพลังงานหมุนเวียน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายก็ต้องไปขอแบ่งก๊าซธรรมชาติเหลวจากประเทศอื่นที่นำเข้าก๊าซจากรัสเซีย มีรายงานว่าเยอรมนีรับก๊าซ LNG จากรัสเซีย 58 ลำ ผ่านท่าเรือดันเคิร์กของฝรั่งเศสการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2025 พรรคแนวอนุรักษนิยมอย่างพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน/สหภาพสังคมคริสเตียน (CDU/CSU) ได้คะแนนมากที่สุดถึงร้อยละ 28.6 ส่วนพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดเติบโตอย่างคาดไม่ถึง ได้คะแนนมากถึงร้อยละ 20.9ขณะที่เขียนบทความยังไม่ทราบว่ารัฐบาลใหม่จะประกอบไปด้วยพรรคการเมืองใดบ้าง แต่แน่นอนแล้วครับว่านายฟรีดริช แมร์ซ จาก CDU/CSU จะเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นไปได้ที่นายแมร์ซจะไปเชิญ SPD เข้าร่วม ที่ผมคิดว่าไม่น่าจะได้รับเชิญและไม่มีใครกล้าร่วมด้วยก็คือ AfD เพราะ AfD เป็นพรรคขวาจัดที่ต่อต้านผู้อพยพและสหภาพยุโรป หากนายแมร์ซเชิญ AfD มาร่วมรัฐบาล จะมีปัญหาความน่าเชื่อถือในเวทีการเมืองระหว่างประเทศผู้นำสหภาพยุโรปหลายประเทศต่อต้านนโยบายขวาจัดของ AfD ถ้าเอาพรรคนี้เข้ามาร่วมรัฐบาล ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเยอรมนีกับยุโรปประเทศอื่นพังแน่ ส่วนพรรคกรีน (The Greens) ที่มีนโยบายเน้นการสนับสนุนสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน ความยุติธรรมทางสังคม พลังงานสะอาด หนุนพลังงานทดแทน ลดขยะพลาสติก ส่งเสริมการรีไซเคิล คนเยอรมันจำนวนไม่น้อยคิดว่าเป็นเรื่องรองจากปัญหาเศรษฐกิจพรรคกรีนไม่น่าจะได้รับเชิญเพราะได้คะแนนเพียงร้อยละ 11.6 พรรคกรีนมีนโยบายต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ เชื่อมั่นในพหุวัฒนธรรม แต่ความเป็นจริงในขณะนี้มีผู้อพยพในเยอรมนีจำนวนไม่น้อยสร้างความขัดแย้งทางสังคมและศาสนา ทำให้เกิดความตึงเครียดทางการเมือง ถึงขนาดในการเลือกตั้งอาทิตย์ 23 กุมภาพันธ์ 2025 ประชาชนคนเยอรมันแห่กันไปลงคะแนนให้ AfD ที่ต่อต้านผู้อพยพมากถึงร้อยละ 20.9.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม