แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษาสาวแบ่งหน้าที่กันทำงานทีมชุดแรกตุ๋นเป็นพนักงานเครือข่ายมือถือแจ้งซิมการ์ดผิดกฎหมายอีกชุดเป็นตำรวจหว่านล้อมช่วยคดีและให้หนีไปอยู่หอพักอีกแห่งแล้วโทร.ขู่พ่อแม่ลักพาตัวลูกสาวให้โอนเงิน สูญเงินรวมกว่า 1.4 ล้านบาท ตำรวจแกะรอยตามไปช่วยเหลือเหยื่อสาวที่หอพักอย่างปลอดภัย และเร่งไล่ล่าแก๊งนรกและบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์วางแผนตุ๋นนักศึกษาสาวรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 5 ก.พ. พ.ต.ท.วิรวัฒน์ นิยมทรัพย์ สว. (สอบสวน) สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งความจากพ่อแม่ของ น.ส.เอ (นามสมมติ) นักศึกษาชั้นปี 3 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งว่า ลูกสาวโทร.ผ่านทางเฟซบุ๊กได้ทุนไปศึกษาเรียนต่อต่างประเทศ แต่ต้องเสียค่าดำเนินการจึงโอนเงินไปให้ลูกสาวจำนวนหนึ่ง จากนั้นมีกลุ่มคนร้ายโทรศัพท์มาหาบอกว่าจับลูกเรียกค่าไถ่แล้วติดต่อไม่ได้ หลังทราบเหตุรายงานไปยัง พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พ.ต.ท.ฉลาด หอมเงิน รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง ร่วมระดมกันติดตามแกะรอยหา น.ส.เอต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหอพักแห่งหนึ่งที่ น.ส.เอ พักอยู่ในพืี้นที่ จ.ปทุมธานี พบว่า น.ส.เอออกจากหอพักไปช่วงหัวค่ำวันที่ 4 ก.พ. ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางพบว่า น.ส.เอเปิดห้องพักใหม่อยู่อีกที่บริเวณใกล้กัน ประสานเจ้าของหอพักและเข้าตรวจสอบพบ น.ส.เอ อยู่ในห้องมีอาการตื่นตกใจก่อนที่จะพาตัวกลับมายังโรงพักเพื่อพบผู้ปกครองตำรวจตรวจสอบไทม์ไลน์ที่ผู้เสียหายโอนเงินเริ่มเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ก.พ. น.ส.เอติดต่อกับแม่ทางเฟซบุ๊กเรื่องได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายขอเงินจากบัญชีพ่อโอนไปยังบัญชีของ น.ส.เอ เป็นเงินรวม 145,000 บาท ตอนแรกไม่รู้ว่าลูกสาวเป็นอะไรก่อนที่จะมีคนร้ายโทร.มาหาแม่ น.ส.เอบอกว่าลักพาตัวลูกสาวให้โอนเงินเรียกค่าไถ่ ต้องโอนเงินเข้าบัญชีลูกสาวและข่มขู่ว่าห้ามบอกใครไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย ด้วยความตกใจแม่ น.ส.เอ โอนเงินไป 10 ครั้ง ยอดรวม 750,000 บาท ต่อมายังบอกให้โอนเงินมาเพิ่มอีก แม่ น.ส.เอนำเอาบัญชีน้าชายโอนไปให้อีก 600,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,495,000 บาท ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าที่ตำรวจช่วยตามหา กระทั่งพบตัวลูกสาวพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า พ่อแม่ของ น.ส.เอแจ้งเหตุลูกสาวถูกคนร้ายลักพาตัว เจ้าหน้าที่ติดตามตัวจนพบ น.ส.เอ ในห้องพักถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงโทรศัพท์มาบอกว่า เป็นพนักงานเครือข่ายของค่ายทรูมูฟโทร.มาบอกว่าซิมของ น.ส.เอเป็นซิมโทรศัพท์ที่ใช้ผิดกฎหมาย จากนั้นคนร้ายอีกชุดอ้างเป็นตำรวจ สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต หลอกให้ น.ส.เอโอนเงินเพื่อช่วยเหลือด้านคดีและให้ไปซ่อนตัวบอกว่าคนที่เอาบัญชีไปใช้รู้ตัวแล้วว่า น.ส.เออยู่ที่ไหนแล้วจะเข้ามาทำร้าย น.ส.เอกลัวเรียกรถแท็กซี่ไปเช่าหอพักแห่งหนึ่งเพราะกลัวว่าจะถูกทำร้าย ต่อมาโทร.ไปขู่พ่อแม่ น.ส.เอบังคับให้โอนเงินอย่างต่อเนื่อง กระทั่งผู้เสียหายผิดสังเกตเข้าแจ้งความ คนร้ายยังโทร.ให้โอนเงินอีก 3 แสนบาทถึงจะปล่อยตัว แต่พ่อแม่ น.ส.เออยู่กับตำรวจแล้วไม่ได้โอนเงินให้ กระทั่งตำรวจฝ่ายสืบสวนไปพบ น.ส.เอพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์กล่าวอีกว่า ตรวจสอบภายในห้องพบ น.ส.เออยู่คนเดียวในห้อง ส่วนเงินที่โอนไปก่อนหน้านี้จำนวน 1,495,000 บาท จำนวน 5 บัญชี และมี 4 ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ใช้โทร.หลอก ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อนำตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้ามาดำเนินคดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่