แฮปปี้ทั้งเรื่องงานและเรื่องความรัก หนุ่ม “ตงตง-กฤษกร กนกธร” สุดแฮปปี้อินเลิฟกับสาว “สาลี่ เดอะสตาร์” หรือ “โสมวิมาลา ณ อุบล” กับความสัมพันธ์ที่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ล่าสุดมีภาพ ตงตง ไปร่วมงานวันเกิดคุณแม่ของ สาลี่ และซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมเป็นของขวัญให้คุณแม่ด้วย เจอ ตงตง มาร่วมงานรอบปฐมทัศน์ละครเวที “ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล” ที่โรงละครเมืองไทย รัชดาลัยเธียเตอร์เลยถามว่ากับสาลี่ ตอนนี้เรียกเป็นแฟนได้แล้วรึเปล่า?“ทุกคน เห็นแบบไหน ก็เรียกได้ครับผม”มีคุยเรื่องสถานะไปรึยัง?“จริงๆคือเราก็มีได้คุยกัน แต่ผมคุยกับน้องอยู่ว่าไม่อยากให้รีบร้อนอะไร คือเราอยู่ในสายตาพ่อแม่แบบนี้โอเคแล้ว แล้วก็เราศึกษาคุยกันไปแบบนี้เรื่อยๆ ณ วันไหนที่มันพร้อมจริงๆ เราก็ค่อยอันนี้กับมัน”ถ้าจะเรียกแฟนก็ไม่ติด?“จริงๆผมก็ไม่ติดครับ” ตอนนี้ก็เปย์คุณแม่สาลี่ ซื้อกระเป๋าให้คุณแม่ด้วย?“จริงๆผมไม่ได้เรียกว่าเปย์หรอก คือความตั้งใจหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้วยวันเกิด งานสำคัญใดๆคือเรารู้สึกว่ามันก็เป็นสิ่งที่เราควรให้ เพราะว่าสิ่งที่เค้าให้ มันก็เหมือนเราให้เค้า แล้วเค้าให้เรากลับมา ให้กันไปกันมา ผมว่าการให้มันสำคัญมากๆ เลย หลักๆเค้าก็ดีใจครับ และเค้าก็ไม่ได้หวังอะไรเลยตอบแทน แล้วก็ไม่ได้หวังอะไรในเทศกาลต่างๆ เลยครับ ขอแค่ให้ทุกอย่างมันราบรื่นด้วยดี ขอให้ในอนาคตมันเป็นสิ่งที่ดีเท่านั้นเอง”มีการ์ดอวยพรหลาย คนบอกว่าเป็นข้อความที่จริงใจ?“จริงๆข้อความนั้นผมเขียนก่อนที่จะมอบของขวัญให้ ก็เป็นการ์ดอวยพร คือต้องบอกว่าด้วยตัวคุณแม่ของน้อง เค้าชอบเก็บอะไรที่เป็นความทรงจำ เค้าเก็บมาตลอดไม่ว่าจะตอนเด็กๆ เค้าไม่เคยที่จะไม่เก็บของเลย เพราะฉะนั้นสิ่งแบบนี้มันก็เลยเป็นความตั้งใจของผมและตัวน้องด้วย เราก็เลยได้มีโอกาสได้เขียนกัน และก็มอบให้น้องครับเพื่อให้คุณแม่เก็บไว้ เราก็มีไปเลือกด้วยกัน และมีที่ผมไปเลือกคนเดียวด้วย เราก็จะดูการแต่งกาย การใช้ชีวิตของแม่ของน้องเค้าด้วยว่าเป็นแบบไหน เราก็เลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับคุณแม่เค้าด้วย จริงๆก็เป็นของขวัญที่ให้ร่วมกันกับน้องสาลี่ด้วยครับ”เข้าทางคุณแม่ร้อยเปอร์เซ็นต์?“ใช่ ยังไงมันก็ต้องเต็มที่ครับ ไม่ว่าด้วยอะไรมันก็ต้องเต็มที่ ในสำหรับความรักของผมคือเราก็ตั้งใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเรื่องงาน หรือว่าความรัก เราก็แยกออกมาทั้งสองทางแล้วว่างานก็คือส่วนงาน ความรักก็ส่วนความรัก แต่ไม่ใช่ว่ามันจะทำให้งานนั้นดร็อปลง เพราะฉะนั้นเต็มที่ได้ มันก็ต้องเต็มที่ทั้งสองทาง” คุณแม่มีคุยกับเรามั้ยว่าจะดูแลน้องต้องมีกฎยังไง?“จริงๆก็มี แม่ก็บอกว่าให้อยู่ในสายตาของคุณแม่ด้วย มันก็จะโอเค แล้วผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าผมไม่ค่อยได้อยู่กับแม่ พอคุณแม่ของน้องไปด้วยทุกที่ ก็มีโอกาสเหมือนได้ไปเที่ยวกับแม่ของเราด้วย ผมก็เลยมีแพลนว่าเดี๋ยวจะชวนแม่ของผมไปด้วย ข้อตกลงอื่นๆจริงๆไม่มี ขอแค่ให้อยู่ในสายตาของพ่อแม่ แล้วทำอะไรให้อยู่ในร่องในรอยประมาณนี้ครับ”ล่าสุดที่เรามีข่าว คุณแม่เค้ามีเอ๊ะยังไงมั้ย?“จริงๆผมว่าคุณแม่เค้าก็คงมีเอ๊ะบ้าง แต่ว่าเราก็คุยกันตลอด เพราะว่าเราเจอกัน เราก็มีอัปเดตกันมาตลอดว่าเป็นอย่างไร เป็นแบบไหน เราได้มีโอกาสเล่า ได้แชร์กันและกัน ผมว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดี แล้วก็ทำให้ข่าวไม่ดี หรือข่าวที่พูดไปโดยไม่มีมูลเหตุ มันได้ปรับความเข้าใจกันในทุกๆครั้ง”อย่างข่าวที่ไปกินข้าวแล้วมีสาวอื่นมีภาพเรา ต้องอธิบายเยอะมั้ย?“จริงๆไม่ได้อธิบายเยอะเลย เพราะคุณแม่ก็รู้จักพี่เมเปิ้ลที่เป็นข่าว พี่เมเปิ้ลก็เป็นพี่ที่ผมสนิทมากๆอยู่แล้ว แล้วก็เคยเจอคุณแม่และเคยเจอน้องแล้วด้วย ผมก็รู้สึกว่าผมไม่ได้อธิบายอะไร และแม่ของน้องก็ไม่ได้ต้องการคำอธิบายใดๆ”ตอนนี้แฮปปี้มาก?“ก็แฮปปี้มากๆครับ”หลังจากนี้ต้องระวังเป็นพิเศษมั้ยเพราะขยับตัวก็เป็นประเด็นได้?“ผมว่ามันไม่เกี่ยว ถ้าจะให้ผมขยับตัวยากเพราะว่ามันมีข่าวที่มันไม่ดี ผมว่ามันก็คงไม่ใช่ สำหรับผมรู้สึกว่าผมก็ใช้ชีวิตแบบนี้ แล้วก็ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมก็จะใช้ชีวิตของผมไป เพราะไม่ได้ทำอะไรที่มันไม่ดี เพราะ ฉะนั้นการที่ข่าวไปเขียนอะไรที่มันไม่ดี ผมก็คิดว่ามันก็คงไม่มีผลอะไรกับผม และผมก็คงไม่ต้องไปแคร์ว่าผมจะต้องไประมัดระวังตัวขนาดไหน”ล่าสุดเปลี่ยนสีผม เปลี่ยนลุคใหม่?“เปลี่ยนลุคเพราะว่างๆด้วยครับ หลังจากจบละครกลิ่นมาลีไป เราใช้เวลาถ่ายทำละครเรื่องนี้ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร แล้วก็รู้สึกว่ามันว่าง และผมก็ผมสีเดิม สีน้ำตาลแบบนี้มานานมากๆแล้ว เราก็เลยรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนลุคและใช้ชีวิตแบบนี้ดูบ้าง แต่เดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนกลับครับ แต่ต้องดูอีกทีว่าถ้าตัวละครด้วยสีผมอะไรอย่างนี้มันได้ มันเหมาะสมแล้ว ก็อาจจะใช้สีนี้ในการถ่ายละครก็ได้”.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่