สานต่อความสยอง นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์ นักแสดงสาวลุคเท่ รับบท ‘กระสือ’ ในภาพยนตร์เรื่อง “แสงกระสือ 2” ค่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม และค่ายทรานส์ฟอร์เมชั่น ฟิล์ม ชวนแฟนๆร่วมพิสูจน์ตำนานรักบทใหม่ระหว่างมนุษย์กับกระสือสาว เป็นชิ้นงานที่ สาวนิ้ง ภูมิใจที่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ สุดท้าทาย ได้พัฒนาตนเอง มีกำหนดเข้าฉาย 30 มีนาคม ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ และก่อนที่ สาวนิ้ง มาปลุกกระแสความสยองขวัญก็เลยอวดลุคสวยหวานซ่อนเปรี้ยว เพื่อแฟนๆ “มาลัยไทยรัฐ” โดยผีมือช่างภาพ : นพดล ธรรมนิยม @pongberryz ช่างแต่งหน้า: PUFFPOY และช่างผม : บอลเน่ คุณาโรจน์ อินเนอร์นางแบบมาเต็ม! สมกับเป็น “มืออาชีพ” จริงๆเล่น “แสงกระสือ 2” สาวนิ้ง ยอมรับไม่มีอะไรง่ายเลยสักเรื่อง...“บทเรื่องนี้หนูชอบมาก บทยากนะแต่มันท้าทาย หนูมองว่าถ้าเราอยู่ที่เดิมมันก็เหมือนเดิม แต่ถ้าเราเจออะไรที่เรารู้สึก หูย! ทำยังไงเนี่ย เราจะพยายามก้าวพ้นขีดจำกัดของตัวเอง พอมีอะไรแบบนี้เข้ามา ทำให้เราคิดได้ว่า เราไปได้มากกว่าที่เราเห็นนี่หว่า” บทมีความยากยังไงบ้าง “ไม่มีตรงไหนง่ายเลยดีกว่า (หัวเราะ) มันเป็นสิ่งที่หนูไม่เคยทำและไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าทำออกมาได้ดี ตอนถ่ายเราเหมือนเป็นมอนสเตอร์ ใช้พลังเยอะมาก ไม่ค่อยมีความกังวลใจว่ายากจัง เพราะหนูมีความรู้สึกตื่นเต้น พร้อมเรียนรู้อยู่แล้ว ได้ขึ้นสลิงด้วย เป็นความสนุกที่หนูจะได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ผลก็ช้ำไปทั้งตัวแต่สนุกค่ะ”ส่วนการทำงานกับ เจเจ-กฤษณภูมิ พระเอกหนุ่มรุ่นน้อง สาวนิ้ง เล่าว่าไม่มีปัญหา เข้าขากันได้ดี เพราะน้องเป็นคนน่ารัก ตั้งใจ อดทนต่อการเมกอัปครั้งละ 3-4 ชั่วโมง แต่ไม่ใช่แค่เจเจ แต่คือทุกคนเมกอัปนาน เมกอัป ใส่วิก ใส่สเปเชียลเอฟเฟกต์ ใส่ชุด ใส่ฟันปลอม คอนแทกเลนส์ก็มา เรียกว่าไม่เหลือ เค้าเดิมกันเท่าไหร่...“กระสือในเรื่องนี้จะไม่ได้ฟูลซีจี เขาพยายามทำให้จริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาเลยให้เราแต่งสเปเชียลเอฟเฟกต์เอา ตามองไม่เห็น ให้รางวัลที่ฟัน จริงๆไม่ยากแต่ยากหลังจากนั้นกาวติดฟันปลอมเป็นปัญหากับหนูมาก หนูบอกเลยว่าเข้าใจทุกคนที่ต้องติดฟันปลอมแล้วว่าพอติดกาวไป แล้วเอาออกยากสุดๆ มันเข้าทุกซอกทุกมุม จะกินข้าววุ่นวาย พอหิวมากๆก็กินแบบนั้นคือกินกาวไปด้วยเลย อันนี้คือศัตรูตัวร้ายเลยค่ะ” พอถามถึงความคาดหวังกับหนังแสงกระสือ 2 ตั้งเป้าไว้อย่างไรบ้าง สาวนิ้ง ยอมรับว่า “ไม่กล้าคาดหวังเพราะกลัวผิดหวัง แต่จริงๆในใจลึกๆก็หวัง อย่างยิ่งว่าคนจะรักมันเหมือนที่หนูรัก อย่างนึงเลยหนูว่าประสบการณ์ถ่ายหนังเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับหนูมากๆ หนูรักทีมงานมากเลย ทีมงานพยายามทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อให้หนังออกมาดีที่สุด มันเพียงพอ แล้ว และเขาฟังเราด้วย เขาไม่ต้อง ถามความคิดเห็น หนูก็ได้เพราะตำแหน่งเราจริงๆเป็นแค่นักแสดง พอเป็นการทำงานทุกคนแชร์กันเป็นทีม ทุกคนขอความเห็นกันและกัน เสื้อผ้าเขาถามหนูเลยว่าให้หนูเลือกเสื้อผ้าประมาณไหน เพื่อให้เราใส่แล้วมั่นใจ ขอบคุณมากที่ให้เกียรติเรา” จากลุคสาวผมสั้นสุดเท่ๆของสาว นิ้ง-ชัญญา จนเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองไปแล้ว แต่เจ้าตัวกับบอกว่าจริงๆตนไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำ แต่ที่หั่นผมสั้นเพราะเริ่มจากความสื่อสารผิดพลาด ตัดทิ้งนิ้วเดียวของตนกับของช่างไม่เท่ากัน แต่หลังจากนั้นได้เล่นหนังต้องโกนผม เลยเป็นจุดเริ่มต้นตัดผมสั้นมาตลอด จนกลายเป็นชอบส่วนตัวที่ผมสั้น ใช้ชีวิตง่ายกว่าจริงๆ ด้วยไลฟ์สไตล์ของตนเองก็จะเป็นคนลุยๆ อยู่แล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกทุกอย่างมันง่ายขึ้น แค่เสยปัดๆ เวลาเล่นกีฬา ทำให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น บวกกับนิสัยไม่ใช่สายหวานจะแนวแอดเวนเจอร์ ชอบความสนุกๆ ตื่นเต้นท้าทาย เป็นการเอาชนะตัวเองไปเรื่อยๆ เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมใหม่ๆ มีไปปีนผา 30 เมตร พอเราทำได้ รู้สึกภูมิใจในตนเอง เป็นการเอาชนะตัวเองได้ เพราะการปีนผาต้องใช้ใจล้วนๆ“จริงๆหนูไม่ได้เป็นคนเก่งที่แบบว่าทำได้แน่ๆ คือหนูเป็นคนขี้กลัวแต่ก็ทำมันอยู่ดี (ยิ้ม) ตั้งใจทำให้ดีที่สุด แม้มันจะล้มเหลวก็จริง มีคนบอกว่าเก่งแต่เรายังรู้สึกว่ายังมีข้อผิดพลาด แค่หนูจะพยายามพัฒนาตัวเองยิ่งขึ้น มันมีจุดเรายังไม่ช่ำชอง หนูไม่ใช่คนที่เกิดมาทำทุกอย่างเก่งเลยตั้งแต่แรก หนูผิดหวังมาเยอะ แพ้มาเยอะแต่หนูไม่ยอมแพ้ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงานค่ะ แคสต์แล้วไม่ได้ เราก็ปวดใจแต่ว่าเราทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องยอมรับมัน” นับว่าเป็นสาวสู้ชีวิตที่หลายๆคนชื่นชมยกย่อง สาวนิ้ง เป็นคนคิดบวก ทั้งๆที่ผ่านช่วงชีวิตป่วยหนักถึงขั้นผ่าตัดก็ยังยิ้มสู้ จนก้าวข้ามผ่านมันมาได้ เพียงแต่ใครจะรู้ ภายใต้ลุคมั่นๆ แต่อดีตเจ็บปวด อารมณ์ดิ่งสุดๆ ถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน สาวนิ้ง เล่าให้ฟังว่า “หนูเป็นโรคซึมเศร้าหนักๆถึงขั้นต้องหาหมอกินยา เป็นช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ช่วงนั้นถ่ายละครและเรียนไปด้วย อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทุกคนบอกเราว่าจะต้องเป็นแบบนั้นๆ ต้องทำแบบนี้ๆ แล้วเรามีคำถามตลอดเป็นแบบนี้ไม่ได้เหรอ? หนูพยายามทำให้ทุกคนพอใจ ได้ในสิ่งที่เขาต้องการแต่กลับกลายเป็นว่าเราสูญเสียความเป็นตัวเองไป หนูเป็นโรคซึมเศร้าประมาณปีนึง ช่วงยุคมืด แย่หนักเลยถึงขั้นถ้ากระโดดก้าวเดียวเหมือนบันจี้จัมพ์ทุกอย่างก็คงจะจบ! ช่วงนั้นหนูก็ปล่อยให้อยู่ในภาวะแบบนั้น ไม่ได้เรียกว่าปล่อยแต่หาทางขึ้นไม่ได้ ใจพังมาก แต่ที่หนูกลับมาได้เพราะดันได้โอกาสจากผู้ใหญ่ที่ให้ทำงาน ตอนนั้นหนูอีเมลสมัครงานโปรดักชัน ไปทำเบื้องหลัง ตั้งใจทำงานในหน้าที่ของเราให้ดีก็พอ ได้ทำในสิ่งที่เราคิด มีคนซัพพอร์ตเรา แล้วสิ่งที่เราคิดเกิดขึ้นได้จริง หนูไปทำรายการช่องวัน จำได้ว่าหนูไปร้านจิ้มจุ่มแล้วดูรายการทำมาอยู่ในทีวี มีพี่ทีมงานที่เชื่อในตัวเรา หนูรู้สึกกลับมาเชื่อตัวเองอีกครั้งนึง ภูมิใจในตัวเอง จริงๆเราก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เราแค่ต้องหาพื้นที่สำหรับเราให้เจอ เราต้องหาคนเชื่อมั่นในตัวเราแค่คนเดียวแล้วซัพพอร์ตเราก็พอ คือหนูไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่ง ไม่ได้เติบโตสมบูรณ์แบบ และเราก็ไม่ได้เชื่อมั่นในตัวเองขนาดนั้น พอเจอคนยิ่งกดเราอีก เรายิ่งจมไปเลย โอเค งั้นหนูเข้มแข็งและยืนหยัดให้ได้ เมื่อหนูทำได้ก็เชื่อว่าเด็กๆ ทุกคน สามารถทำได้เหมือนหนู”ส่วนความรัก สาว นิ้ง–ชัญญา ยอมรับว่าโสดมาพักใหญ่แล้วแต่ไม่เคยเข็ดความรักใดๆ “โสดค่ะ ถามว่าพักมั้ย หนูปล่อยให้มันเป็นไปตามสถานการณ์ชีวิต เหงาบ้าง แต่ไม่เป็นไรหรอก เราสามารถดูแลตัวเองได้ แต่มีบางช่วงรู้สึกว่าถ้าจะมี ก็ต้องมีคนมาแชร์ ก็โสดมาประมาณปีนึงแล้วค่ะ หนูรู้สึกว่าชีวิตหนูไม่ได้เป็นคนต้องมีแฟนตลอดเวลา พอไม่มีแฟน ข้อดีทำให้หนูโฟกัสกับตัวเองมากขึ้น ได้เรียนรู้ตัวเองเยอะและเข้าใจเราต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ อะไรคือคุณค่า ของเรา” ก่อนหน้าเวลานิ้งมีแฟนก็เป็นสายคลั่งรัก ทุ่มเทมากเหมือนกันนะ “จริงค่ะ (หัวเราะ) กับความรักก็มองเป็นสิ่งที่ดีเลย มันไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นแฟนเท่านั้นด้วย จริงๆมันมีความรักอยู่ในทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว พวกนี้หนูรู้สึกว่ามันมีค่าและเป็นความรักเหมือนกัน ต่อให้เป็นคนไม่รู้จักเรา เป็นแฟนคลับเรา เขาไม่เคยเจอเราด้วยซ้ำแต่ดูผลงานเรา เขาชื่นชอบเรามาก มันเป็นพลังเหมือนกัน หนูรู้สึกความรัก ไม่จำเป็นต้องเป็นคู่ชีวิตหรือเป็นแฟนกันเท่านั้น ถึงเข้าใจมันถึงมีมันได้ ถามว่าตอนนี้หนูมีความรักมั้ย หนูก็มีความรักอีกรูปแบบนึงถ้ามันไม่ใช่ในสถานะพาร์ตเนอร์ที่เป็นแฟนกัน มันอาจจะมีความรู้สึกว่าเราเกรงใจที่จะรบกวน หนูว่าเป็นเวย์นั้นมากกว่า”ยังไม่มีแฟนเป็นเพราะนิ้งเข็ดกับความรักใช่มั้ย “ไม่เลยค่ะ แต่หนูคิดว่าไม่ปิดกั้น หนูชอบมีแฟน มีเพื่อนคู่คิด ชอบมีสิ่งนั้นแต่ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็นจะต้องมีมันขนาดนั้น ถ้าเราเป็นคนโหยหาต้องการมีสิ่งนี้มากๆ บางทีเราอาจจะต้องรีบคว้าอะไรที่ไม่ได้ไตร่ตรองดีแล้วหรือเหมาะกับเราจริงๆ ความรักของหนูในช่วงนี้พรั่งพรูในความสัมพันธ์ของเพื่อน ครอบครัวมากกว่า เวลาที่เราแย่ใครอยู่กับเราบ้าง ความสัมพันธ์พวกนี้ถึงมีค่ามากจริงๆ”.ช่างแต่งหน้า : PUFFPOYช่างผม : บอลเน่ คุณาโรจน์ช่างภาพ : นพดล ธรรมนิยม