อยู่วงการมานานแต่เพิ่งก้าวข้ามคอมฟอร์ตโซนของตนเอง ซี-ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ นักแสดง-พิธีกรมากความสามารถ ชิมลางเส้นทางใหม่ด้วยการจับไมค์ ปล่อยซิงเกิลแรกในชีวิต เพลง “พูดซ้ำ” ที่ได้ สงกรานต์ รังสรรค์ กลั่นกรองเนื้อร้องและทำนอง ทำให้เพลงออกมาสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซึ่งหนุ่มซียังเลือกที่จะปล่อยเพลงในวันคล้ายวันเกิด (27 ม.ค.) เพื่อเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ให้กับตนเองด้วย โดยเจ้าตัวเล่าที่มาที่ไปของเพลงนี้ด้วยว่า “ตั้งแต่เข้าวงการเป็นสิ่งเดียวที่ผมไม่เคยทำในวงการคือเป็นนักร้องนี่แหละ และที่เห็นผมร้อง เพลงละคร คอนเสิร์ต ก็เหมือนเป็นสเปเชียล อีเวนต์ที่เราทำเล่นๆ แต่ไม่เคยทำจริงจัง แต่คิดมาตลอด ยังไม่มีโอกาสทำจริงจัง ก็ผัดไปเรื่อยๆ แต่วันนี้เราโตมาแล้ว อายุ 40 แล้ว เป็นหนึ่งอย่างที่เรายังไม่ได้ทำจริงๆ เราไปออกรายการคนจะถามทำไมเราไม่ลองทำดู คนรอบข้างจะถามว่าซีติดอะไรทำไมถึงไม่ทำเสียที เราก็นั่นสิ วันนี้เรามาทำรายการออนไลน์ เป็นตัวเราจริงๆ ในวันนี้คนเค้าไม่ได้คาดหวังตัวเราขนาดนั้น แล้วทำไมเราจะต้องคาดหวังอะไรมากมาย สิ่งสำคัญถ้าตัวเราทำเองมีความสุขทำเลยดีกว่า เริ่มมาจากคอมเมนต์ที่พูดกันตอนเราทำพิธีกรรายการเลย แล้วเหตุการณ์เกิดขึ้นแบบงงๆ วันนั้นอัดรายการชิงร้อยชิงล้าน แล้วครั้งนั้นสงกรานต์มา ผมก็สนิท กับน้องอยู่แล้ว มันพูดเหมือนกันทำไมพี่ไม่ทำเพลง ก็บอกจริงๆ อยากทำ ‘มึงทำให้กูหน่อย’ ผมพูดอย่างนี้เลย ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใน 5 นาทีในการพูดคุย มีคีย์เวิร์ดอยู่ในใจเป็นชื่อเพลง ชื่อว่าพูดซ้ำ ผมนึกขึ้นมาได้เป็นเหตุการณ์ของเพื่อนผมชีวิตในมหา วิทยาลัย ที่คนคนนึงเวลาถูกบอกเลิกด้วยวิธีการต่างๆ คนจะเลิกกัน จริงๆผู้หญิงพูดเป็นนัยๆ แต่ ผู้ชายไม่ยอมรับความเป็นจริง สุดท้ายผู้หญิงออกจากชีวิตเลย คนก็เคว้งจริง ที่มาของเพลงเกิดขึ้นภายใน 5 นาที สงกรานต์หายไป 2 เดือน คิดว่ามันทำเพลงให้ สุดท้ายโทร.ไปตามว่าเพลงยังไง สงกรานต์บอกเพลงยังไม่ได้แต่งเลยพี่ (หัวเราะ) แต่หลังวางโทรศัพท์ประมาณ 3 ชม.เพลงเสร็จเลย ก่อนหน้าเขาคงมีงานแล้วฟีลลิ่งยังไม่มา”ตอนเข้าห้องอัดซิงเกิลแรกโมเมนต์เป็นยังไงบ้าง “ก็รู้สึกแปลกๆ ปกติเราจะร้องเพลงคนอื่น แต่อันนี้เป็นเพลงของเราจริงๆ ที่ ตั้งใจทำขึ้นมา มันเป็นความชาเลนจ์ ตื่นเต้นมากกว่า รู้สึกว่าผมจะกดดันมั้ย ก็ไม่เพราะผมข้ามขีดจำกัดคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง เราแค่ทำ มันถือว่าเป็นงานศิลปะอย่างนึงที่เราอยากจะทำขึ้นมา ส่วนคนฟังจะชอบ หรือไม่ชอบ มันเป็นสิทธิ์ของเขา เรายินดีน้อมรับเขาจะชอบหรือไม่ชอบ” เลือกปล่อยเพลงตรงกับวันเกิดของตัวเองด้วย “มันเหมือนเป็นการให้ของขวัญกับตัวเองครับ เราจะได้ไม่มีคำถามในใจสักทีว่าเราอยากทำอะไรสักอย่าง เราใช้คำว่าอยากๆ แต่วันนี้ผมจะทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ เวลาเราอยากทำอะไรทำเลย พอลงมือทำเราจะเห็นเอง มันเหมือนเดินเข้าเส้นทางทำหน้าที่พิธีกร เราอยากทำสิ่งนั้น เรารักการทำพิธีกร เรามีโอกาสได้พูดคุย เรารู้สึกเราโตขึ้น ทำให้เราฉลาดขึ้น เรารู้สึกชอบจริงๆ กับเส้นทางนี้ เหมือนกับเพลง แม้พยายามหนียังไง เราแค่คนชอบร้องเพลง ไม่ได้อยากมีซิงเกิลของตัวเองหรอก ช่วงชีวิตผมไม่มีสักวันที่ผมไม่ร้องเพลง ร้องเพลงในรถ หรือไปในรายการ ผมเป็นคนชอบเสียงเพลงมาก ก็คิดทำไมเราไม่ทำ เป็นเพราะเรากังวลหรือกลัว ผมว่าทั้งหมด แค่ลดความคาดหวังในตัวเอง มองมันคืองานอาร์ต ที่สำคัญเราต้องถามตัวเองว่าแฮปปี้ที่จะทำหรือเปล่า พอเราแฮปปี้มันไม่มีเงื่อนไขอะไร เราแค่ลงมือทำเท่านั้นเอง” ทางเอมี่ ภรรยา ฟังเพลงนี้แล้วเขาว่ายังไงบ้าง “เขาสนับสนุนผมทุกอย่าง เป็นคนออกสตางค์ ในฐานะเจ้าของบริษัท ทำในนามบริษัทคู่สร้างเสียงดี เป็นบริษัทของผมเอง แต่ไม่ได้เปิดค่ายนะ เปิดบริษัทเพื่อทำยูทูบ ทีนี้เราเดินไปบอกเขาเพราะใช้สตางค์เยอะ เขาโอเคทำเลยสิ เขารู้ว่าผมชอบ เขาบอกทำสักทีจะได้ไม่ต้องค้างคาใจตัวเอง มีแต่คำว่าอยากๆ 20 ปี โมเมนต์นี้ทำตอนอายุ 50 คงไม่ใช่ เรายอมรับความเป็นจริง เราชอบมันจริงๆ ซิงเกิลแรกในชีวิตไม่ได้สมบูรณ์มากเพราะผมไม่ได้มีสกิลอะไรมาก ผมแค่เปิดโอกาสให้กับตัวเองเพราะผมเป็นคนที่เมื่อเห็นตัวเองเราอยากพัฒนาตัวเองต่อในส่วนไหนที่เรายังพัฒนาตัวเองได้ในศาสตร์นี้”กับรายการทางยูทูบจะเห็นทุกเทปซี ชอบแกล้งเอมี่ตลอดๆ “ใช่ครับ นั่นเป็นตัวผม เป็นโอกาสที่คนจะเห็นสองผัวเมียคู่นี้ตีกันแบบนี้จริงๆ ไม่มีสคริปต์ เราทะเลาะกันทุกวัน แต่จะดีกันตลอดในระยะเวลาเพียง 5 วิ เป็นสีสันของชีวิต ไม่งั้นเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ เป็นเหตุผลที่อยากให้ทุกคนเห็นว่าทำไมเราอยู่ด้วยกันได้ ความไม่เพอร์เฟกต์ของเราสองคนนี่แหละ แต่เราเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกัน ยอมรับกันได้ ทุกอย่างไม่มีแก่งแย่งเอาชนะกัน มันไม่ใช่ มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนสองคนที่มีความคิดเห็นที่มันต่างกัน เราไม่ได้ดราม่าเพื่อเอาชนะ เขาคือคนรักของเรา นอนข้างๆเราทุกวัน พอเกิดโอกาสให้คนอื่นได้เห็นว่าคู่เราเป็นแบบนี้เราถึงอยู่ด้วยกันได้”.