สวรรค์นรกดูจะรู้กันอยู่ เรื่องนรกขุมไหนลงโทษอย่างไร ก็พอรู้ แต่ที่รู้น้อยก็คือ มีนรกขุมเฉพาะสำหรับลงโทษพระสัญลักษณ์นรกพระ ปากทางเข้ามีต้นตาลเหล็กต้นใหญ่ พระที่ตกนรกชุดแรกๆ ยังเห็นเป็นต้นตาล แต่เมื่อมีกติกา พระที่จะเข้านรก จะต้องเปลื้องจีวรแขวนไว้ที่ต้นตาลก่อนพระปาราชิกมากๆ จีวรพระที่พาดต้นตาลก็เพิ่มน้ำหนัก ต้นตาลเหล็กเอนล้มราบกับพื้นพระที่ตกนรกยุคหลังๆจึงไม่เห็นต้นตาลเหล็ก เห็นแต่จีวรกองสุมเป็นภูเขาขนาดเขียนนรกพระขู่ พระก็ยังผิดวินัย ตกนรกได้เรื่อยๆ เป็นภาระหนักให้ฝ่ายปกครอง เรื่องที่แทบจะไม่ค่อยรู้กันเลยก็คือ การเอาพระขังคุก ภาษาชาวบ้านว่าติดคุกทั้งผ้าเหลือง เคยมี...ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์เรื่องคุกขังพระเป็นประโยคหนึ่งในบทสนทนาระหว่างนายฟุ้ง ศรีวิจารณ์ อธิบดีกรมศาสนา กับ พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ (ต่อมาเป็นอธิบดีกรมศาสนา)ในรายการนาทีทอง ทางโทรทัศน์กองทัพบก ระหว่างปี 2503-2508การปกครองสงฆ์ไทยในยุคโบราณ พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจเด็ดขาด ชี้ผิดชี้ถูกได้ ในสมัย ร.1 ร.2 ร.3 เมื่อภิกษุกระทำผิด เสื่อมเสียคณะสงฆ์ ก็จะถูกบังคับให้สึกแล้วเอาตัวมาลงโทษทางบ้านเมืองอีกสถานหนึ่งหน่วยราชการที่รับผิดชอบงานนี้ คือ กระทรวงธรรมการ“แต่เห็นจะไม่มีการคุมขังกระมัง” คำถามจากคุณฟุ้ง “มีครับ” คำตอบจาก พ.อ.ปิ่น“ก่อนใช้ พ.ร.บ.ปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.121 มีห้องขังพระอยู่ปากคลองโอ่งอ่าง ซึ่งก็คือที่ตั้งของกระทรวงธรรมการ” ข้อมูลเรื่อง คุกขังพระ มีอยู่แค่นี้ล่ะครับผ่านบทสนทนาเรื่องคุกขังพระ มาถึงเรื่องการปกครองคณะสงฆ์ มาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสมัย ร.5ภายหลังทรงปฏิรูปการปกครองแผ่นดินแล้ว ทรงพระราชปรารภว่า สมควรจัดรูปแบบการปกครองคณะสงฆ์ให้สอดคล้องกับระบอบบริหารราชการแผ่นดินพ.ร.บ.ลักษณะการปกครอง ร.ศ.121 เกิดมีตอนนี้เองตาม พ.ร.บ.ใหม่ สถาบันการปกครองสงฆ์สูงสุด เรียก มหาเถรสมาคม ประกอบด้วยมหาเถระ 8 องค์ เมื่อมหาเถรสมาคมมีมติอย่างไร ก็ทรงโปรดให้เป็นไปตามมตินั้นต่อมาหลังปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง รัฐบาลคณะราษฎร ได้ยกเลิก พ.ร.บ.เดิม ใช้ พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2484 สมเด็จพระสังฆราช ทรงใช้อำนาจ 3 ทางอำนาจนิติบัญญัติทางสังฆสภา อำนาจบริหาร ทางคณะสังฆมนตรี อำนาจตุลาการ ทางคณะวินัยธรสมาชิกสังฆสภาคัดเลือกจากคณะสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นธรรมขึ้นไป พระคณาจารย์ชั้นเอก และพระเปรียญเอก (9 ประโยค) รวมแล้วไม่เกิน 45 รูประบอบสังฆสภาถูกยกเลิกโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505หลังกรณีรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจจับพระพิมลธรรม สังฆมนตรีองค์การปกครอง วัดมหาธาตุ สึกกลับมาใช้ระบบมหาเถรสมาคมจนปัจจุบันใครที่เคยสงสัยคณะสงฆ์ไทยเคยมีวิธีบริหารจัดการอย่างไรคงได้ความรู้บ้างนะครับส่วนเรื่องคุกพระที่ พ.อ.ปิ่น ท่านว่าเคยมีที่กระทรวงธรรมการเก่า แถวปากคลองโอ่งอ่างนั้น...สภาพบ้านเมืองวันนี้ คงไม่เหลือเค้ารางเก่าๆไว้แล้ว ใครไปแถวนั้น ก็คงต้องจินตนาการกันเอาเองคุกพระยุคนั้น ผมว่านะ ไม่น่ากลัวเท่า ผอ.องค์การพุทธศาสนาคนล่า ท่าทีท่านจริงจัง จะเอาพระใหญ่ๆระดับรัฐมนตรี เข้าคุกให้ได้สถานเดียว.กิเลน ประลองเชิง