ใหญ่ในใหญ่

ผ่านครึ่งทางไปแล้วสำหรับมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจว 2022” ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีนแน่นอนว่าทัพนักกีฬาเจ้าภาพโกยเหรียญทองกันยอดเยี่ยมขยับเข้าใกล้เป้าหมายเข้าไปทุกขณะ ส่วนจะได้เท่าไหร่ร่วมเชียร์กันไป นับจากนี้ในการชิงชัยในแต่ละวันถือว่าเข้มข้นทัพไทยจะได้ตามเป้าหรือมากกว่าเป้าอยู่ที่ช่วงนี้ เพราะส่วนใหญ่เป็นกีฬาความ หวังด้วยกันทั้งนั้น เรียกว่าห้ามกะพริบตาอย่างเด็ดขาด

มองหลายกีฬาที่แข่งจบไปแล้วและทำผลงานได้ถือว่ายิ้มได้ โดยเฉพาะที่ได้เหรียญทองขอชื่นชมว่าทุกคนคือสุดยอดแห่งความภาคภูมิใจของคนไทย

ส่วนหลายกีฬาที่ไม่ได้เหรียญก็อย่าเพิ่งท้อเชื่อว่านักกีฬาทุกคนต่างก็ต้องการเหรียญทองมาคล้องคอเหมือนกันหมด ขอเพียงทุกคนทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเชื่อว่าสักวันความสำเร็จย่อมไม่ไกลเกินเอื้อม

แต่เมื่อหันไปมองเกมกีฬายอดฮิต “ฟุตบอล” ถือว่าพอรับได้นะถ้าเทียบกับคุณภาพของนักเตะที่มาร่วมการแข่งขัน ผมเห็นด้วยกับ “โค้ชหระ” อิสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนช้างศึกจูเนียร์ ที่บอกว่าในเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย สภาพนักเตะต้องพร้อมกว่านี้พูดแบบเข้าใจง่าย “ต้องฟูลทีม” มีตัวเก่งๆมาร่วมทีมให้มากที่สุดหากต้องการบรรลุเป้าหมาย

ถึงวันนี้ผมเองก็ไม่อยากจะโทษทางสมาคมฟุตบอลซะทีเดียวถึงผลงานใน “หางโจวเกมส์” หนนี้ ทำไงได้ล่ะครับเมื่อมีนักเตะให้เลือกแค่นี้จะไปหวังอะไรที่มากกว่าที่ควรจะเป็นคงจะยากหรือเพ้อฝัน

จุดนี้คงจะเป็นการบ้านข้อใหญ่กับว่าที่นายกคนสวย “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ต้องเตรียมรับมือและหาหนทางในการแก้ไขกับปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เช่นนั้นก็จะกลับเข้าสู่วังวนเดิมๆ ผลงานทีมชาติล้มเหลว

บอกเลยความสำเร็จของทีมชาติไทยจะว่าไปแล้วไม่ใช่เพราะสมาคมฟุตบอลเพียงอย่างเดียวแต่ต้องมาจากความร่วมมือร่วมใจของทุกสโมสรด้วยที่ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญแห่งความสำเร็จ

เมื่อใดที่ทุกสโมสรยังเห็นแก่ตัวเองโดยลืมคำว่าประเทศชาติ บอกเลย “สำเร็จยาก” ต่อให้ยอดโค้ชหรือซุปเปอร์แมนก็ยากที่จะประเคนความสำเร็จได้

ในเมื่อนักเตะดีที่สุดที่ทางสตาฟฟ์โค้ชอยากได้เพื่อเพิ่มศักยภาพของทีมชาติไทยให้กล้าแกร่ง แต่สุดท้ายก็ถูกสโมสรกีดกันไม่ยอมปล่อยตัวมาร่วมแล้วแบบนี้จะไปร้องหาความสำเร็จได้อย่างไร

ไม่เถียงครับว่าแต่ละสโมสรมีการลงทุนที่มากมหาศาลหลายร้อยล้านบาทเพื่อไขว่คว้าความสำเร็จในการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดรวมถึงระดับเอเชีย แต่อย่าลืมเมื่อใดที่ทีมชาติต้องการก็ควรจะต้องให้ความร่วมมือด้วยการให้นักเตะตัวเก่งของแต่ละสโมสรไปร่วมทีมชาติ

การไปร่วมทีมชาติในเกมนานาชาติได้อะไรมากกว่าที่พวกคุณคิด อย่างน้อยเวลาลงเตะกับชาติคู่แข่งบรรดาแมวมองเขาก็จะได้เห็นฝีเท้าของนักเตะไทยว่ามีดีมากน้อยแค่ไหน หากเข้าตาแมวมองก็มีโอกาสไปค้าแข้งต่างแดน

การที่เราไม่ปล่อยนักเตะไปร่วมทีมชาติผมว่าถือเป็นการกีดกั้นเส้นทางอาชีพของนักเตะเพียงเพื่อความเห็นแก่ตัว ไม่มีหรอกครับที่แมวมองจะมาสนใจ “ไทยลีก” เหมือนกับ 4 ลีกใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา ลาลีกา และกัลโชซีรีเอ ส่วนในเอเชียก็มีลีกญี่ปุ่นที่พอจะคุยกับเขาได้

นี่ยังไงครับเหตุผลที่ทุกคนต่างงง! ว่าทำไมนักเตะไทยถึงไม่มีโอกาสไปค้าแข้งต่างแดนทั้งที่ฝีเท้าดี หลายคนที่ได้ไปลองไปเปิดดูส่วนหนึ่งเพราะมาจากบารมีของผู้ใหญ่หลายคนที่ฝากไปให้ลองทดสอบฝีเท้าสุดท้ายเราเจ๋งจริงเขาถึงดึงไปร่วมทีมอย่าง “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือแม้แต่ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน และ “เชค” สุภโชค สารชาติ

วันนี้เกมใหญ่ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย กำลังจะเริ่มอีกไม่นานก็ได้แต่หวังให้ทุกสโมสรเลิกเห็นแก่ตัวแล้วนึกถึงประเทศชาติไม่ใช่ดีแต่พูด

ลองให้ช้างศึกไปแบบฟูลทีมตามที่ทางโค้ชร้องขอไปสักครั้งจะได้รู้ว่าหมู่หรือจ่า.

โจโจ้

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่