หน้าแรกแกลเลอรี่

ปิดสนามบิน

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

22 ก.ค. 2564 05:01 น.

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่หลายคนคุ้นเคยและใฝ่ฝันที่อยากมาลองสัมผัสสัก ครั้งหนึ่งในชีวิต แถมบางคนยกให้เป็นบ้านหลังที่สองต่อจากเมืองไทย มีเวลาว่างเมื่อไหร่ เป็นต้องบินมาพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะในช่วง “ดอกซากุระ” บาน

วันนี้แดนซามูไรไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด แม้ว่ากำลังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่มีนักกีฬาจากทั่วโลกร่วมการแข่งขันอยู่ก็ตาม

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของญี่ปุ่นมาจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้เช่นกัน ที่ทำให้มนตร์ขลังของความเป็นดินแดนปลาดิบต้องหายไปอย่างสิ้นเชิง

ถนนหนทางย่านดังๆที่เคยมีคนพลุกพล่านดูลดน้อยลงไปถนัดตา ต่างชาติแทบมองไม่เห็น เพราะการจำกัดคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าประเทศ

การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดเกมกีฬาใหญ่แห่งมวลมนุษยชาติ “โตเกียวเกมส์ 2020” เชื่อว่าญี่ปุ่นหมายมั่นปั้นมือว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาล เศรษฐกิจจะคึกคักมีเงินสะพัดมากขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่า

แต่ทุกอย่างก็ฝันสลายหลังจากเกิดวิกฤติไวรัสโควิด-19 จนทำให้ต้องตัดสินใจขอเลื่อนการจัดจากเดิมปี 2020 มาเป็นปี 2021 แต่ยังคงเป็น “โตเกียวเกมส์ 2020” ตามเดิม

สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่ เจ้าเชื้อไวรัสมรณะยังคงตามหลอกหลอนอยู่ยาวมาถึงปีนี้ 2021 ชนิดหนักข้อกว่าเดิม แต่จะให้เลื่อนจัดออกไปอีกคงไม่ได้

ทำให้ต้องหาวิธีการเพื่อรองรับในการเป็นเจ้าภาพด้วยการวางมาตรการป้องกันโควิดอย่างเข้มข้น แม้ว่าต้องโดนกระแสต่อต้านจากคนในประเทศบ้างก็ตาม

บอกเลยมาตรการที่ญี่ปุ่นวางไว้เข้มมากๆ กว่าคนจะผ่านมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองได้อักโขแน่ มีไม่ต่ำกว่า 2 ชม. กรณีที่เตรียมเอกสารอย่างครบถ้วน มีการลงตามแอปพลิเคชันที่กำหนดไว้ตั้งแต่ตอนแรก

ส่วนใครที่มีเอกสารไม่ครบบอกเลยนอนยาวหลาย ชม. กว่าจะผ่านด่านแรกไปถึงตรวจคนเข้าเมือง เรื่องนี้เจอกับตัวเองมาแล้ว กลุ่มนักข่าวจากเมืองไทยและเจ้าหน้าที่ กกท.รวมแล้ว 12 ชีวิต มีเอกสารครบทุกอย่าง มีใบตรวจโควิดจากไทยมาแสดงลงแอปพลิเคชันที่กำหนดครบถ้วนกระบวนความ แต่กว่าจะผ่านมาถึงตรวจคนเข้าเมืองปาเข้าไป 7 ชม.กว่า

ถือเป็นการทำลายสถิติเดิมที่กลุ่มคนไทยเคยทำไว้ก่อนหน้านี้ 5 ชม.ลงอย่างราบคาบ นี่มันเกิดอะไรขึ้น “โอ้พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก!” ไม่น่าเชื่อเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับคณะเรา

เอาง่ายๆพอผมเดินออกแต่ละด่านเจ้าหน้าที่จะโค้งเกือบติดพื้นและทยอยเก็บของทันที รวมถึงตรวจคนเข้าเมืองพอเดินออกปุ๊บก็ปิดเครื่องพร้อมปิดไฟเดินออกมาเช่นกัน

ไม่ใช่อะไรหรอกครับมันเลยเวลาทำงานไปแล้ว ยิ่งเรานานเท่าไหร่เขาก็ต้องรอเราด้วย เอาแค่กระเป๋าเดินทางต้องมีคนนั่งเฝ้าจนกว่าเราจะมา

ไม่อยากจะบอกว่าพวกเราคือ “คนปิดสนามบิน” ตัวจริง แหม!ฟังดูคุ้นๆจัง แต่ก็ยังมีเรื่องที่น่าสงสัยขนาดมีมาตรการที่เข้มข้นขนาดนี้ แล้วทำไมยังมีนักกีฬากว่าครึ่งร้อยติดโควิดภายในหมู่บ้านซะงั้น ทั้งที่ “คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า”

แถมทุกคนก็ผ่านด่านตรวจมาจากแต่ละประเทศรวมถึงที่สนามบินด้วย มิหนำซ้ำภายในหมู่บ้านยังมีการตรวจกันละเอียดยิบทุกวันหรือเชื้อนี้มันติดได้ง่ายดายกว่าที่คิด เพื่อให้เราปรับตัวเข้ากับตัวมันเหมือนไข้หวัดในสมัยก่อน

ทางที่ดีคือ รักตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือจะทำให้เราปลอดภัยจากเชื้อไวรัสมรณะ “โควิด-19”.

โจโจ้ซัง