ความภูมิใจของเอเชีย

วันก่อนได้มีโอกาสพูดคุยกับ “อ.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร” ผอ.ศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถึงผลงานของทีมชาติเอเชียในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ต่างเห็นตรงกันว่าเป็นปีที่มีความสุขในฐานะคนทวีปเอเชีย

หลังจากทีมจากแดนปลาดิบสร้างชื่อกระฉ่อนในศึกลูกหนังโลก 2022 ด้วยการเก็บ 6 แต้ม ทะลุ เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ทำให้ชาวญี่ปุ่น และคนเอเชียอิ่มเอมกับความสำเร็จไปตามๆกัน

ที่น่าสนใจคือผลงานที่พลพรรคนักเตะซามูไรบลูส์โชว์ลีลาการเล่นแบบวิ่งสู่ฟัดด้วยการยัดเยียดความปราชัยให้อดีตแชมป์โลก 4 สมัย “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ในนัดแรกตามด้วยนัดสุดท้ายถลุงทีมดังจาก ยุโรปและอดีตแชมป์โลกปี 2010 “กระทิงดุ” สเปน

เมื่อกล่าวถึงความสำเร็จของนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นในมหกรรมบอลโลก 2022 ต้องยอมรับว่าหนึ่งในมิติ ของการเดินมาไกลถึงวันนี้คือการบริหารจัดการของสมาคมกีฬาลูกหนังที่มีผู้นำและคณะ ทำงานแบบมืออาชีพ ภายใต้วิสัยทัศน์และแผนกลยุทธ์

จากแผนยุทธศาสตร์ที่ผู้บริหารสมาคมลูกหนัง ซามูไรขับเคลื่อนมีเป้าหมายและเป็นระบบ ภายใต้คุณภาพมาตรฐานสากล วันนี้ต้องยอมรับว่าฟุตบอลญี่ปุ่นสามารถก้าวมายืนเป็นหนึ่งในเอเชียและทัดเทียมกับทีมในระดับโลกได้อย่างน่าสนใจยิ่ง

การที่ขุนพลซามูไรบลูส์สามารถรักษาระดับด้วยการทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย สร้างผลงาน ด้วยการหักปากกาเซียนเป็นแชมป์กลุ่ม E ซึ่งถูกยกให้เป็น “กรุ๊ปออฟเดธ” ในกาตาร์ 2022 ถือว่าเป็น อีกครั้งที่นักเตะจากแดนปลาดิบยังคงรักษาฝีเท้าและ มาตรฐานในระดับนานาชาติได้อย่างคงเส้นคงวา

สำหรับทีมชาติญี่ปุ่นกับมหกรรมบอลโลกนั้น นอกจากเคยเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้ เมื่อปี 2002 มาแล้ว ทีมญี่ปุ่นยังเคยผ่านสมรภูมิและสามารถก้าวสู่ รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ถึง 7 ครั้ง นับแต่ปี ค.ศ.1998 เป็นต้นมา

จากผลงานที่กระฉ่อนและเข้าตาคอลูกหนังทั่วโลก ล่าสุดบ่อนการพนันถูกกฎหมายต่างประเทศได้ยกให้ทีมชาติญี่ปุ่นเป็นทีมเต็ง 9 สำหรับโอกาสการลุ้นหรือคว้าแชมป์โลก

เชื่อว่าเป้าหมายของญี่ปุ่นตอนนี้คือต้องการสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการนำทีมเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย หลังจากทีมสามารถล้มทีมดังระดับโลกอย่างเยอรมนีและสเปนลงได้ คงจะสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะทุกคนอย่างมาก

และเมื่อกล่าวถึงนักเตะแดนซามูไรแล้วอีกหนึ่ง ความภูมิใจของชาวเอเชียที่จะต้องส่งใจให้คือนักเตะ โสมขาวที่ลงสนามนัดล่าสุด อัด “ฝอยทอง” โปรตุเกส จนอยู่หมัดทำให้ลอยลำเข้าถึงรอบ 16 เช่นกัน

สำหรับเกาหลีใต้กับบอลโลกต้องยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในขุนพลเอเชียที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี 2002 ที่เป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่นครั้งนั้น นักเตะโสมทะยานเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย

เมื่อมองความสำเร็จของทีมชาติญี่ปุ่นและเกาหลีใต้แล้ว เมื่อย้อนกลับมาที่ทีมช้างศึกกับทิศทางที่เห็นคงจะเป็นโจทย์หรือการบ้านที่สมาคมลูกหนังไทย รวมทั้งภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกระชับวงล้อมปันความคิดร่วมกัน เพื่อผนึกพลังในการพัฒนา และยกระดับให้บอลไทยก้าวผ่านกับดักและหลุมดำ ที่เห็นในปัจจุบัน

ยอมรับว่าเป็นโจทย์ยากแต่ก็ต้องเร่งดำเนินการ หากต้องการบรรลุความฝัน “บอลไทยไปบอลโลก”

เหนือสิ่งอื่นใดในฐานะคนเอเชียคงต้องส่งแรงใจเชียร์ทีมจากแดนปลาดิบที่ปะทะแข้งกับโครเอเชีย รวมถึงทีมจากแดนโสมที่จะดวลกับแชมป์ 5 สมัย “แซมบ้า” บราซิล คืนวันที่ 5 ธ.ค.

โจโจ้ซัง