ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“จ่าแฉ่ง” นั่งเขียนต้นฉบับ วันนี้ช่วงค่ำๆของวันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนที่คู่ 5 ดาวรอบ “น็อกเอาต์” 16 ทีมคู่แรก ระหว่าง “ตราไก่” ฝรั่งเศส กับ “ฟ้าขาว” อาร์เจนตินา จะเริ่มขึ้น
อยากจะรอเขียนถึงผลของคู่นี้ใจจะขาดเลยครับ แต่โดยทางเทคนิคการพิมพ์แล้วทำไม่ได้จริงๆ
คงต้องรอไว้วันพรุ่งนี้ค่อยกลับมาพูดกันอีกที
ท่านผู้อ่านที่อ่านคอลัมน์ “จ่าแฉ่ง” ตอนเช้าๆ วันอาทิตย์ คงจะทราบแล้วนะครับว่าระหว่าง “ไก่” กับ “ฟ้าขาว” ใครอยู่ใครไป?
และไม่ว่าใครที่เป็นฝ่ายต้องไป ก็ขอได้รับความเสียใจและเสียดายจาก “จ่าแฉ่ง” ด้วย
เพราะโดยศักดิ์โดยศรีและฝีไม้ลายเท้าโดยเฉลี่ยแล้ว ทีมที่ตกรอบไปในเช้านี้ ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสหรืออาร์เจนตินาก็เหอะ สมควรจะได้เข้ารอบลึกกว่านี้อย่างแน่นอน ถ้าไม่มาเจอกันเอง
รวมถึงคู่ดึกตอนตี 1 ด้วยครับ ระหว่าง อุรุกวัย จอมโหด กับฝอยทอง โปรตุเกส ไม่ว่าใครร่วงไปก่อนก็น่าเสียดายทั้งนั้น
อาจจะไม่ถึงขั้นเสียดายทีม เพราะการเล่นทั้งทีม ก็ยังงั้นๆ ไม่ถึงกับประทับใจอะไรมาก
แต่เสียดายดารานักเตะน่ะครับ อย่างของอุรุกวัย ก็มีทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ กับ เอดินสัน คาวานี ที่แฟนลูกหนังทั่วโลกชื่นชมในฝีเท้า
ในขณะที่ฝอยทองยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าตกก็เสียดายมาก สำหรับยอดซุปตาร์หมายเลข 1 ของโลกยุคนี้ คริสเตียโน โรนัลโด นั่นเอง
สรุปว่าใครจะอยู่ใครจะไป? ควรจะดีใจกับใคร? หรือเสียใจกับใคร? อย่าลืมตรวจสอบข่าวเช้าวันนี้ด้วยนะครับ
สำหรับ “จ่าแฉ่ง” ในระหว่างนั่งรอผล 2คู่แรกนี้อยู่ ก็เปิดดูสถิติต่างๆของรอบแรกที่ฝรั่งเขาจดไว้ไปเรื่อยๆ...พบว่ามีหลายประเด็นที่น่าสนใจ ขออนุญาตคัดลอกมาฝากท่านผู้อ่านสัก 2-3 หัวข้อก็ละกัน
คู่มันที่สุดของรอบแบ่งกลุ่มปี 2018 สื่อฝรั่งยกให้ โปรตุเกส–สเปน ที่เสมอ 3-3 ว่าเป็นการต่อสู้ที่ตื่นเต้นจนนาทีสุดท้าย รวมทั้งชมว่าการยิงประตูจากลูกโทษนอกเขตของโรนัลโดเพื่อตีเสมอสเปนนั้นเป็นลูกที่สวยที่สุดของรอบแรก
คู่น่าเบื่อหน่ายที่สุด สำหรับรอบแรกได้แก่คู่ เดนมาร์ก กับ ฝรั่งเศส ที่เสมอกันไป 0-0 ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มซี ซึ่งทุกสำนักเห็นตรงกันว่าเป็นการดูที่เสียเวลาและไม่คุ้มค่าผ่านประตู
การยิงประตูทั้งหมดของรอบแรกนั้นรวมแล้ว 122 ประตู น้อยกว่าปี 2014 ที่บราซิลเป็นเจ้าภาพซึ่งยิงรวมกันรอบแรก 136 ประตู แต่ก็ยังมากกว่าปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งยิงรอบแรกแค่ 101 ประตู
เบลเยียมเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากสุดรวม 9 ประตู โดยมีอังกฤษกับรัสเซีย ยิงทั้งหมด 8 ประตู เท่ากัน เป็นอันดับสอง
สำหรับดาวซัลโวอังกฤษโดย แฮร์รี เคนยิงมากสุด 5 ประตู ตามมาด้วยเบลเยียม โดย โรเมลู ลูกากู 4 ประตู ซึ่งเท่ากับโปรตุเกสโดย คริสเตียโน โรนัลโด 4 ประตู
ในส่วนของการให้ลูกโทษที่จุดโทษ เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ใช้ระบบ VAR มาช่วย ทำให้ผู้ตัดสินสามารถตัดสินได้ละเอียดมากขึ้น
มีการเป่าให้ลูกโทษจุดโทษถึง 24 ครั้ง มากสุดของรอบแรกนับแต่ปี 1998 ที่มีลูกโทษ 13 ครั้ง และมากกว่าปี 2014 ที่บราซิล ที่มีจุดโทษ 10 ครั้ง
นอกจากสถิติที่น่าสนใจข้างต้นแล้วก็มาถึงอีกข้อมูลหนึ่งที่แฟนๆอยากรู้มากที่สุด เมื่อการแข่งรอบแรกจบลง
นั่นก็คือการ “ทำนาย” หรือการ “คาดหมาย” ว่า เมื่อเหลือ 16 ทีมอย่างนี้แล้ว ทีมไหนเต็งสุด ทีมไหนเต็งรอง และทีมไหนบ๊วย?
และนี่คืออันดับ “ความเต็ง” ที่ “จ่าแฉ่ง” นำมาจากอัตราต่อรองของร้านพนันถูกกฎหมายต่างๆ ในลอนดอน และลาสเวกัส บวกกับการคาดหมายของกูรูที่มิได้ระบุออกมาเป็นอัตราต่อรอง ได้ค่าเฉลี่ย เรียงตามลำดับดังนี้
เต็ง 1 บราซิล, เต็ง 2 สเปน (แพ้บราซิลเล็กน้อย), เต็ง 3 เบลเยียม, เต็ง 4 อังกฤษ, เต็ง 5 ฝรั่งเศส, เต็ง 6 โครเอเชีย, เต็ง 7 อาร์เจนตินา, เต็ง 8 โคลอมเบีย, เต็ง 9 อุรุกวัย, เต็ง 10 โปรตุเกส, เต็ง 11 สวิตฯ, เต็ง 12 รัสเซีย, เต็ง 13 สวีเดน, เต็ง 14 เม็กซิโก และเต็ง 15 เดนมาร์ก
ส่วนเต็งบ๊วยสุด หรือเต็ง 16 ทุกกูรูและทุกสำนัก ยกให้ “เจแปน” หรือ “ญี่ปุ่น” จากเอเชียของเราเป็นเอกฉันท์ซีน่ะ
ก็ขอเชิญติดตามกันต่อไปนะครับว่า บรรดากูรู และเซียนทั้งหลายจะทำนายถูกต้องหรือไม่
สำหรับ “จ่าแฉ่ง” แอบเอาใจช่วยอยู่ 2 ทีม คือ อังกฤษ เนื่องจากเป็นแฟนพรีเมียร์ลีกเข้ากระดูกดำ กับ โครเอเชีย เพราะชอบลีลาการเล่นในรอบแรก
ท่านผู้อ่านล่ะครับ ชอบใจทีมไหนบ้าง? ชอบแล้วก็อย่าอยู่เฉยๆนะครับ รีบซื้อไปรษณียบัตรตุน เอาไว้ด้วย เพื่อจะส่งมาลุ้นรางวัลกับไทยรัฐ สำหรับทีมที่ท่านรักและเชียร์!
"จ่าแฉ่ง"