ไทยรัฐออนไลน์
ถ้าหากพูดถึงแข้งฟุตซอลที่ยอดเยี่ยมและน่าเคารพนับถือคนหนึ่งของประเทศไทย แน่นอนว่าชื่อของ "เลิศ" เลิศชาย อิสราสุวิภากร จะต้องเป็นหนึ่งในชื่อที่คนทั้งประเทศนึกถึง และตอนนี้เขามีภารกิจสำคัญอีกครั้งนั่นคือการนำ "สิงห์คลองเตย" การท่าเรือ ฟุตซอล คลับ เข้าไปป้องกันแชมป์ ฟุตซอล ชิงแชมป์ อาเซียน 2017 หรือ "เอเอฟเอฟ ฟุตซอล คลับ แชมเปียนส์ชิพ 2017" ที่จะทำการแข่งขันในระหว่างวันที่ 3-9 กรกฎาคม นี้ โดยพกดีกรีแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน และในวันนี้ "ทีมข่าวกีฬา ไทยรัฐออนไลน์" จะขอนำพาแฟนฟุตซอลชาวไทยทั้งประเทศไปพูดคุยกับแข้งมากประสบการณ์รายนี้กันดีกว่าว่า จะกดดันหรือไม่กดดัน จะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ รวมถึงความพร้อมล่าสุดของทีมตอนนี้ว่าเป็นอย่างไร
พูดถึงการแข่งขัน "เอเอฟเอฟ ฟุตซอล คลับ แชมเปียนส์ชิพ 2017" ในครั้งนี้?
การแข่งขันครั้งนี้น่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ยากนับตั้งแต่ที่ได้ร่วมในการแข่งมา เพราะทีมเข้าร่วมเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อน และมีทีมตัวแทนจากประเทศออสเตรเลียเข้ามาด้วย อย่างปีแล้วไม่มีทีมจากออสเตรเลียแต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ง่าย เพราะมาทีมจากเวียดนาม ที่เป็นอันดับ 3 เอเชียมาเล่น แล้วปีนี้เวียดนามไม่มา แต่ก็ไม่ทำให้รายการนี้ศักยภาพลดลงแต่อย่างใด เพราะมีทีมจากออสเตรเลีย หรือ อินโดนีเซีย เข้ามา ทำให้ความเข้มข้นรายการนี้ปีนี้จะไม่ต่างจากปีที่แล้ว แน่นอนว่าหนนี้เราเล่นในบ้านเรา จะมีแรงกดดันทั้งบวกและลบ อยู่นั่นก็ที่เราด้วยที่จะทำให้เป็นบวกหรือลบในแรงกดดันนั้น
ได้ยินมาว่าคุณเล่นมาตั้งแต่ครั้งแรกเลยสำหรับการแข่งขันครั้งนี้ ลองบอกความแตกต่างในแต่ละครั้งให้ฟังหน่อย?
จริงๆ แล้ว มันมีความแตกต่างทุกปี ปีแรกจะยากเรื่องกับน้องๆ ในทีมหลายคนที่ไม่เคยผ่าแมตช์นานาชาติ ตอนนั้นการท่าเรือ ฟุตซอล คลับ จะมีนักเตะทีมชาติประมาณไม่เกิน 3 คน ดูแล้วศักยภาพทีมไม่เพียงพอ เราจึงไปยืมตัว อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ กับ เจษฎา ชูเดช จาก พีทีที บลูเวฟ ชลบุรี และ ราชนาวี มาช่วย เลยทำให้เราประสบความสำเร็จในครั้งแรกเนื่องจากมีตัวมีประสบการณ์มาช่วย ต่อมาครั้งที่ 2 ก็มีความยากไปอีกแบบ เพราะไปเล่นในต่างประเทศ ซึ่งจะมีเรื่องของกรรมการ, ฝ่ายจัดการแข่งขัน, สภาพสนาม รวมถึงองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่เราต้องไปเจอ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องไปสู้ และปีนั้นมีทีม ไทสันนัม จากเวียดนาม อันดับ 3 เอเชียเขามา ยกแข้งทีมชาติมาทั้งชุดบวกกับนักเตะสเปนเป็นตัวคีย์แมนคุมจังหวะเกม ดีกรีไม่ธรรมดา และยังมีกัปตันทีมอุซเบกิสถาน มาช่วยอีก ทั้งยังมีตัวต่างชาติที่มีศักยภาพ 2 คน ผนวกกับโค้ชทีมชาติเวียดนามมาคุม คือ อูโน หากมองตามเนื้อผ้าเราเป็นรอง แต่เมื่อเจอกัน 2 นัด เราชนะได้หมด และได้แชมป์กลับมา ทั้งๆ ที่ปีที่แล้วไม่ได้ยืมตัวใครมาเลย เราใช้นักเตะในลีกของการท่าเรือ ฟุตซอล คลับ ไปเล่นล้วนๆ ซึ่งเป็นเรื่องยากอีกแบบในปีที่แล้ว ส่วนปีนี้ก็น่าจะเป็นอีกปีที่ยากอย่างแน่นอน แต่เราจะทำให้เต็มที่เหมือนเดิม
สภาพร่างกายตอนนี้เป็นอย่างไร?
จริงๆ แล้วสภาพร่างกายของผมดีขึ้นกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เพราะช่วงนั้นเรามีอาการบาดเจ็บหนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ฟื้นฟูมาเรื่อยๆ จนทำให้ภาพรวมในปีนี้ก็ดีตามไปด้วย เราได้ลงเล่นเยอะขึ้น แต่มันก็จะมีบ้างบางช่วงที่เล่นเกมหนักๆ แต่มันก็เป็นเรื่องส่วนหนึ่งของอาชีพนี้ที่ต้องรับมือกันมัน แน่นอนว่าผมเต็มที่เสมอเมื่อได้ลงสนามช่วยทีม
ดีกรีแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันมันสร้างความกดดันตัวเองและทีมหรือเปล่า?
เกมระดับนี้มีความกดดันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราจะทำให้มันเป็นแรงกดดันเชิงบวกหรือลบ คนที่มีประสบการณ์แล้วอย่างผมอาจจะไม่เท่าไหร แต่น้องๆ บางคนที่ไม่เคยเล่นทีมชาติหรือลงเล่นระดับนานาชาติมาก่อนอาจจะมีแรงกดดันบ้างในส่วนนี้ แต่ผมเชื่อว่าเรามีทีมเวิร์กที่ดีและการเล่นในทีมจะช่วยเหลือเขาและผ่านไปได้ ซึ่งน้องๆ จะโตขึ้นกับการเล่นในอีกระดับหนึ่งในวงการฟุตซอลเพราะได้ผ่านประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แม้ท้ายที่สุดแล้วทีมของเราจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม
การเจอคู่แข่งอาเซียนกับในเกมลีก อะไรคือความแตกต่าง?
จริงๆ แล้วเราเป็นลีกชั้นนำของเอเชีย ถ้าถามว่ามีความแตกต่างในเรื่องอะไรนะเหรอ? อย่างแรกเลยก็คงเป็นเรื่องของบรรยากาศ ต่อมาก็ผู้เล่นที่ไม่เราเคยเจอมาก่อน แต่เรื่องการเล่นบางครั้งบางเกม ในลีกเราดีกว่าด้วยซ้ำ อย่างที่เข้าร่วมจะมี 8-10 ทีม ทีมที่เราเล่นแล้วค่อนข้างเหนือกว่ามีไม่ต่ำกว่า 5-6 ทีม แต่เหนือกว่าแล้วไม่ใช่ว่าเราลงเล่นด้วยความประมาท เราต้องลงไปเล่นด้วยรายละเอียดรอบคอบแล้วถึงจะผ่านไปได้ เพราะมองว่าลีกเรามีคุณภาพมากกว่าหลายๆ ทีมที่ส่งเข้าร่วมแข่งขัน แต่ปัญหาคือเค้าไม่ใช่นักเตะที่อยู่ในลีกเรา เราไม่รู้สไตล์การเล่นเขา อันนี้เราต้องไปศึกษาว่าเค้าเล่นสไตล์ไหน และเราจะต้องเล่นกับเขาอย่างไร ถ้าเราเล่นตามรูปแบบของเราได้ ศึกษาคู่แข่งออกว่าเขาเล่นแบบไหน จากเกมที่ยากจะเป็นเกมที่ง่าย แต่ถ้าเรารู้การเล่นเขาแล้ว แต่เราประสาทหรือมีข้อผิดพลาดเอง มันก็จะเป็นเกมที่ยากอย่างไม่ต้องสงสัย ฉะนั้นมันบอกตอนนี้ไม่ได้ว่าจะยากหรือง่าย มันต้องดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเกมวันนั้นด้วย แต่มุมมองความเป็นจริง ตามเนื้อผ้า เราค่อนข้างเป็นต่อ แต่อาจมีบางทีมที่สูสีกับเราก็มีบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา
สุดท้ายมีอะไรอยากฝากถึงกองเชียร์การท่าเรือฯ และแฟนฟุตซอลทีมชาติไทย?
กองเชียร์ของทีมเราก็หนาแน่นอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากเชิญชวนอีกครั้งให้ไปร่วมเชียร์ เพราะเราไม่ได้เล่นในนามสโมสรอย่างเดียว เราเล่นในนามทีมชาติไทยด้วย เพราะเราติดชื่อหลังไปก็เป็นทีมจากของประเทศไทย เราก็เหมือนตัวแทนของประเทศ เป็นสมาชิกในลีก เราจะไปโชว์ให้เขาดูว่าลีกของเรามีความแข็งแกร่งหรือพัฒนาแค่ไหน เพราะฉะนั้นอยากให้แฟนคลับการท่าเรือมาเชียร์อยู่แล้ว และก็อยากให้แฟนคลับทีมอื่นในลีกมาช่วยกันเชียร์ หรือแม้แต่แฟนทีมชาติถ้าว่างก็มาช่วยเชียร์พวกเรากันได้ เพราะว่าเราทำในนามทีมชาติ ตัวแทนจากลีกในประเทศไทย เพื่อไปแสดงศักยภาพให้เขาเห็นว่าลีกเรามีคุณภาพแค่ไหน ผู้เล่นในลีกเรามีคุณภาพมากน้อยแค่ไหน พวกเราจะไปโชว์ให้เขาเห็น เพราะฉะนั้นพวกเราต้องการกำลังใจจากพวกคุณทุกคน