ไทยรัฐออนไลน์
เปิดเบื้องลึก "บิ๊กปลาย" จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน "วัน แชมเปียนชิพ" ประจำประเทศไทย ว่าการแพร่ระบาดของ "โควิด-19" ส่งผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
ท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อ "โควิด-19" หรือไวรัสโคโรนา ที่กำลังสร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลก ลามมาสู่ความเสียหายต่อวงการกีฬาซึ่งรวมถึง วัน แชมเปียนชิพ (ONE Championship) ศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียก็โดนผลกระทบเช่นเดียวกัน ท่ามกลางวิกฤตการณ์แบบนี้ "บิ๊กปลาย" จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน "วัน แชมเปียนชิพ" ประจำประเทศไทย มีวิธีคิดและปรับตัวให้เข้ากับปัญหานี้อย่างไร และนักสู้ในสังกัดได้รับการดูแลแค่ไหน ไปติดตามคำตอบพร้อมๆ กัน

"วัน แชมเปียนชิพ" ได้รับผลกระทบด้านไหนบ้างในช่วงของการแพร่ระบาด "โควิด-19"
ผลกระทบของ "โควิด-19" กับวงการกีฬาแล้วก็สปอร์ตเนี่ย มีมหาศาลไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็ก หรือ องค์กรใหญ่ วันแชมเปียนชิพ มีผลกระทบแน่ๆ เพราะว่าสายอาชีพหลักของเรา อย่างอีเวนต์ วัน แชมเปียนชิพ มีการจัดสคริปต์ที่ใหญ่ มีการถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก เราก็ต้องหยุดการจัดการแข่งขันเพื่อประเมินสถานการณ์หลายๆ อย่างก่อน ว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่กระทบกับเราอย่างมาก แทบจะต้องเหมือนกับว่าทำงานและก็วิเคราะห์ดูแผนงานแทบจะเรียกว่าเป็นรายวันเลย เพื่อที่จะศึกษามอนิเตอร์ตลอดเวลา ว่าสถานการณ์ประเทศแต่ละประเทศเป็นยังไงบ้าง เพราะว่า วัน แชมเปียนชิพ ชาเลนจ์ของเราอย่างหนึ่งคือมันเป็นสเตนท์และก็ชาเลนจ์ในเวลาเดียวกัน เครือข่ายมันมีทั่วโลก นักกีฬามีหลายร้อยชีวิตที่พึ่งเซ็นสัญญากับเรา
การจัดอีเวนต์แต่ละครั้งของเราเนี่ย มีนักกีฬาจากหลายประเทศที่จำเป็นจะต้องเดินทางมาสู่เมืองเมืองหนึ่งเพื่อจัดการแข่งขัน พอเกิด "โควิด-19" แต่ละประเทศมาตรการการควบคุมการเข้าออกคนก็เป็นชาเลนจ์นึง เรื่องของการขอวีซ่าก็ยากขึ้น เรื่องของมาตรการที่ประชาชนประเทศไหนสามารถบินเข้ามาได้บ้าง อันนี้มันทำให้การจัดการทุกอย่างมันยากขึ้น เราเองก็จะไม่จัดอีเวนต์จนกว่าเราสามารถให้ความปลอดภัยกับนักกีฬา ทีมงาน เหล่าแฟนๆ คนดูได้อย่างชนิดที่ว่าร้อยเปอร์เซ็นต์
แน่นอนว่าเราจะไม่เอาพนักงาน นักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพเข้าไปเสี่ยง เพียงเพื่อแค่ให้มีเหมือนกับคอนเทนต์ถ่ายทอดสดมา อันนี้เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แล้วก็ทำให้เราทำงานช่วงนี้เราจึงได้หยุดการทำคอนเทนต์ที่เป็นการถ่ายทอดสด เราก็มุ่งไปในเชิงของการที่ว่าใช้ศักยภาพแล้วก็พลัง ความสร้างสรรค์ของทีม วัน แชมเปียนชิพ ในการที่จะครีเอตคอนเทนต์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวคอนเทนต์ย้อนหลังหรือตัวฟุตเทจ หรือไอทีที่เราเคยมีอยู่แล้วเนี่ย เอามาปรุงแต่งให้มันกลายเป็นคอนเทนต์ใหม่
ผมว่าเราถือว่าโชคดีอย่างหนึ่งที่ว่า วัน แชมเปียนชิพ เราไม่ได้เป็นแค่ สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทางด้านของกีฬาการต่อสู้ แต่เรายังมีคอนเทนต์อื่น เช่นตัว อี-สปอร์ต ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบเท่ากับตัว ไลฟ์ สปอร์ต มากนัก หรือเรามี คอนเทนต์ ที่เป็น ไลฟ์สไตล์ กับ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่ทำให้วันแชมเปียนชิพเนี่ยเรามีกระจายความเสี่ยงและกระจายสินทรัพย์ไปในหลายช่องทาง เมื่อพอมันเกิดวิกฤตกับอุตสาหกรรมที่มันส่งผลกับตัวโปรดักส์หลักของเรา เราก็ยังพอมีเส้นทางในการที่จะสร้างคอนเทนต์อื่นๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นกับ พาร์ทเนอร์ กับ สปอนเซอร์กับเครือข่ายที่รู้จัก เพื่อสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ สร้างกิจกรรมในการตลาด สร้างกิจกรรมเพื่อให้มันยังเกิด มาร์เก็ตติ้ง คอนเทนต์ต่างๆ กับแบรนด์ วัน แชมเปียนชิพได้อย่างไม่หยุดนิ่ง เราไม่จำเป็นต้องเป็นอัมพาตในสถานการณ์ที่มันเกิด "โควิด-19" แน่นอนว่ามีเอฟเฟกต์กับเรามาก

สถานการณ์ช่วงนี้นักกีฬาเองก็ต้องได้รับผลกระทบด้วยในเรื่องของการไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการขึ้นเวที ในส่วนนี้ทาง วัน แชมเปียนชิพ มีการดูแลนักกีฬาอย่างไรบ้าง
วัน แชมเปียนชิพ มีนักกีฬาหลายคนก็พึ่งพาเราอยู่ แล้วก็ตอนนี้นักกีฬาแค่ในเครือของวันที่เป็นนักกีฬาในสังกัดที่เราดูแลเป็นพิเศษ ตรงนี้เราก็ไม่ได้ทำอะไรให้มันไปกระทบกับสิ่งที่เขาได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรายได้ประจำที่เขาได้ส่วนหนึ่งจากทางเราด้วย เราก็ยังมีทีมในการทำงานที่ยังแสวงหาโอกาส ในการที่ให้นักกีฬาในสังกัดของเรายังมีโอกาสที่จะสามารถทำอะไรร่วมกับ พาร์ทเนอร์ หรือ สปอนเซอร์ ได้ เราก็มีแนวทางในการที่นำเอานักกีฬาต่างๆ มาสร้าง คอนเทนต์ เขาไม่ได้อยู่นิ่งเงียบ แล้วก็ไม่มีรายได้ เรายังพยายามดูแลเขา ไม่ว่าจะเป็นในมิติของการมองหาช่องทางให้เขา แล้วก็ในเชิงของการทำการตลาดการโปรโมตเขา ตอนนี้นักกีฬาหลายคนเราก็มีการสร้าง คอนเทนต์ ที่เป็น เอ็กซ์คลูซีฟ คอนเทนต์ ร่วมกับพวกเขา
เราไม่ได้มองเขาเป็นแค่นักกีฬานักสู้บนสังเวียนเพียงอย่างเดียว แต่ว่าสำหรับนักกีฬาหลายคนของวัน แชมเปียนส์ชิพ เราพยายามสร้างเขาให้เป็นคือแบรนด์อย่างหนึ่ง เขาคือคนสามารถหาเงินนอกสังเวียนได้ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการที่อาจจะมีการหารายได้จากสปอนเซอร์โดยตรงของเขา หรือการที่ว่าเขาอาจจะสามารถพัฒนาตัวเองกลายเป็น วิดีโอ บล็อกเกอร์ หรือ ยูทูบเบอร์ เพื่อทำให้เขามีสินทรัพย์ดิจิทัลบางอย่าง ให้เขาสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ มันอาจจะไม่ได้สามารถทดแทนสิ่งที่เขาสูญเสียไปได้ทั้งหมดจากโอกาสของการต่อสู้ ซึ่งมันคือรายได้หลักของเขา แต่อย่างน้อย เขายังสามารถที่จะมีวิธีการที่กระจายความเสี่ยง หรือลดความเสียหายของสิ่งที่เกิดขึ้นจากผลวิกฤติตรงนี้ได้ ซึ่งทาง วัน แชมเปียนชิพ เราจะพยายามให้มายเซ็ตนี้กับนักกีฬาของเราทุกๆ คนที่อยู่ในสังกัด

ตอนนี้เองทาง วัน แชมเปียนชิพ ก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน ในเรื่องของการนำเสนอต่างๆ แผนงานหลังจากนี้ต่อไปจะเป็นยังไงบ้าง แล้วในอนาคตอันใกล้จะมีความพิเศษอะไรเกิดขึ้นให้แฟนๆ ได้หายคิดถึง
ในทุกๆ ช่วงวิกฤติเราประเมินว่ามันแทบจะเป็นวิกฤติในรอบที่มนุษย์ไม่เคยเจอมาก่อนกับรอบศตวรรษหนึ่งที่ผ่านมา เราคาดการณ์ว่ามันอาจจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มันคงไม่ใช่แบบ 3 เดือน หรือ 6 เดือน แต่มันอาจจะเป็นเหมือนกับปีขึ้นไปหรือหลายปีขึ้นไป แน่นอนครับในทุกวิกฤติเราก็มองเหมือนกันว่ามันคือโอกาส เพราะสิ่งที่ผมคาดการณ์ว่าจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ คือหนึ่ง มาตราฐานที่จะต้องสูงขึ้นในเรื่องของการจัดการด้านโลจิสติกส์, อีเวนต์ ในเรื่องของไอที ความสะอาด เรื่องของมาตราการการป้องกันการแพทย์, โรคระบาด ให้มันกลายเป็นเรื่องปกติของผู้จัดการกีฬา วัน แชมเปียนชิพ เรามีทีมที่ลงในเรื่องของการพัฒนาในระดับที่เรียกได้ว่าอยู่ในมาตราฐานที่สูงมากๆ ในระดับโลก
แน่นอนคุณจะเห็น วัน แชมเปียนชิพ ที่จะกลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม ปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม อยู่ในมาตราฐานที่สูงมากสำหรับวงการกีฬา ไม่ว่าจะเป็นวงการของ อีสปอร์ต กีฬาการต่อสู้ หรือโปรเจกต์อื่นๆ ตรงนี้มันจะเป็น นิว สแตนดาร์ด ที่เราจะนำเสนอ และแน่นอนครับในวิกฤตินี้ จริงๆ แล้วเป็นวิกฤติที่หนักหนาสาหัส แต่ว่าในทีมผู้บริหารของเรา ไม่ว่าจะเป็นของในประเทศไทยเอง เราจะมีมายเซ็ตในมุมที่ว่าเราเชื่อว่าอันนี้เราจะพัฒนาตัวเองเติบโตขึ้นมากมายิ่งขึ้น เราจะเห็นโมเดลใหม่ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้จากวิกฤติตรงนี้
วัน แชมเปียนชิพ มีความโชคดีอย่างมากอีกอย่างหนึ่งคือ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเนี่ยเราไม่ได้มองตัวเราเองเป็นเพียงแค่ผู้ประกอบการทางด้านการจัดกีฬาและบอร์ดแคสต์ แต่เรามองตัวเราเองว่าเป็นบริษัทที่มีสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาลมาก เพราะฉะนั้นในเชิงของต้นทุนของเรา เราไม่ต้องแบกรับต้นทุนสูงมากหรือใหญ่โต อย่างเช่น สายการบิน อันนี้เขาโดนหนัก วัน แชมเปียนชิพ เราเป็นอะไรที่สามารถนำพาตัวเองไปสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจคอนเทนต์ เราไม่ได้เป็น คอนเทนต์ มวยที่แค่ดึงดูดกับกลุ่มเพียงเดียว แต่เรามีกลยุทธ์ของการสร้างคอนเทนต์หลากหลายที่ผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้เรามีทั้งศิลปะการต่อสู้ เรามีทั้ง อีสปอร์ต เรามีทั้งรายการ เอนเตอร์เทนเมนต์เรียลลิตี้ ฯลฯ
แน่นอนในช่วงเศรษฐกิจที่มันอาจจะไม่ได้เอื้ออำนวยหลายๆ อย่าง แต่เรายังมีแพลต์ฟอร์มของเรารองรับ เรามีช่องทางธุรกิจ เรามีตัววัดแพลต์ฟอร์มที่มีทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ที่สามารถมีโอกาสในเชิงของทางมาร์เก็ตติ้ง หรือทางธุรกิจที่มันจะทำให้เราฝ่าวิกฤติตรงนี้ไปได้ และก็อีกส่วนหนึ่ง แน่นอนครับว่าเราคาดการณ์เห็นได้ว่าโปรดักของเราจะมีหลากหลายขึ้น เราจะได้เห็นโปรดักของ วัน แชมเปียนชิพ ที่เป็นในรูปแบบของคอนเทนต์กีฬาที่ไลฟ์มากยิ่งขึ้นในประเทศต่างๆ
เรามีการคุยอย่างใกล้ชิดกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ในเรื่องของการที่เราจะพัฒนาตัวลีกมวยไทยของคนท้องถิ่นจริงๆ ในภายใต้โปรเจกต์ "วัน ฮีโร่ ซีรีส์" ถึงแม้ว่าจะยังมี "โควิด-19" อยู่แต่เราก็ยังมุ่งที่จะพัฒนาโปรเจกต์ตรงนี้เพื่อให้พร้อมสำหรับช่วงเวลาที่มันเหมาะสม เมื่อระดับความปลอดภัยต่างๆ มันกับมาสู่ปกติแล้ว เราอาจจะได้เห็น ไลฟ์ อีเวนต์ ของ วัน แชมเปียนชิพ ที่มันจะเกิดขึ้นใน สเกล สตูดิโอ ที่สามารถทำคอนเทนต์ได้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงมาตรฐานไม่ให้ต่ำลงกว่าเดิมด้วย เราจึงมั่นใจว่าเราจะผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้ และกลับมาเฉิดฉาย และก็แข็งแรงยิ่งกว่าเดิมของตัววิกฤติธุรกิจตรงนี้ครับ

แล้วช่วงนี้มีการพูดคุยกับนักมวยรวมถึงกำหนดมาตรการดูแลตัวเองยังไงบ้าง
ก็ในมุมของสิ่งที่เราก็พยายามสื่อสารกับนักมวยหรือว่าศิลปินหรือที่อยู่ในเครือสังกัดนี่ แน่นอนครับมันกลับไปสู่ที่เราพยายามฝังอยู่ในมายเช็ตของเขาตั้งแต่เริ่มต้นที่เขาก้าวเข้ามาสู่ วัน แชมเปียนชิพ ว่าคุณไม่ใช่แค่นักสู้ เราไม่ได้มองคุณเหมือนแค่กับสุนัขล่าเนื้อ แค่รอโอกาสจากเราจะให้ ไฟต์ การ์ด หรือ อีเวนต์ กับเขาเมื่อไรเท่านั้น แต่เขาจะต้องมีวิธีในการจัดการบริหารความเสี่ยงในชื่อเสียงของตัวเองด้วย จะต้องมีช่องทางรายได้ที่มากกว่าหนึ่งช่องทาง
ทั้งนี้ นักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาชาวไทยหรือนักกีฬาชาวต่างชาติ หลายคนค่อนข้างเข้าใจเรื่องนี้ หลายคนอาจจะมาจากของเส้นทางของนักมวยเงินแสนหรือนักมวยเงินล้านมาก่อน ที่ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของการควบคุมเรื่องการใช้จ่าย เขารู้ว่าเขามีการที่จะบริหารความเสี่ยงตรงนี้อย่างไรพอเขาเข้าสู่ วัน แชมเปียนชิพ นอกเหนือจากรายได้ที่เขามีมันเพิ่มขึ้นด้วย นักกีฬาบางคนมีรายได้ที่สม่ำเสมอมั่นคง เขายังมีวิธีที่จะบริหารเรื่องของการเงินตรงนี้ได้ดีกว่าหลายๆ องค์กรที่เขาอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับนักกีฬา เราพยายามจะให้นักกีฬาของเราต่อให้คุณไม่มีไฟต์บนสังเวียน หรืออะไรก็ตามให้พยายามทำ คอนเทนต์ สื่อสารกับแฟนเพจของคุณ ถ้าคุณไม่ได้มีศักยภาพในการที่จะทำโปรดักส์ บางทีในประเทศของเราก็จะมีทีมที่เข้าไปช่วยทำคอนเทนต์ให้กับเขา
อย่างล่าสุดอาจจะพอได้เห็นมีการให้นักกีฬามาทำในเรื่องของ โฮม เวิร์คเอาต์ ที่ทำเรื่องของส่งกำลังใจให้กับผู้ที่ต่อสู้ในสถานการณ์ "โควิด-19" นักกีฬาหรือว่าผู้บริหารเราหลายคนก็เข้าไปคลุกคลีกับกิจกรรมในเชิงสังคม เช่น ออกไปบริจาค, ออกไปทำอุทิศเวลาอุทิศเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกยากลำบาก เรามีนักกีฬาหลายคนที่ร่วมมือกันในการที่ทำคอนเทนต์ ที่จะเอ็นเตอร์เทนคนทางบ้าน ผมว่าช่วงนี้แน่นอนว่ามันเป็นวิกฤติสำหรับนักกีฬาที่ว่าเขาอาจจะไม่มีไฟต์บนสังเวียน แต่ในขณะเดียวกันคนดูในโซเชียลมีเดีย นี่คือโอกาสที่เขาจะเติบโตจากฐานแฟนเพจของเขา นักกีฬาคนไหนที่พร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในตอนนี้ มันเป็นโอกาสที่เขาจะสร้างฐานแฟนเพจให้เยอะขึ้นซึ่งยิ่งเยอะขึ้นมันก็นำมาซึ่งรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น

ฝากถึงในอนาคตที่ วัน แชมเปียนชิพ จะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเดิม ฝากให้แฟนๆ ได้ติดตามกันต่อไป
ผมอยากจะฝากและก็ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนของ วันแชมเปียนชิพ ด้วยนะครับ ที่ยังติดตามรายการและคอนเทนต์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นรายการช่องไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.thairath.co.th/sport หรือสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ และทุกคนที่ยังเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬานักสู้ของเราหลายๆ คนนะครับ วัน แชมเปียนชิพ ของเราจะไม่หยุดที่จะนำเสนอคอยเทนต์คุณภาพที่จะมีทั้งเรื่องของกีฬาการต่อสู้ เรื่องของ อี-สปอร์ต เรื่องของ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เรียลลิตี้ ที่เราจะมอบความสนุกความบันเทิง แรงบันดาลใจ ให้กับทุกๆ คนในช่วงเวลาที่ทุกคนอาจจะไม่สามารถออกจากบ้านได้เยอะ แล้วก็อยากให้อดใจรออีกนิดหนึ่ง เพราะว่าตอนนี้ทีมของเราในหลายๆ ประเทศ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย กำลังทำงานอย่างหนักมากเพื่อที่จะนำเอา วัน แชมเปียนชิพ ในรูปแบบที่ดียิ่งขึ้น สนุกยิ่งขึ้น หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์ที่จะมีกลิ่นอายความเป็นสปอร์ตที่จะพลิกรูปแบบของวงการ จากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลย นี่เป็นหนึ่งในรายการที่ผมอยากจะขอฝาก จะมีผู้เข้าแข่งขันจากหลายหลายประเทศ มีทั้งซุปเปอร์สตาร์ของ วัน แชมเปียนชิพ ด้วยและก็จะมี คุณชาตรี สิบยอดธง ที่เป็นซีอีโอของ วันแชมเปียนชิพ เป็นโค้ชหลักของรายการ เป็นครั้งแรกที่จะมีคนไทยได้เป็นโค้ชของรายการที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ ซึ่งแน่นอนครับเราจะมีกิจกรรมคอนเทนต์ต่างๆ มากมายที่เราจะคอยพัฒนาให้กับคนดู ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่อยู่ในวิกฤติ “โควิด-19” และก็หลังจากวิกฤตนี้สิ้นสุด เตรียมพบกับโปรเจกต์ที่จะเป็นการแข่งขันแบบท้องถิ่น รายการการแข่งขันระดับโลกคอนเทนต์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ ออน ทีวี ที่มีทั้ง อี-สปอร์ต และ เจนเนอร์รัล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เรียลลิตี้ มากมายผ่านเครือข่ายต่างๆ และก็แพลตฟอร์มต่างๆ ของ วัน แชมป์เปียนชิพ ยังไงก็ฝากทุกคน อย่าพึ่งไปไหน และก็ขอบคุณทุกคนอย่างมากที่ติดตาม วัน แชมป์เปียนชิพ มาโดยตลอด