หน้าแรกแกลเลอรี่

"บิ๊กอ๊อด" ชี้ศูนย์ฝึกฟุตบอล คือจุดตัดสินอนาคตนายกส.บอล

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

1 ส.ค. 2562 16:15 น.

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เปิดใจ จุดตัดสินใจจะยังอยากเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต่อหรือไม่ อยู่ที่การสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ที่ต้องระดมเงินเพิ่มเติมอีก 300-400 ล้านบาท ซึ่งจะระดมนักธุรกิจเข้ามาร่วมสนับสนุน ถ้าอยู่ต่อต้องทำให้สำเร็จเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชีวิต และจะเป็นรากฐานของฟุตบอลไทยในอนาคต ยกความสำเร็จของทีมชาติเป็นผลผลิต ที่กำลังวางรากฐานในวันนี้ ไม่เห็นผลเร็วต้องใช้เวลาอาจจะ 4-5 ปี พร้อมเคียงข้าง “นิชิโนะ” แม้ผลงานช่วงแรกอาจจะไม่ดี ก็ขอให้รอผลสัมฤทธิ์ในท้ายที่สุด เวลาน้อยไม่ใช่ข้ออ้าง “นิชิโนะ” รู้ดี น้อมรับเสียงวิจารณ์ของแฟนบอล รับเรื่องผู้ตัดสินหนักใจ ยังทำไม่ได้ดั่งใจ เพียงให้โอกาสเพื่อสร้างประสบการณ์ หวังว่าวันข้างหน้าจะดีขึ้น

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า การทำงานของตนในช่วงที่ผ่านมานั้น ตนได้เน้นในเรื่องของการวางรากฐานให้กับฟุตบอลไทย หลายเรื่องทำไปแล้วแต่ยังไม่เห็นผลในช่วง 2-3 ปี ด้วยเป็นการหวังผลเลิศในวันข้างหน้า เปรียบเหมือนปลูกบ้านใหม่ย่อมต้องตอกเสาเข็มก่อนสร้างบ้าน ลมฝน พายุมา บ้านก็ไม่พังยังแข็งแรงยืนหยัดต่อไปได้ สิ่งที่ตนมุ่งมั่นและตั้งความหวังไว้อย่างมากก็คือ ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ซึ่งพยายามหาที่ดินมาหลายแห่งก่อนจะมาได้ที่มวกเหล็ก โดยร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย

“บิ๊กอ๊อด” กล่าวต่อว่า ศูนย์ฝึกแห่งนี้ได้งบประมาณจากฟีฟ่ามาส่วนหนึ่งก็จริง แต่เทียบแล้วก็เพียงน้อยนิด เงินที่เอามาใช้นั้นไม่พอแน่นอน ต้องหาอีกราวๆ 300-400 ล้านบาท ในส่วนตัวแล้วอยากจะทำให้สำเร็จเพื่อเป็นอนุสรณ์ในชีวิตหนึ่งที่ได้เข้ามาทำงานฟุตบอล ศูนย์ฝึกแห่งนี้จะมีทั้งอาคารสำนักงาน ที่พักขนาด 60-100 ห้อง รวมทั้งส่วนของสนาม อุปกรณ์การฝึกซ้อมที่ทันสมัย ตอนนี้ก็ได้มีการพูดคุยกับนักธุรกิจ บริษัทใหญ่ๆที่มีศักยภาพ ซึ่งก็มีหลายคนอยากจะเข้ามาสนับสนุน ในส่วนนี้ก็ต้องมีความโปร่งใส ไม่ใช่แค่บริจาค แต่จะให้เข้ามาร่วมทำงานด้วยกัน ใครอยากเข้ามาสร้างเอง ค่าใช้จ่ายถูกกว่าก็ดำเนินการได้ ไม่ต้องผ่านเงินให้สมาคมก็ได้รับไปดำเนินการได้เลย แต่ต้องอยู่ในกรอบของแบบที่สมาคมเป็นผู้กำหนด ตอนนี้กำลังหาบริษัทที่ปรึกษา สำรวจออกแบบกันอยู่

ต่อข้อถามถึงความต้องการอยากจะทำงานในตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯต่อไปหรือไม่ หลังจะครบวาระในปีหน้า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็กำลังคิดอยู่ จุดตัดสินใจอยู่ที่การทำศูนย์ฝึกให้เรียบร้อย เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับนักธุรกิจที่อยากเข้ามาสนับสนุนโครงการนี้ ก็มีความเป็นห่วง หากตนไม่อยู่ มีคนใหม่เข้ามาก็เกิดความไม่แน่ใจว่าศูนย์ฝึกยังจะดำเนินการต่อหรือไม่ สิ่งนี้สำคัญ หากตนยังเป็นนายกสมาคมฯอยู่ก็จะทุ่มตรงนี้เป็นหลัก ส่วนงานด้านอื่นๆก็จะค่อยๆลดบทบาทลง มอบหมายให้คนอื่นทำ

กับผลสำเร็จในทีมชาติ “บิ๊กอ๊อด” กล่าวว่า ทีมชาติคือดอกผล เป็นผลผลิตของต้นไม้ที่เราปลูก ซึ่งตนเข้ามาสร้างสิ่งเหล่านี้ อย่างที่บอกต้องใช้เวลา อาจจะ 4-5 ปี ถึงจะเห็นผล เข้าใจดีถึงความคาดหวังของแฟนบอล และน้อมรับเสียงวิจารณ์ การเข้ามาของ อากิระ นิชิโนะ นั้น มีการพูดคุยมานาน และเขาก็เข้าใจดี เวลาที่มีอยู่ก่อนจะลงเตะฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เป็นเรื่องที่เขารับรู้มาตลอด ไม่อยากบอกว่าน้อยหรือไม่ แต่รับรู้กันอยู่แล้ว เวลาไม่ใช่ข้ออ้าง นัดแรก สองนัดแรก ผลจะออกมาอย่างไร ก็พร้อมให้โอกาสและสนับสนุน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องวางแผนใช้ยุทธวิธีอย่างไร ผลแต่ละนัดก็ส่วนหนึ่ง แต่รอดูผลสัมฤทธิ์ในท้ายที่สุด อันนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ

นายกลูกหนังไทยยังกล่าวด้วยว่า ตนพยายามปรับปรุงมาหลายอย่าง ต้องทำเพื่อวันข้างหน้า ไม่ได้คิดเองเออเอง แต่เอาตัวอย่างความสำเร็จของที่อื่นมาปรับใช้ อย่างการลดเหลือ 16 ทีมในไทยลีก ตอนแรกก็มีเสียงไม่เห็นด้วย ตอนนี้สนุกขึ้น แต่ละทีมมีผลกันทั้งสิ้น พลาดไม่ได้ ทั้งทีมหัวตารางท้ายตาราง ไม่มีซูเอี๋ย คนดูมากขึ้น ติดตามกันเยอะ แต่สิ่งที่ยังทำไม่ได้ดั่งใจคือ ผู้ตัดสิน สร้างกันไม่ได้โดยเร็ว ด้วยประสบการณ์สร้างไม่ได้ ต้องให้โอกาส พอให้โอกาส การตัดสินใจในสภาวะที่กดดัน ผู้ตัดสินจากลีก 2 ขึ้นมาลีก 1 ก็เจอบรรยากาศแตกต่าง ทำให้โอกาสผิดพลาดมีมากขึ้น ตรงนี้ก็ต้องอดทน ประสบการณ์เกิดจากการเรียนรู้ ก็น้อมรับถึงความไม่พอใจของแฟนฟุตบอลในบางเกม แต่ก็เชื่อว่าวันข้างหน้าจะดีขึ้น.