มันจ้าซะเหลือเกิน

หลังจากรอลุ้นกันมานาน ในที่สุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทีมชาติไทยก็ได้รับข่าวดีสักที เมื่อ อากิระ นิชิโนะ ถูกแต่งตั้งเข้ามาคุมทีมอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางความดีใจของแฟนบอล

ตอนแรกดูเหมือนว่าจะแน่แล้ว แต่กลับมีความไม่แน่นอนให้แฟนบอลหวั่นใจอยู่พักใหญ่ ยิ่งใกล้วันจับติ้วแบ่งสายคัดบอลโลก พี่แกยังใจเย็นไม่ยอมจรดปากกาเซ็นสักที

แม้จะตกปากรับคำกันไปแล้วก็เถอะ แต่การแถลงข่าวอย่างเป็นทางการยังไม่เกิดขึ้น ก็ยังไม่มีใครอุ่นใจได้ว่า อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่นชุดฟุตบอลโลก 2018 จะมาจริงหรือเปล่า ภาษาแถวบ้านเรียกว่า กลัวจะ “คดีพลิก” 

แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุด อากิระ นิชิโนะ ก็ได้เป็นกุนซือช้างศึกคนใหม่สมใจแฟนบอล โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้

ส่วนการแถลงข่าวที่เมืองไทยนั้น คงต้องรอให้ทุกอย่างลงตัวก่อน จึงจะมีการยืนยันวันและเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง จากทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

อีกหนึ่งวาระที่แฟนบอลทั้งเอเชียรอคอย คือการจับสลากแบ่งสายคัดบอลโลก 2022 โซนเอเชีย รอบ 2 ซึ่ง 40 ทีมจะต้องห้ำหั่นกันแบบสุดตัว เพื่อคว้าตั๋ว 12 ใบเข้าสู่รอบต่อไปให้ได้

ขณะที่ทีมชาติไทยในครั้งนี้ ดูตามหน้าเสื่อก็ไม่ยากนัก เพราะถ้าตัดยูเออีออกไป มันก็เหมือนชิงแชมป์อาเซียนแบบย่อม ๆ เพราะทั้ง ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ถูกจับมามัดรวมกันในกลุ่มเดียว

โดยส่วนตัวเชื่อว่า แม้ “ช้างศึก” จะเสียรังวัดไปไม่น้อย ที่แพ้แข้งสกุลเหงียนในคิงส์คัพครั้งล่าสุด แต่ถ้าฟูลทีมมาเจอกันอีกรอบ เวียดนามคงไม่ได้สามแต้มจากไทยง่ายๆ แน่

ช้าก่อน... อย่างคิดว่าผมขี้โม้ มั่นใจเกินเหตุ หรือประมาทเลย แต่ชั่วโมงนี้นอกจาก ยูเออี แล้ว ก็ยังเชื่อว่าไทยมีภาษีดีกว่าทุกทีมร่วมสายแน่

แม้แต่การไปเยือน อินโดนีเซีย กับ มาเลเซีย ที่มีแฟนบอลหนุนหลังยามเล่นในถิ่นเกือบแสนคน แต่ด้วยคุณภาพฝีเท้านักเตะ เราก็ยังเหลื่อมทีมเหล่านี้อยู่ไม่มากก็น้อย

ที่สำคัญโปรแกรม 8 นัดต่อจากนี้ ดูจะเข้าทางทีมชาติไทยซะเหลือเกิน ประเมินตามสายตาต้องมี 15-18 แต้มเป็นอย่างน้อย เพื่อลุ้นเข้ารอบ

ชั่วโมงนี้ต้องมั่นใจเข้าไว้ มั่นใจไม่ใช่เกิดจากความประมาท แต่มั่นใจเพราะเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย และเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง.

-LEMON JUICE-