บี บางปะกง
คืนความสุข...ให้กับคนไทยทั้งชาติได้ ยิ้มกว้างๆกันเสียที สำหรับพลพรรคช้างศึก ทีมลูกหนังชาติไทย
ที่กลับมาเก็บ 4 แต้มได้ตามเป้า ทะยานเข้ารอบศึก “เอเชียนคัพ 2019” ได้อย่างงดงาม หมดจด ไม่มีที่ติ
ใครเลยจะคิดว่าทีมที่ออกสตาร์ตอย่างเละเทะด้วยการแพ้อินเดียถึง 1-4

ในที่สุดจะกลับมาเรียก “สปิริต” ทีมกลับคืนมา จนสามารถคว้าชัยชนะเหนือบาห์เรน และมาเก็บอีก 1 แต้มจากเจ้าภาพได้สำเร็จอย่างเหลือเชื่อ!
การตีตั๋วสู่รอบ “น็อกเอาต์” ของทัวร์นาเมนต์ชิงเจ้าเอเชียได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ มันได้สร้างบรรยากาศของ “ฟุตบอลไทย” ที่ดูหดหู่ เหี่ยวเฉา เศร้าสร้อย กันมานานแรมปี
ให้กลับมาคึกคัก คักคึกกันอีกครั้ง!!
อย่างที่ผมเคยบอกไว้เสมอล่ะครับว่า ผลงานของ “ทีมชาติ” ก็เปรียบเหมือน “สินค้าหน้าโชว์รูม”
ถ้าผลงานดีมีคุณภาพเมื่อไหร่ ลูกค้าก็ย่อมแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสายเมื่อนั้น
ตรงข้ามกัน ถ้าทีมชาติตกต่ำ ดำดิ่ง ยิ่งแข่งยิ่งแพ้ ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้สักกะอย่าง ต่อให้ “บิลท์อิน” ข้างในร้านให้เลิศหรู ดูดี มีราคามากแค่ไหน
ก็ยังคงโดนเขาตาม “ยี้” อยู่วันยังค่ำ!
ก็เหมือนท่านประมุขลูกหนัง “บิ๊กอ๊อด” พล ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั่นแหละ ที่ผ่านมาโดนผู้คน “ถล่มด่า” ระบายอารมณ์จากทุกทิศทุกทาง จนแทบจะไปไม่เป็นอยู่แล้ว
ก็ด้วยเหตุจากความ “โหลยโท่ย” ของทีมบอลไทยแทบจะทุกชุดเป็นปัจจัยหลัก

ท่านจะบริหารงานดี สมาคมร่ำรวยอู้ฟู่ขึ้นกว่ายุคก่อน แบบไหน ยังไง คนเขาไม่สนใจหรอก
ขอเพียงให้เข้ามาแล้วบอล “ชนะ” ประสบความสำเร็จ มีผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้จริง แค่นี้ก็โอเคเป็นที่สุดแล้ว
ไม่เชื่อก็ลองถามคนที่ท่านอุตส่าห์แต่งตั้งให้มาช่วยเป็นที่ปรึกษาทีม อย่าง “บิ๊กก๊อง” วิรัช ชาญพานิชย์ ดูก็ได้ เขารู้ซึ้งถึงข้อนี้ดีที่สุด
ก็หวังว่าแต่นี้ไป กระแส “ไล่นายก” จะเบา บางลงบ้าง ไม่มากก็น้อย

เช่นเดียวกับอารมณ์ขุ่นมัวของแฟนบอลทั้งหลาย ที่น่าจะกลับมาสดชื่นรื่นอุราขึ้นอีกอักโข กับผลงานที่แข้งช้างศึกกำนัลให้ด้วยหัวใจทุ่มเทเกินร้อยแรงถีบของนักเตะทุกๆคน
รอบ 16 ทีมสุดท้าย ไม่ว่าเราต้องเจอ ทีมชาติจีน หรือ นักเตะพลังโสมเกาหลีใต้ (เลือกได้อยากเจอ “จีน” มากกว่า) ก็ไม่หวั่น!!
ผลงานจากนี้ไปทุกอย่างล้วนแต่เป็น “กำไร” ของทีมบอลไทยแบบเต็มๆแล้ว ไม่ต้องคิดอะไรกันมาก
เช่นเดียวกับเรื่อง “กุนซือ” คนใหม่ ที่จะเข้ามาทำทีมชาติแทนที่ “ลุงมิโล่” มิโลวาน ราเยวัช ที่โดนเด้งกลางอากาศก็เหมือนกัน
ถึงตอนนี้อยากจะบอก “ท่านสมยศ” ว่าไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันเยอะแล้วนะครับ

เพราะผลงานขัดตาทัพใน 2 นัดที่ผ่านมา ของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กับ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ ผู้ช่วยเบอร์ 1
มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว กับการยกตำแหน่ง “กุนซือถาวร” คุมทัพช้างศึกให้กับทั้งคู่โดยชอบธรรม
โดยเฉพาะ “โค้ชโต่ย” ซึ่งตอนนี้ปรากฏภาพข่าวแชร์ไปทั่วโลกแล้ว กับจังหวะที่เขาค้อม ตัวยกมือไหว้ขอบคุณ “อัลแบร์โต ซัคเคโรนี” ปรมาจารย์กุนซือคนดังของยูเออี ด้วยความเคารพ หลังเกมจบลง
แค่ช็อตนี้ ช็อตเดียว...“บารมี” เจ้าตัวบังเกิด... เลยครับท่าน!!!
บี บางปะกง