หน้าแรกแกลเลอรี่

เจาะ 13 ประเด็นต้องรู้! 'ช้างศึก' ปลุกศรัทธา ฟ้าประทานซิวแชมป์คิงส์คัพ

ไทยรัฐออนไลน์

17 ก.ค. 2560 08:00 น.

เจาะลึก 13 ประเด็นต้องรู้! เก็บตกควันหลงหลังจากที่ทีมชาติไทย ผงาดคว้าแชมป์ศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพครั้งที่ 45 และเป็นแชมป์รายการแรกของ มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชคนใหม่ของไทยด้วย...

หลังจากจบศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 โดยทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช สร้างผลงานที่น่าพอใจ เอาชนะเบลารุสในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยการดวลจุดโทษ 5-4 หลังเสมอในเวลา 0-0 พร้อมกับป้องกันแชมป์คิงส์คัพได้สำเร็จ และเป็นแชมป์คิงส์คัพสมัยที่ 15 อีกด้วย

ทั้งนี้ทางทีมงานไทยรัฐออนไลน์จะมาสรุป 13 ประเด็นที่น่าสนใจกับแชมป์แรกของมิโลวาน ราเยวัช ที่เข้ามาปลุกแรงศรัทธาฟุตบอลไทยของประชาชนทั้งประเทศอีกครั้ง

ข้อ 1 : มิโลวาน ราเยวัช สอบผ่านอย่างชัดเจนกับทัวร์นาเมนต์คิงส์คัพ แม้นักเตะจะไม่สมบูรณ์ แต่เขาก็วางแท็กติกเลือกใช้ผู้เล่นที่เหมาะสมกับเกมการแข่งขัน และสามารถพาทัพช้างศึกโค่นทีมที่มีแรงกิ้งดีกว่า คว้าแชมป์คิงส์คัพเป็นสมัยที่ 15 ได้สำเร็จ

ข้อ 2 : ต้องขอชื่นชมกับแท็กติกของ มิโลวาน ราเยวัช อีกครั้ง เข้ามาทำให้เกมรับของทีมชาติไทย แข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างเหลือเชื่อ ดูดีมีระบบ ทั้งการคุมโซน, ไล่บอล รวมถึงจังหวะโต้กลับ อีกทั้งการแก้เกมยกตัวอย่างชัดเจนอย่างการจับ ธีราทร บุญมาทัน โยกจากตำแหน่งแบ็กซ้าย ไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก และทำได้ดีแบบเหลือเชื่ออีกด้วย

ข้อ 3 : พรรษา เหมวิบูลย์ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว คือปราการหลังตัวกลางอันดับ 1 ของทีมชาติไทยแบบไม่ต้องสงสัย เกมรับที่แน่นปึ้กทั้งลูกกลางอากาศและภาคพื้นดินทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทางบอลที่ยอดเยี่ยมไม่มีกระวนกระวาย ต้องขอชื่นชม ราเยวัช อย่างยิ่งที่ให้โอกาสทั้งคู่จนได้แจ้งเกิด

ข้อ 4 : การหายไปของ ทริสตอง โด แบ็กขวาเบอร์ 1 ของทีมชาติไทยไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ในเมื่อ อดิศร พรหมรักษ์ ที่ปกติเล่นเป็นเซนเตอร์ ก่อนจะโดน ราเยวัช จับโยกมาเล่นแบ็กขวาแถมเล่นได้ดีแบบเหลือเชื่อ เกมรับที่แน่นยากที่ใครจะมาเลี้ยงผ่านได้ คือจุดเด่นที่อาจทำให้ เจ้าเก่ง ยึดสัมปทานแบ็กขวาแทนที่ โด ไปอีกนาน

ข้อ 5 : ฟอร์มโหดแบบผิดหูผิดตาสำหรับ "เจ้านิว" ฐฺิติพันธ์ พ่วงจันทร์ จับคู่ตำแหน่งมิดฟิลด์แดนกลางกับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ได้อย่างลงตัว สไตล์บอลเล่นคล้ายกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด ตำนานแข้งของลิเวอร์พูล วิ่งลงไม่มีหมด เด่นทั้งเกมรุกเกมรับ ถ้าฟอร์มแบบนี้ไปเรื่อยๆอาจทำให้ สารัช อยู่เย็น ที่เคยรับบทบาทนี้อาจมีหนาวๆร้อนๆ

ข้อ 6 : ธีราทร บุญมาทัน คือหัวใจสำคัญของทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นเล่นตำแหน่งไหนก็ตาม "เจ้าอุ้ม" สามารถเล่นได้ดีทุกตำแหน่ง ไล่ตั้งแต่แบ็กซ้ายลามไปถึงตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ต่างโชว์ฟอร์มได้ดีหมด และการได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ก็เหมาะสมทุกประการ

ข้อ 7 : แม้ว่าเกมรับจะพัฒนาขึ้นกว่าเดิมค่อนข้างมาก แต่เกมรุกยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าที่ควร ยกตัวอย่างนัดล่าสุดที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีไอเดียทำประตูเวลาเปิดโหมดเกียร์ 5 จู่โจมเกมบุก ต้องพัฒนาจุดนี้ยิ่งขึ้น

ข้อ 8 : กองหน้า ยังคือจุดที่มีปัญหาของทีมชาติไทย การขาด "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าเบอร์ 1 ส่งผลกระทบชัดเจน "เจ้ากอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร ยังแทนไม่ได้ ดังนั้นต้องหากองหน้าที่จะมารับหน้าที่แบกความหวังเกมรุกให้กับทีมต่อไป

ข้อ 9 : สรรวัชญ์ เดชมิตร เรียกฟอร์มตอนเล่นให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด ออกมายังไม่ได้ ได้เล่นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ จอมทัพตัวทำเกมแต่มีดีแค่ไล่บอลอย่างเดียว การออกบอล สร้างสรรค์เกมรุกถือว่าล้มเหลว ถ้าไม่พัฒนาฟอร์ม เตรียมตัวโดน ชนาธิป สรงกระสินธิ์ แย่งตำแหน่งกลับคืน

ข้อ 10 : ฟิลิปป์ โรเลอร์ เจ้าหนูรายนี้ไม่ธรรมดาเลย ได้เปิดตัวกับทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก แต่ไม่ได้แสดงความประหม่าออกมา ดูดีวูบวาบเล็กน้อย มีความคล่องตัว น่าจะพัฒนาและได้รับโอกาสไปอีกนาน

ข้อ 11 : ดูเหมือนจะเป็นแข้งโปรดของ ราเยวัช ไปแล้วสำหรับ มงคล ทศไกร จุดดีคือการช่วยไล่บอล ตัดเกมชาวบ้าน มีความขยันขันแข็งวิ่งไม่มีหมด แต่ขึ้นชื่อว่าปีกควรจะทำได้ดีกว่านี้

ข้อ 12 : การกลับมาติดทีมชาติไทยในรอบ 3 ปีของ ธีรเทพ วิโนทัย ดูดีมีความมุ่งมั่นและกระหายเลยทีเดียว แต่ยังได้โอกาสน้อยไปหน่อย ต้องดูทัวร์นาเมนต์หน้าว่าเขาจะโดนใจ ราเยวัช เรียกตัวติดทีมชาติอีกครั้งหรือไม่ แต่การยิงจุดโทษต้องขอชื่นชม 2 ลูกในทัวร์นาเมนต์เฉียบขาดเหลือเกิน

ข้อ 13 : ต้องพัฒนาเรื่องทักษะและไอคิวมากกว่านี้สำหรับ "ปีโป้" สิโรจน์ ฉัตรทอง ความแข็งแกร่งมีแล้ว เริ่มชนกับคู่แข่งล้มยาก แต่ลูกเล่นเหลี่ยมบอลทักษะหลอกล่อจะไม่มี เลี้ยงทื่อๆพยายามแตะแล้ววิ่ง มาเจอแบ็กแข็งๆทางบอลดีเสร็จหมด