ประวัติศาสตร์ "แข้งเทพ"

ประวัติศาสตร์ “แข้งเทพ” 

ตำนาน “งูเหลือมกับเชือกกล้วย” ยังคงดำเนินต่อไป 

หลังขุนแข้ง การท่าเรือ เอฟซี กระเด็นตกรอบตัดเชือกบอลถ้วย เอฟเอคัพ 

ด้วยนำ้มือของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ที่เฆี่ยนเอาชนะไปได้ 2-0

ทำให้ ทีมเซราะกราว อยู่บนเส้นทางลุ้น 3 แชมป์อย่างเต็มตัว..ต่อไป!! 

พร้อมบวกสถิติ (อันไม่น่าจดจำ) ให้พลพรรคสิงห์เจ้าท่า ในยุคของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ 

ที่ยังไม่เคยเอาชนะยอดทีมอีสานใต้ได้เลย แม้แต่ครั้งเดียว จากการพบกันทุกรายการ 8 ปี

รวมเป็น 16 ครั้งเข้าให้แล้ว 

และทำให้พวกเขาต้องกลับไปโฟกัสบนตารางคะแนนไทยลีก 

ที่ต้องจบ “อันดับ3” ให้ได้ ในอีก 4 เกมสุดท้ายของฤดูกาล..ที่เหลืออยู่ 

เพื่อโอกาสไปลุ้นเพลย์ออฟ “ศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก” ในซีซั่นหน้า

ซึ่ง การท่าเรือ จะทำได้หรือไม่? 

ก็คงต้องถาม ทีมอันดับ 4 ปัจจุบัน อย่าง ‘เมืองทอง ยูไนเต็ด’ ดูก่อน

เพราะ กิเลนผยอง มีแต้มตามหลังอยู่แค่คะแนนเดียวเท่านั้น! 

ทำให้ตำแหน่ง “ที่สามไทยลีก” สงสัยต้องขับเคี่ยวกัน...

ไปจนถึงแมตช์สุดท้าย ค่อนข้างแน่!

ส่วนคู่ชิงดำ เอฟเอคัพ ของทีมปราสาทสายฟ้าในปีนี้ 

ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน 

เป็นรองจ่าฝูงไทยลีก “ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” 

ที่ไล่ถล่มเอาชนะ โปลิศ เทโร สบายเท้า 4-0 

ผ่านเข้าไปลุ้นโทรฟี่เมเจอร์ใบแรกของสโมสร 

หลังจากที่เปลี่ยนชื่อทีมมาเป็น “แข้งเทพ” เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม...นอกจากได้ชิงถ้วยแรกสมใจแล้ว 

ฤดูกาลนี้ บียู ยังจ่อที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ 

ในการคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023-24 รอบแบ่งกลุ่ม โดยอัตโนมัติ  

ซึ่งสถานะ ณ ปัจจุบัน ยอดทีมเมืองหลวง ที่ลงเล่น 26 นัด มี 55 แต้ม 

ต้องการอีกเพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น 

พวกเขาก็จะการันตี “รองแชมป์ไทยลีก” ซีซั่นนี้ทันที 

พร้อมตีตั๋วเข้าไปลุยถ้วยเอเชีย ในรอบแบ่งกลุ่ม เป็นครั้งแรก 

ภายใต้ชื่อ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 

หลังจากก่อนหน้านี้ แข้งเทพ เคยสัมผัสศึก ACL เพียงแค่รอบเพลย์ออฟเท่านั้น ในปี 2017 และ 2019

ก่อนจะโดนคู่ต่อสู้ น็อกตกรอบ เพียงแค่นัดเดียว ทั้ง 2 ครั้ง  

สำหรับโปรแกรมที่เหลืออยู่ในฤดูกาลนี้ ของ แบงค็อก 

ประกอบด้วย ไทยลีก อีก 4 เกม คือ

23 เม.ย. พบ โปลิศ เทโร (เหย้า)

30 เม.ย. พบ ประจวบ เอฟซี (เยือน)

6 พ.ค. พบ เมืองทอง ยูไนเต็ด (เหย้า)

และ 12 พ.ค. พบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เยือน)

ซึ่งดูแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร 

สำหรับอีก 3 คะแนน ของตำแหน่ง “พระรอง” แบบชัวร์ๆ 

จะไปลุ้นเดือดส่งท้ายกันอีกครั้ง 

กับแมตช์ชิงถ้วย เอฟเอคัพ ในปลายเดือนหน้า 

วันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต (ทรู สเตเดียม)  

สังเวียนเหย้าของ บียู เอง 

ที่ไม่นานมานี้...เคยถูกจารึกไว้ว่า 

เจ้าบ้าน เป็นทีมแรกที่ยัดเยียดความปราชัยให้ บุรีรัมย์ มาแล้ว 

อย่างเจ็บแสบ...ที่สุด!!!  

- บี บางปะกง - 
joggingboy_be@yahoo.com   

ป.ล.กรุณาอย่า “ดราม่า” เรื่องสนามนัดชิงฯ นะจ๊ะ 

เพราะฝ่ายจัดเขากำหนดล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว 

เปลี่ยนไม่ได้หรอก..ตัวเอง !!