หน้าแรกแกลเลอรี่

“ปธ.ฮาย” ทิ้งบอมบ์ถาม “บุรีรัมย์” ละเมิดสิทธิเสรีภาพหรือไม่ หลังมีวงจรปิด ห้องทีมเยือน

ไทยรัฐออนไลน์

2 ก.พ. 2566 07:52 น.

แม้จะมีการถอดไปแล้ว แต่ ประธาน ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ถามประโยคเด็ดถึง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นี่คือการละเมิดสิทธิ เสรีภาพ หรือไม่ หลังเคยติดกล้องวงจรปิดในห้องทีมเยือน

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 จากกรณีที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องแต่งตัวนักกีฬาทีมเยือน ในสนามช้าง อารีน่า และเป็นดราม่า หลังเกม เปิดบ้านชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-0 เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน รั้งจ่าฝูงยาวๆ โดยนำอันดับ 2 อย่าง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 11 คะแนน 

ก่อนหน้านี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาแถลงการณ์ขอโทษถึงเรื่องดังกล่าวและประกาศนำกล้องวงจรปิดที่เป็นดราม่าออกไปแล้ว ซึ่งทาง ไทยลีก ได้มีการลงโทษดังนี้

ข้อ 5.3.19 ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน มีโทษดังนี้

- ครั้งแรกเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และกำหนดระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จ

- ครั้งที่ 2 หากดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในครั้งแรก ให้ปรับเงิน 10,000 บาท และกำหนดระยะเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จใหม่

- ครั้งต่อๆ ไป ปรับเงินเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จนกว่าจะดำเนินแก้ไขแล้วเสร็จ

ซึ่ง "ปราสาทสายฟ้า" ทำผิดครั้งแรก จึงมีการเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ล่าสุด ประธานฮาย ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ร่ายยาวถึงเรื่องนี้ ทำเอาบางคนถึงกับสะดุ้งแน่ๆ

Big Brother is watching you?

ตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 ช่วงระหว่างการแข่งขัน ACL ที่จังหวัดบุรีรัมย์
สโมสรเชียงรายฯ สังเกตเห็น ว่ามีกล้องวงจรปิดติดอยู่ในห้องแต่งตัว

จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ทางสโมสรเชียงรายฯ ไม่ยินยอมให้มีการบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดในห้องแต่งตัว ขอให้ดำเนินการถอดออกไป

เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่า ได้ติดไว้เฉยๆ ไม่มีการบันทึกภาพแต่อย่างใด

แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีการบันทึกในช่วงวันและเวลาแข่งขันจริง
โดยให้เหตุผลว่า ป้องกันทรัพย์สินมีค่าสูญหาย เช่น นาฬิกา

ทางสโมสรเชียงรายฯ จึงต้องแก้ไขด้วยการเอากระดาษมาปิดหน้ากล้องวงจรปิดเอง

หลังจากนั้น กล้องวงจรปิดก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม จนกระทั่งล่าสุดที่กลับไปแข่งขันไทยลีกฤดูกาล 2022/23

คำถามสำคัญที่สุด คงไม่ใช่
สโมสรบุรีรัมย์ฯ เอาเปรียบสโมสรอื่นหรือไม่
แต่คงต้องเป็นคำถามที่ว่า นี่เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของสโมสรอื่นหรือไม่

เพราะมิเช่นนั้น คำตอบที่ได้จะมีเพียง
สโมสรบุรีรัมย์ฯ เก่งกว่า ทุนหนากว่า ไม่จำเป็นต้องแอบดูกล้อง ใครก็สู้ไม่ได้

อันที่จริง จุดเริ่มต้นข้อแรกที่ต้องอธิบาย
ไม่ใช่ประเด็นของการที่สโมสรบุรีรัมย์ฯ จะได้ใช้ภาพหรือข้อมูลของสโมสรอื่น หรือไม่
แต่สโมสรบุรีรัมย์ฯ ได้มีการขออนุญาตหรือขอความยินยอมจากทั้งสโมสรในไทยลีกและสโมสรต่างประเทศก่อนการบันทึกหรือไม่

เพราะในห้องแต่งตัวนักกีฬา ย่อมต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า และการวางแผนต่างๆ ที่แต่ละสโมสรก็คงไม่ต้องการเปิดเผย

น่าจะไม่มีใครอยากถูกบันทึกภาพโดยที่เราเองไม่ยินยอม

ฮายขอยืนยันกับทุกท่านว่า ไม่ใช่ว่า เมื่อเราคิดว่าตัวเองมีน้อยกว่า หรือคิดว่าตัวเราระดับต่ำกว่า จะต้องยอมให้ใครทำอะไรก็ได้ หรือจะไม่สามารถสู้เพื่อรักษาสิทธิเสรีภาพของตัวเองได้

วันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ต้องออกมาปกป้องสิทธิของทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ว่าอย่างน้อยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ควรต้องมีเท่ากัน ไม่ว่ายากดีมีจนก็ควรต้องได้รับการเคารพ

และคำถามสุดท้ายก่อนนอนคืนนี้คือ

สิทธิเสรีภาพบนผืนแผ่นดินไทยมีค่าน้อยกว่านาฬิกาข้อมืออีกหรือคะ