หน้าแรกแกลเลอรี่

คิดถึง...ลีกภูมิภาค

บี บางปะกง

5 ส.ค. 2563 05:01 น.

บทสรุปจากการประชุมสโมสร “ไทยลีก 3” หรือเนชั่นแนลลีก ที่เกิดจากการยุบรวมเอาทีมใน T3 กับ T4 มาควบรวมกัน เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติจากโควิด-19 ที่เล่นงานวงการบอลไทยซะงอมพระราม

ย่อมาให้เข้าใจกันพอสังเขป ดังนี้ครับ

1.ปีนี้ไม่มีเงินสนับสนุนแน่นอนแล้ว เพราะสปอนเซอร์หลักทั้ง แบงก์ออมสิน และ ทรูวิชั่นส์ ถอนตัวออกไปเรียบวุธ และยังไม่มีเจ้าใดเข้ามารับช่วงต่อ สมาคมลูกหนังจึงขาดสภาพคล่องอย่างหนัก

2.ไม่มีการตกชั้นไปอเมเจอร์ลีก แต่มีเลื่อนชั้นขึ้นไทยลีก 2 กันตามปกติ โดยทีมที่อยู่ในอันดับตกชั้นจะต้องถูกหักเงินสนับสนุนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในปีหน้าเหลือเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

3.ทีมใดไม่พร้อมสามารถพักทีมได้ในปีนี้ แต่ปีต่อไปหากจะกลับมาส่งแข่งก็สามารถทำได้ แต่จะถูกลดเงินสนับสนุนลงหรืออาจจะไม่ได้เงินสนับสนุนเลยแม้แต่บาทเดียว

4. เมื่อลีกเตะไปแล้ว ทีมใดไปต่อไม่ไหว ขอถอนทีมกลางคัน จะถูกลงโทษตามกฎระเบียบ แข่งขันปกติ

5. เบื้องต้นการแข่งขันยังเริ่มตามกำหนดเดิม (เริ่ม 3 ต.ค.-28 ก.พ.) แต่สโมสรต้องการให้กรอบระยะเวลาแข่งขันสั้นลงเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และมีบางทีมที่อยากให้กลับมาแข่งเร็วกว่าเดิม ซึ่งตรงนี้ต้องรอหารืออีกครั้ง

6.ยังแบ่งเตะเป็น 6 โซนตามเดิมที่กำหนดเอาไว้ โดยมี 67 ทีมตอบรับเข้าร่วมฟาดแข้งปีนี้มาแล้ว

และ 7.ฟุตบอลถ้วยลีกคัพ โตโยต้า ก็ขอถอนไปแล้ว ตอนนี้รอผู้สนับสนุนรายใหม่อยู่ ถ้าไม่มีก็คงงดไป และจัดศึกเอฟเอคัพเพียงถ้วยเดียว

เป็นไงครับ วิธีการผ่าทางตันในลีกรากหญ้า ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯยุคนี้ รวดเร็วทันใจ ไม่มี เยิ่นเย้อให้เสียเวลา

สรุปง่ายๆ คือ เตะต่อ ไม่มีตก พักทีมได้ แต่ต้องโดนปรับเงินสนับสนุนปีต่อไป

ใครจะเล่นก็เล่น ไม่เล่นก็ตามใจ เพราะยังไงสตุ้งสตังค์ก็ไม่มีให้อยู่แล้ว ทุกอย่างก็แล้วแต่คนทำทีมจะตัดสินใจเอาเอง

เรียกว่าอยู่กันแบบ “บุฟเฟต์” ว่างั้นเถอะ!!

เห็นสภาพของ “ไทยลีก 3” ตอนนี้แล้วก็อด คิดถึงยุครุ่งเรืองของบอลลีกภูมิภาค (REGIONAL LEAGUE) “ดิวิชั่น 2” สมัยก่อนไม่ได้

ยุคนั้นการบริหารงานสมาคมของ คุณวรวีร์ มะกูดี และประธานลีกภูมิภาคอย่าง คุณวิมล กาญจนะ ไม่ได้มีอะไรวิเศษวิโสหรอกครับ

เทียบกับยุคนี้ ของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

แต่น่าแปลกที่บรรยากาศความสุขของบอลลีกบ้านเราตอนนั้น มันดูอบอุ่นกว่า เข้าถึงได้มากกว่าด่ากันได้ ติกันได้ เป็นธรรมชาติ

ไม่ต้องมานั่งอวย หรือเกรงอกเกรงใจใครเหมือนยุคนี้ ที่มี “องครักษ์” (อาชีพ) ดูแลภาพลักษณ์ให้นายเต็มไปหมด

จนบางครั้งดูแล้วน่ารำคาญลูกกะตาชะมัด!!

ไอ้ผมมันสื่อรุ่นเก่าครับ เห็นยังไงก็เขียนยังงั้น จะตรงใจบ้างไม่ตรงใจบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา

คิดซะว่าเราวิจารณ์เค้าได้ คนอื่นก็วิจารณ์เราได้เช่นกัน

อย่าง “ฟุตบอลไทย” ในปัจจุบันก็เหมือนกัน ผลงานเป็นแบบไหน ยังไง?

ดีขึ้นหรือเลวลง ก็เห็นๆกันอยู่ ไม่ต้องสาธยายกันมากหรอก

เอาแค่วิชั่นส์ในการบริหาร “ลีกรากหญ้า” อย่างเดียว ไม่รู้ทำกันอีท่าไหน เอาไปเอามา

ไหงมีแต่คนคิดถึง “ลีกภูมิภาค” ก็ไม่รู้!!!

บี บางปะกง