ไทยรัฐออนไลน์
รวมทุกถ้วย ทุกสถิติของ ทีมชาติไทยยุค "บิ๊กอ๊อด"
วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2566 ภายหลังจากที่ "บิ๊กอ๊อด" พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของ พลเอกประวิตรฯ โดยจะได้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป และจะแจ้งผลและเหตุผลแห่งการลาออกต่อ สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานของประเทศสมาชิก ทราบ ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของสมาคมฯ ตามลำดับต่อไปตามหน้าที่ของประเทศสมาชิก
ซึ่งนับตั้งแต่ "บิ๊กอ๊อด" ขึ้นสู่จุดสูงสุดของประมุขบอลไทย ในปี 2017 (สมัยแรก) จนถึงปัจจุบัน ทัพ "ช้างศึก" เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 (2016) จากอันดับโลก 120 เคยทำทีมชาติไทยร่วงถึงอันดับ 146 ในปลายปี 2016 และดีที่สุดคืออันดับ 106 ของโลก (เมษายน-พฤษภาคม 2021) ส่วนปัจจุบันอยู่อันดับ 113 ของโลก
โดยหากไล่ตามปีจะแบ่งได้ดังนี้
จบปี 2016 (อันดับ 126)
จบปี 2017 (อันดับ 130)
จบปี 2018 (อันดับ 118)
จบปี 2019 (อันดับ 113)
จบปี 2020 (อันดับ 111)
จบปี 2021 (อันดับ 115)
จบปี 2022 (อันดับ 111)
ในส่วนของผลงานที่เป็นรูปธรรมชัดเจนนั้น พูดกันเรื่องของความสำเร็จ ทีมชาติไทย ได้แชมป์ซีเกมส์แค่ 1 จาก 4 สมัยในช่วงที่เจ้าตัวยังอยู่ในตำแหน่ง (เหรียญทอง ปี 2017 ที่มาเลเซีย ส่วน 2019 ตกรอบแรก-เวียดนาม ได้เหรียญทอง , 2021 และ 2023 ได้รองแชมป์) นอกจากนี้ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ยังได้ไปเล่นฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 , 2023 อีกด้วย
นอกจากนี้ผลงานในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 1 ครั้งของทัพ ช้างศึก ในช่วงที่ "บิ๊กอ๊อด" เป็นนายกสมาคม ตกรอบ 2 เท่านั้น ในปี 2019 และทำให้อดไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ และนับตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกสมาคมฟุตบอลเปลี่ยนเฮดโค้ชใหญ่ไปแล้วมากถึง 4 ครั้งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นจากการปลด เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ออกจากตำแหน่งในช่วงต้นปี 2559 และเริ่มใช้โค้ชหลายคนประกอบไปด้วย มิโลวาน ราเยวัช , ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย , อากิระ นิชิโนะ และ มาโน โพลกิง เป็นคนล่าสุด
ช่วงผลงานรายการชิงแชมป์อาเซียน หรือ อาเซียน คัพ ในยุคของ "บิ๊กอ๊อด" ได้ไปมากถึง 3 แชมป์ (2016 ยุค "ซิโก้" , 2020 และ 2022 ในยุคมาโน ตกรอบรองชนะเลิศ ปี 2018 ในยุค นิชิโนะ)