บี บางปะกง
ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้สวัสดีปีใหม่กับทุกท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง นอกจากผมจะขอให้แฟนๆกราวกีฬาไทยรัฐ มีสุขภาพ พลานามัยที่สมบูรณ์ แข็งแรง ไม่เจ็บ ไม่จนแล้ว
เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ 2565 ขุนพลนักเตะทีมชาติไทย ในยุคที่มีผู้จัดการทีมชื่อ...“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ
ยังได้มอบของขวัญมาให้ด้วยการ คว้าแชมป์ศึก AFF Suzuki Cup มาครองอย่างสมศักดิ์ศรี
การเข้ามารับเผือกร้อนของ “มาดามแป้ง” ครั้งนี้กล่าวได้ว่า เป็นการพลิกโฉมหน้าให้กับวงการฟุตบอลไทย ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ
เท่าที่ติดตามดูมาตลอด “มาดามแป้ง” ทุ่มเททุกสรรพกำลังที่มีอยู่ ทุ่มเททุกยุทธวิธีอันหลากหลาย
หลอมรวมจิตใจของเหล่าพลพรรคช้างศึกไทย จนเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างมีเสน่ห์ ชนิดลูกผู้ชายอกสามศอก แม้อยากหาทางลงก็หาแทบไม่เจอ
เรื่องแบบนี้เงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้หรอก ครับ ใจครับใจ ความมีใจให้อย่างจริงใจเท่านั้น จึงจะเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้
บทเรียนที่ “มาดามแป้ง” สร้างไว้ครั้งนี้ จึงเป็นบทเรียนราคาแพงที่สอนคนแบบเชือดนิ่มๆ
หลายปีที่ผ่านมาความแตกแยกแบ่งค่าย แบ่งก๊ก แบ่งเหล่าเกิดขึ้นเยอะมากๆๆๆๆ จนส่งผลกระทบถึงผลงานของทีมชาติไทยที่ดิ่งสู่ก้นเหวอย่างที่เห็นกัน
ในที่สุดก็ต้องอาศัย “นารีขี่ม้าขาว” เข้ามาช่วย ทั้งฉุด ทั้งประคอง ทั้งเติมเต็ม กลายเป็นผลงานสุดล้ำค่าของทีมชาติไทย จนทะยานขึ้นเบอร์หนึ่งอาเซียนอย่างที่เห็นกัน
วันนี้ผมเห็นด้วยแบบสุดลิ่มทิ่มประตูกับแฟนฟุตบอลทั้งประเทศครับ ที่เชียร์ให้ “มาดามแป้ง” ขึ้นนั่งในตำแหน่งประมุขลูกหนังไทย
เพราะนี่คือ บุคคลที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะที่สุดเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้
แต่...แต่ขออย่าเพิ่งเป็นตอนนี้เลยครับ หนี้ก้อนโตจากการถูกฟ้องร้องยังคารังคาซังอยู่
อีกเรื่องที่อยากฝากถึง “มาดามแป้ง” ด้วยความห่วงใยจากใจ
จากข่าวว่าจะลงเล่นการเมือง ถ้าจริงแม้ผมจะเป็นคนเคารพในการตัดสินใจ
แต่อยากให้ลองคิดใหม่ คิดทบทวนให้รอบด้าน
ณ วันนี้ของ “มาดามแป้ง” อยู่เฉยๆ คนก็รักทั้งประเทศอยู่แล้ว
ถ้าขอได้ก็อยากขอ ขอให้อยู่กับแฟนบอลต่อไปเถอะนะครับ
“ไว เด่นชัย”
OOOOOOOO
ขอบคุณ “มาดามแป้ง”, สตาฟฟ์โค้ชทีมงานทั้งหมด และแข้งช้างศึก จากหัวใจ
กับของขวัญปีใหม่อันล้ำค่าต่อความรู้สึก
ที่มอบให้คนไทยทั้งชาติ...ในครั้งนี้ครับ!!!
บี บางปะกง