ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ต้านกระแสไม่ไหว “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประกาศไขก๊อกผ่าน “ไลน์” ขอลาออกจากเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อ้างทำตามคำสั่ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานโอลิมปิกไทย แต่ยังยืนยันเข้าร่วมประชุมสภากรรมการฯวันที่ 3 ก.ค. มีวาระสำคัญในการพิจารณาข้อเสนอแนะที่ 16 สโมสรไทยลีกจะแยกตัวมาตั้งบริษัทใหม่เพื่อหาสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเอง เผยการลาออกของบิ๊กอ๊อดจะส่งผลให้สภากรรมการของสมาคมฯสิ้นสภาพทั้งหมด ขณะเดียวกันต้องจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 3 เดือน ชี้ผลพวงจากการลาออก ไทยอาจโดน “ฟีฟ่า” แบน ในข้อหาการเมืองแทรกแซงเหมือนกับที่หลายๆชาติเคยโดนมาแล้ว
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เรียกร้องให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ อันมีผลมาจากนักเตะช้างศึกทีมชาติไทย ผลงานล้มเหลวในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ไม่ได้เหรียญทอง และยังมีเหตุชกต่อยกับคู่แข่งขันอื้อฉาวไปทั่วโลก รวมถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนบอลถึงการบริหารงานอันล้มเหลวทำให้วงการฟุตบอลไทยตกต่ำสุดขีด โดยเฉพาะประเด็นมูลค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทยลีก ลดลงจาก 1,200 ล้านบาท ต่อฤดูกาล เหลือเพียงแค่ 50 ล้านบาทนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ แจ้งข้อความให้สื่อมวลชนผ่านแอปพลิเคชันไลน์สมาคมกีฬาฟุตบอลว่า ได้รับแจ้งเนื้อหาการประชุมที่ได้มอบหมายนายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคม เข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปี 2565 ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ณ ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกฯ ถนนศรีอยุธยาที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 และจากสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั่วไปว่า พล.อ.ประวิตรสั่งการให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบผลงานการแข่งขันฟุตบอล และเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของนักฟุตบอลและสตาฟฟ์โค้ช ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชา ตามคำแนะนำของ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา นั้น
ข้อความ พล.ต.อ.สมยศ หรือบิ๊กอ๊อด ระบุต่อว่า ในฐานะนายกสมาคมฯ เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแล และจดทะเบียนกับการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่ง พล.อ.ประวิตร โดยจะปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป และจะแจ้งผลและเหตุผลแห่งการลาออกต่อสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ที่มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานของประเทศสมาชิกทราบในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของสมาคม ตามลำดับต่อไปตามหน้าที่ของประเทศสมาชิก
พล.ต.อ.สมยศเปิดใจอีกว่า ได้ตัดสินใจลาออกแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกตามกระบวนการแล้วจะต้องส่งให้สำนักเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และให้ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยเซ็นอนุมัติในวันที่ 3 ก.ค. จะยังไปร่วมประชุมสภากรรมการที่มีวาระสำคัญอยู่ก่อนการประชุมยังมีตามปกติต่อไป ส่วนที่ระบุว่าจะแจ้งเหตุผลการลาออกต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า), สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี), สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ว่า พร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง พล.อ.ประวิตร เป็นเรื่องที่ต้อง แจ้งอยู่แล้ว เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในสมาคม ก็ต้องแจ้งไปตามปกติ ไม่ว่าจะเปลี่ยนนายกสมาคมฯ, เปลี่ยนเลขาธิการฯ หรือเรื่องใดๆก็ตาม
ด้านนายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เผยว่า เพิ่งทราบเรื่องจากแถลงการณ์ของสมาคม ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.สมยศ หรือได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ หากได้รับแจ้งแล้วก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับลักษณะปกครองฯ ต่อไป ตามหลักแล้วการส่งหนังสือลาออกของนายกสมาคมและสภากรรมการต้องส่งในวันราชการ ต้องรอดูวันจันทร์ว่าจะแจ้งลาออกต่อสำนักเลขาธิการหรือไม่ ส่วนการประชุมสภากรรมการวันที่ 3 ก.ค. ยังมีต่อไปเหมือนเดิม ขณะเดียวกันการแจ้งลาออกของนายกสมาคมจะต้องแจ้งให้ฟีฟ่ารับทราบด้วยเพราะสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นสมาชิกฟีฟ่าต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงให้ได้รับทราบพร้อมเหตุผลการลาออก
สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ ชนะการเลือกตั้งได้รับตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ครั้งแรกตั้งแต่ ก.พ.59 ขณะนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในสมัยที่ 2 นับตั้งแต่มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯกันไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ.63 จะหมดวาระใน มี.ค.67 ตลอดระยะเวลา 7 ปีของการทำงาน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์การทำงานจากทั้งบรรดาสโมสรต่างๆ รวมถึงแฟนบอลทั่วไปมาตลอดโดยเฉพาะเรื่องผลงานทีมชาติไทยไม่ประสบความสำเร็จในทุกรุ่นอายุ ล่าสุดกับกรณีมูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกถึงจุดตกต่ำสุดขีด ก่อนหน้านี้ผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในยุคก่อนภายใต้การนำของ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี สามารถยกระดับมูลค่าไปได้ถึง 1,200 ล้านบาทต่อฤดูกาล แต่ปัจจุบันมูลค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีกกลับลดลงเหลือเพียงแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น
มีรายงานว่าผลพวงจากการที่ พล.ต.อ.สมยศ ลาออกครั้งนี้ ตรงกับข้อบังคับลักษณะปกครองสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ข้อ 30.10.4.5 ระบุว่า “กรณีนายกสมาคมพ้นจากตำแหน่ง ให้สภากรรมการทั้งหมดพ้นจากตำแหน่งด้วย รวมถึงข้อ 30.10.5 “กรณีนายกสมาคมพ้นจากตำแหน่งให้สำนักงานเลขาธิการดำเนินการตามอำนาจที่ระบุไว้ใน 37.9 และข้อ 37.9 “ให้สำนักเลขาธิการดำเนินกิจการทั้งปวงของสมาคมไปพลางก่อน โดยให้มีอำนาจนิติกรรมใดๆ เท่าที่จำเป็นแล้วจัดให้มีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งสภากรรมการให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน”
รายงานระบุต่อว่า พล.ต.อ.สมยศ ยังไม่ได้ยื่นใบลาออกอย่างเป็นทางการต่อสำนักเลขาธิการฯ คาดว่าจะยื่นภายในวันจันทร์นี้ อย่างไรก็ตาม การประชุมสภากรรมการวันจันทร์ที่ 3 ก.ค.66 มีวาระสำคัญในการพิจารณาข้อเสนอแนะที่ 16 สโมสรไทยลีก จะแยกตัวมาตั้งบริษัทใหม่เพื่อหาสิทธิประโยชน์ด้วยตัวเองยังคงมีตามปกติ เนื่องจากการลาออกจะมีผลต่อเมื่อผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยเซ็นรับรองการลาออก นอกจากนี้การแจ้งการลาออกต่อสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ “ฟีฟ่า” ยังต้องระบุเหตุผลของการลาออกด้วย เนื่องจากเป็นการพ้นตำแหน่งโดยไม่ครบวาระ
นอกจากนี้ การที่ พล.ต.อ.สมยศประกาศเตรียมลาออก อ้างเป็นคำสั่งของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจทำให้วงการฟุตบอลไทยโดนแบนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟ่า” ข้อหาเรื่องการแทรกแซง เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของฟีฟ่า ในอดีตที่ผ่านมา มีประเทศที่ถูกแบนจากฟีฟ่าจากการแทรกแซง อาทิ อิรักโดนแบน จากสาเหตุที่รัฐบาลอิรักสั่งยุบคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ และสหพันธ์กีฬาแห่งชาติ, ปี 2014 ไนจีเรีย โดนแบนเพราะศาลไนจีเรียก็แต่งตั้งให้คนในรัฐบาลเข้ามาบริหารสหพันธ์ฟุตบอลแทน ก่อนยกเลิกโทษแบนใน 1 เดือน, อินโดนีเซียโดนแบนปี 2015 หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกสมาคมฟุตบอลแล้วจะตั้งสมาคมฟุตบอลขึ้นมาเอง และได้ปลดโทษแบน ปี 2016 ในปี 2017 คูเวตและปากีสถานถูกแบนจากบุคคลที่ 3 แทรกแซง ล่าสุดปี 2022 อินเดียโดนแบนเพราะศาลอินเดียมีคำสั่งยุบสมาคมฟุตบอลอินเดียชั่วคราว และแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมแทน เนื่องจากปราฟุล พาเตล อดีตนายกสมาคมฯ อยู่ในตำแหน่งเกินวาระและไม่จัดการเลือกตั้งใหม่ เป็นการแทรกแซงจากบุคคลที่ 3 ก่อนจะถูกปลดโทษแบนในเวลาต่อมา
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายก รัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมวงการฟุตบอลในประเทศไทยว่า ประเมินว่าอยู่ในขั้นตกต่ำพอสมควร ทั้งเรื่องอันดับ จำนวนผู้เข้าชมแต่ละเกมไทยลีก การขายของที่ระลึกสโมสร ที่สำคัญคือการค้างจ่ายเงินเดือนนักเตะหลายสโมสร ล่าสุดกรณีทีมไทยลีกขอแยกตัวมาบริหารจัดการกันเอง หลังได้รับค่าลิขสิทธิ์น้อยกว่าที่ควรเป็น ตนไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะลีกสูงสุดไทยจะเฟ้นหานักเตะ ต้องหามาจากลีกระดับรองลงมา ถ้าลีกล่างไม่พัฒนา ลีกบนจะพัฒนาต่อยอดไปถึงระดับทีมชาติได้อย่างไร เชื่อว่าหลังจากนี้การเปลี่ยนแปลงคงจะต้องเกิดขึ้น เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สามัญ ประจำปี 2565 ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย มีเนื้อหาให้ พล.ต.อ.สมยศ ลาออกแสดงความรับผิดชอบต่อผลการบริหารทีมฟุตบอลไทย นายเศรษฐาตอบว่า ควรให้ความเป็นธรรม พล.ต.อ.สมยศด้วย มองว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากตัวนายกสมาคมฯอย่างเดียว มันมีมากกว่านั้น
เมื่อถามถึงความกังวลว่า ในอนาคตอาจมีการเมืองมาแทรกด้วย นายเศรษฐาตอบว่า ต้องยอมรับว่า มีการแทรกมาอยู่แล้ว เพราะเจ้าของสโมสรหลายทีมเป็นนักการเมือง เป็นของคู่กัน ต้องยอมรับ ถ้าไม่มีการเมืองมาอยู่กับฟุตบอล ฟุตบอลก็เกิดลำบาก แต่ต้องเรียกร้องจิตใต้สำนึกเจ้าของทีมมากกว่าว่า คุณทำเพื่ออะไร ถ้าทำเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลไทยเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าจะเดินหน้าได้แน่นอน
“ขณะนี้กระแสอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมีมาก มีนักฟุตบอลหลายคนก็ออกมา หรือนางนวลพรรณ ล่ำซำ ที่อยู่ในวงการฟุตบอล รวมถึงในอดีตก็มีเสียงเรียกร้องจากหลายเพจว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็มีเสียงเรียกร้องเหมือนกัน ก็แล้วแต่ครับ” นายเศรษฐากล่าว
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่เพราะฟุตบอลคือกีฬาที่คนไทยคาดหวัง การที่ พล.ต.อ.สมยศลาออกจากนายกสมาคมฟุตบอลฯ หลังจากมีคำพูดของ พล.อ.ประวิตรให้ลาออก คิดว่าเป็นสัญญาณชัดที่ฟีฟ่าอาจมองว่า การเมืองเข้ามาแทรกเต็มตัว ทำให้เห็นชัดเจนใครสามารถพูดให้นายกสมาคมฟุตบอลฯ ลาออกได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีแรงกดดันจากวงการฟุตบอล ประชาชนให้ พล.ต.อ.สมยศลาออก แต่ไม่มีการแสดงสปิริตยังดึงดันอยู่ แต่มาลาออกหลังจาก พล.อ.ประวิตรพูด หากฟีฟ่าเเบนฟุตบอลไทยจริง ทำให้ประเทศต้องสูญเสียการเข้าร่วมแข่งขันระดับนานาชาติ เป็นการลาออกในช่วงขาลง รัฐบาลใกล้หมดอายุ เพื่อส่งไม้ต่อให้ใครหรือไม่ มองว่าคนเก่าคงยื้อต่อไปได้ไม่นาน ต้องตั้งข้อสังเกตว่า หลังนายกสมาคมฟุตบอลฯลาออก คนต่อไปที่จะเข้ามามีกระบวนการคัดเลือกโปร่งใสหรือไม่ ดังนั้น พล.อ.ประวิตรต้องออกมาแก้ไขสถานการณ์ให้ทันท่วงที ไม่ให้เกิดความเสียหายยิ่งกว่านี้ พล.อ.ประวิตรต้องตอบว่า พูดเพราะเหตุใด และแสดงให้เห็นว่า กระบวนการคัดเลือกนายกสมาคมฟุตบอลฯคนใหม่ ขั้นตอนต่างๆต้องไม่มี พล.อ.ประวิตรเข้าไปแทรกเเซง
ด้าน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกไทย กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตามคำทวงถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐ มนตรี ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย ให้แสดงความรับผิดชอบจนถูกมองว่าใช้อำนาจเข้าไปแทรกแซงเข้าข่ายผิดกฎฟีฟ่าว่า ไม่เกี่ยวกัน สมาคมขึ้นตรงต่อคณะกรรมการโอลิมปิก และ พล.อ.ประวิตรสวมหมวกหลายใบพูดในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกไทย เมื่อผลงานออกมาแบบนี้นายกสมาคมต้องรับผิดชอบ เมื่อถามว่าฟีฟ่าอาจมองว่าใช้อำนาจการเมืองเข้าไปแทรกแซง พล.อ.วิชญ์กล่าวว่า แทรกแซง หมายถึงคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ไม่ต้องการให้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตรงนี้เป็นการแสดงสปิริตออกมาให้ชัดเพื่อรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
“พี่ป้อมเคยพูดไว้ล่วงหน้าก่อนไปแข่งขัน ซีเกมส์ เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นในฐานะนายกสมาคมต้องแสดงความรับผิดชอบ เป็นไปตามหลักการทั่วไป ไม่ใช่เอาแต่ลงโทษลูกน้องตัวเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแทรกแซง เราเน้นไปทุกสมาคมอยู่แล้ว” พล.อ.วิชญ์กล่าว