ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ความสำเร็จของกีฬาล้วนมีองค์ประกอบสำคัญหลายอย่างที่จะผสม ผสานไปด้วยกันเพื่อให้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ นอกจากเรื่องฝีมือประสบการณ์แล้วโชควาสนาล้วนเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น
แต่พื้นฐานความสำเร็จที่นับเป็นหัวใจหลักคือเรื่อง “รากฐาน” ต้องมั่นคงแข็งแรง ไม่ว่ากีฬาชนิดไหนหากมีรากฐานที่แกร่งโอกาสสูงที่จะเติบโตเป็นต้นไม้ที่กล้าแกร่งยืนต้นได้อย่างยืนยาว
เช่นเดียวกับสมาคมลูกหนังหนึ่งในกีฬาหลักและเป็นยอดฮิตทุกยุคทุกสมัยทั่วโลก วันนี้หลายคนตั้งคำถาม! ถึงผลงานความสำเร็จของช้างศึกไทยทุกชุดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงได้ย่ำแย่หรือตกต่ำกว่าที่เคยเป็น
เมื่อก่อนเราเป็นพี่ใหญ่ในอาเซียนไม่ว่าชาติไหนก็เกรงช้างศึกด้วยกันทั้งนั้น แต่วันนี้หลายคนคิดว่าฟุตบอลของไทยเข้าขั้นพิการไม่ประสบความสำเร็จเลย
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฟุตบอลไทยย่ำอยู่กับที่ไม่มีการพัฒนาอย่างจริงจัง ขณะที่ทุกชาติเขาเริ่มพัฒนาเลยทำให้มาตรฐานของเรากำลังจะห่างจากเพื่อน
ทั้งนี้ เพราะหลักการบริหารของสมาคมลูกหนังห่วยแตกไม่มีระบบหรือแผนงานที่ชัดเจนอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างที่บอก ก่อนที่จะก้าวไปสู่ทีมชาติรากฐานสำคัญคือลีกภายในประเทศต้องแข็งแกร่งและมีมาตรฐานดีสามารถสร้างนักเตะให้มีศักยภาพที่สูงสุด
ที่สำคัญต้องมีเวทีให้พวกเขาได้โชว์ลีลาวาดลวดลายอย่างเต็มความสามารถเพื่อที่จะพัฒนาให้เป็นนักเตะที่กล้าแกร่งในอนาคต
เอาแค่ระดับอาเซียนอย่าง “ซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา” เรายังล้มเหลวพลาดไปจากเป้าหมายที่ควรจะเป็น อย่ามาบอกว่าการได้รองแชมป์หรือเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก็ประสบความสำเร็จแล้ว
ทั้งที่เป้าหมายสูงสุดในซีเกมส์คือ “เหรียญทอง” แต่วันนี้ฟุตบอลทั้งชาย-หญิง ไม่มีเหรียญทองคล้องคอกลับมา ยังดีที่มีขุนพลโต๊ะเล็ก “ฟุตซอลทีมชาติไทย” ที่เปรียบเสมือนลูกเมียน้อยมาช่วยกอบกู้สถานการณ์คว้าเหรียญทองทั้งชาย-หญิง ทำให้กระแสความกดดันลดลงไป
ถามว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสมาคมเคยเหลียวแลฟุตซอลกันบ้างหรือเปล่า ทั้งที่ฟุตซอลสร้างผลงานระดับโลกให้เห็นมาหลายครั้งหลายหนไล่ตั้งแต่ได้โควตาไปฟุตซอลโลกแบบไม้ประดับจนสามารถขยับขึ้นมาเป็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
หากได้รับแรงหนุนดีๆอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เชื่อว่าอนาคตฟุตซอลไทยสดใสกว่านี้แน่นอน
ไม่รู้ว่าวันนี้นายใหญ่สมาคมลูกหนัง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เคยมีกีฬาฟุตซอลอยู่ในใจบ้างหรือเปล่า
แค่ตอนเดินทางกลับจากซีเกมส์ยังไม่เห็นหน้า “บิ๊กอ๊อด” เดินทางไปต้อนรับแสดงความยินดีกับความสำเร็จทีมโต๊ะเล็กเลย หรือว่าแอบอยู่ในห้องรับรองพิเศษปราศจากสื่อมวลชน
จริงๆอยากถาม “บิ๊กอ๊อด” เคยมีกีฬาในหัวใจบ้างหรือเปล่า เพราะขนาดอาชีพประจำที่สร้างตัวเองใหญ่โตยังเป็นแค่ “ไซด์ไลน์” เลย
นับประสาอะไรกับวงการกีฬาที่เป็นแค่ทางผ่านหรือร่างทรง.
โจโจ้ซัง