หน้าแรกแกลเลอรี่

ลางเนื้อชอบลางยา

บี บางปะกง

5 ต.ค. 2564 05:06 น.

ไปๆมาๆเหลือแค่ทีมเดียวในไทยลีกแล้วล่ะครับ ที่ยังสะกดคำว่า “แพ้” ไม่เป็น ในฤดูกาลนี้ นั่นก็คือ “แชมป์เก่า” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

หลัง 4 ทีม ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยปราชัย ให้ใคร ถูกเปิดซิงพ่ายแพ้เรียบวุธไปในวีกที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, สมุทรปราการ ซิตี้ รวมถึงสุพรรณบุรี

สำหรับคิวเตะไทยลีกนัดต่อไป ก็ไม่ต้องรอกันนาน เพราะจะมีเกม “มิดวีก” กลางสัปดาห์ ต่อเนื่องกันไปเลย ตามโปรแกรมดังนี้

อังคารที่ 5 ต.ค. เมืองทอง เปิดบ้านรับการ มาเยือนของหนองบัว พิชญ ในเวลา 17.00 น. และโปลิศ เทโร เจอกับฉลามชล หกโมงเย็น

ส่วนพุธที่ 6 ต.ค. มี 4 คู่ เริ่มด้วยบิ๊กแมตช์ 17.00 น. บีจี ปทุม ปักหลักเล่นในลีโอ สเตเดียม เจอกับสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้อนรับพีที ประจวบ เอฟซี ในเวลา 18.00 น. และ อีกสองคู่ตอนทุ่มนึง ระหว่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปะทะ เขี้ยวสมุทร กับดาร์บี้แมตช์อีสาน ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

ปิดท้ายในวันพฤหัสบดีที่ 7 ต.ค. ด้วยดาร์บี้ ภาคกลางของทีมบ้านใกล้เรือนเคียง สุพรรณบุรี เอฟซี เปิดรังรอรับแข้งราชบุรี มิตรผล เอฟซี ตอน 6 โมงเย็น และเชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบศึกหนักรับการมา แอ่วเหนือของการท่าเรือ เอฟซี ในเวลา 19.00 น.

ทุกคู่ ทุกสนาม ถ้าไม่มีฟ้าฝนมาเป็นอุปสรรค รับรองใส่กันมันหยดติ๋งแน่ เพราะดูคะแนนแล้วยังสูสี ไม่มีใครหนีใครไปไกล ตั้งแต่หัวตารางยันท้ายตาราง ที่อาจพลิกผันสถานการณ์ได้ทุกเวลา

ซึ่งนอกจากวัดกันด้วยขุมกำลังและการฝึกซ้อม ที่เข้มข้นแล้ว แต่ละทีมก็มี “เคล็ดลับแห่งชัยชนะ” ที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความเชื่อ

อย่างแมตช์ล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งทีม “ช้างเผือก” เชียงใหม่ ยูไนเต็ด บุกไปคว้าชัยชนะนัดแรกในลีกสูงสุด ได้สำเร็จเหนือลูกทีมของมาซาทาดะ อิชิอิ 3-1 นั้น

ทราบมาว่า ก่อนลงมาแข่งที่สมุทรปราการ “โค้ชอั๋น” สุรพงษ์ คงเทพ นำลูกทีมไปไหว้ขอพร จากพระธาตุดอยคำ เพื่อเป็นสิริมงคลและสร้าง

ความเชื่อมั่นในการสู้ศึกเกมนี้ ซึ่งผลก็ออกมาอย่างที่เห็นว่าพวกเขาเก็บ 3 แต้ม กลับบ้านอย่างพลิกความคาดหมายจริงๆ

เช่นเดียวกับพลพรรค “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ที่เพิ่งออกไปพ่ายสุพรรณบุรี ก็กลับมาเล่น ในบ้านตัวเอง พร้อมกับการตั้งรองประธานสโมสร คนใหม่อย่าง “น้องปราง” นวลวรรณ ล่ำซำ ลูกสาว สุดที่รักของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ที่ ประเดิมทำหน้าที่อยู่ข้างสนามกับคุณแม่เป็นเกมแรก

และก็ได้ผล เมื่อสาวปรางกลายเป็น “แม่ ย่านาง” ที่นำชัยชนะมาให้แข้งเจ้าท่าเฉือนกิเลนผยอง ไปหวุดหวิด 1–0 ทำให้เธอต้องวิ่งแก้บนรอบสนาม แพท สเตเดียม ทันทีหลังจบเกม

ส่วนอีกคนที่ดูเหมือนจะถูกโฉลกกับทีมใหม่ ที่ตัวเองถูกเชิญให้นั่งเป็นประธานสโมสรก็คือ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี อดีตประมุขลูกหนังในตำนาน ที่คัมแบ็กคืน วงการฟุตบอล (อีกครั้ง)

อย่างเต็มตัวกับทีม “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า ของ บิ๊กสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ตอนแรกแฟนๆโคราชก็ยังไม่แน่ใจว่า “บังยี” จะเข้ามาช่วยสโมสรให้ดีขึ้นได้ยังไง? แต่ปรากฏว่า 3 เกมล่าสุดที่ผ่านมา ซึ่งมีชื่อของอดีตฟีฟ่าวรวีร์ มาช่วยบริหาร ผลงานของทีมเมืองย่าโมดีขึ้นทันตาเห็น ด้วยการเก็บไปแล้ว 7 คะแนนเน้นๆ

โดยเฉพาะเกมในบ้านเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่ง “บิ๊กยี” ไปนั่งเป็นกำลังใจอยู่บนอัฒจันทร์ด้วย พวกเขาโดนช้างศึกยุทธหัตถีที่ไม่เคยแพ้ใครขึ้นนำ ไปก่อน แต่สุดท้ายสวาทแคทมีลูกฮึดในครึ่งหลังยิงแซงสองลูกรวดเอาชนะไปได้ 2–1 หน้าตาเฉย

กลายเป็นแข้งโคราชถูกโฉลกกับ “บังยี” ไปซะอย่างงั้น! ทั้งที่ปีก่อนแกก็เคยมีชื่อเป็นประธานสโมสรสมุทรสาครมาแล้ว แต่ผลงานของทีมกลับย่ำแย่จนกระเด็นตกชั้น

แบบนี้หรือเปล่าหนอ ที่ฝรั่งเขาบอกว่า “one man’s meat is another man’s posion” ลางเนื้อชอบลางยา น่ะ...สงสัย ใช่เลย!!!

บี บางปะกง