“อิชิอิ เวย์”

สารภาพเลยว่า ตั้งแต่ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ วางมือจากการทำทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยไป ผมแทบไม่เคยได้โฟกัสไปที่ทีม “ชบาแก้ว” อีกเลย ไม่ว่าจะไปแข่งทัวร์นาเมนต์ไหนอย่างไรก็ตาม

กระทั่งวันก่อนที่ทีมแข้งสาวไทยออกเดินทาง ไปทำศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศปาเลสไตน์

ภายใต้การนำของโค้ชหญิงจากแดนปลาดิบ “มิโยะ โอกาโมโตะ” ที่สมาคมลูกหนังไทยลงทุนจ้างมาคุมทัพชบาแก้วชุดนี้โดยเฉพาะ

และน่าจะยังเป็นทีมชาติชุดเดียวที่ยังคงใช้บริการผู้ฝึกสอนต่างชาติ หลังเกิด “นิชิโนะเอฟเฟกต์” จน FA ไทยแลนด์ กำลังจะวกกลับมา ใช้กุนซือบ้านเราดูแลกันเองแทบทั้งหมด

ที่ผมอยากจะดูทีมบอลหญิงชุดนี้ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะมีเสียงร่ำเสียงลือว่าโค้ชมิโยะ ฝีไม้ลายมือใช้ได้เลยทีเดียว

ไม่เสียยี่ห้อ “โค้ช เมด อิน เจแปน” ที่ทีมชาติของพวกเค้าเคยผงาดเป็นถึงแชมป์โลก บอลหญิงมาแล้ว จนพวกเรารู้จักกันดีในนาม “นะเดชิโกะเจแปน”

สำหรับเป้าหมายเดียวที่ “ชบาแก้ว” ต้องทำให้ได้ คือต้องเอาชนะคู่แข่งเพื่อทะลุสู่รอบสุดท้าย ที่อินเดียในปีหน้า

โดยโปรแกรมของแข้งสาวไทย มีดังนี้ อาทิตย์ที่ 19 ก.ย. พบ มาเลเซีย และ เสาร์ที่ 25 ก.ย. เจอกับ ปาเลสไตน์ เจ้าถิ่น ซึ่งจะเตะในเวลาไทย 19.30 น. ทั้ง 2 วัน และ AIS PLAY จะถ่ายทอดสดให้ชม

ซึ่งต้องถือเป็นการพิสูจน์ฝีไม้ลายมือของโค้ชมิโยะคนนี้ว่าจะแจ่มแจ๋วเหมือนอย่างที่ผมได้ยินมาหรือเปล่า? ต้องคอยดูกัน

แต่ที่น่าจะเป็น “ของจริง” ไม่อิงนิยาย และไม่ต้องอาศัยแรงโปรโมตใดๆทั้งสิ้น ณ เวลานี้

ก็คือยอดโค้ชซามูไร “มาซาทาดะ อิชิอิ” ที่ผลงานเข้าตากรรมการซะเหลือเกิน ในการกุมบังเหียนทีม สมุทรปราการ ซิตี้ ลุยศึกไทยลีก

จริงๆแล้ว โค้ชอิชิอิ ได้รับการยกย่องมาตั้งแต่ซีซันก่อนแล้วล่ะ ที่สร้างขุมกำลังดาวรุ่งของ “เขี้ยวสมุทร” หลายต่อหลายคนให้ก้าวขึ้นมาเฉิดฉายในลีกสูงสุดอย่างสง่าผ่าเผยและต่อกรกับบรรดาบิ๊กทีมทั้งหลายได้อย่างน่าดูชมแทบทุกแมตช์

ตอนแรกปีนี้กองเชียร์สมุทรปราการเกือบจะถอดใจไปซะแล้ว เมื่อทีมรักของตัวเอง ต้องเสียผู้เล่นแกนหลักไปหลายต่อหลายคน

จนถูกมองว่า...น่าจะกลายสภาพเป็นทีม “หนีตกชั้น” อย่างเลี่ยงไม่ออก ที่ไหนได้ไทยลีกเปิดฤดูกาลมาได้ 2 นัด โค้ชอิชิอิกลับนำพลพรรคเขี้ยวสมุทรก้าวขึ้นมา รั้ง “ท็อปไฟว์” หน้าตาเฉย

หลังพวกเขาโชว์จุดแข็งด้วยการใช้ระบบการเล่นแบบ “โมเดิร์น เจแปนิส สไตล์” มาพะบู๊ กับคู่แข่งได้อย่างน่าดูชม

ทั้งที่ศักยภาพผู้เล่นเป็นรองทีมอื่นบานตะเกียง แถมยังเล่นเป็นทีมเยือนอีกต่างหาก โดยบุกเสมอ สิงห์ เชียงราย 2-2 และเพิ่งไปสยบน้องใหม่ หนองบัว พิชญ 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สมแล้วที่เจ้าตัวเคยมีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา ในการนำทีม “ไอ้กวางเหล็ก” คาชิมา แอนท์เลอร์ส สร้างความสำเร็จอย่างงดงาม ถึงขั้นเข้าชิงถ้วยสโมสรโลกมาแล้วอย่างน่าทึ่ง!!

ตอกย้ำสิ่งที่ผมเคยเขียนไว้ใน “ตะลุยฟุตบอลโลก” เมื่อหลายเดือนก่อนว่า ถ้าสมาคม หรือผู้จัดการทีมอย่าง “มาดามแป้ง” จะมองหา กุนซือต่างชาติคนใหม่มาคุมทีมช้างศึก (อีกสักครั้ง) ล่ะก็

แนวทางการทำทีมแบบ “อิชิอิ เวย์” ของโค้ชนิปปอนผู้นี้...นี่แหละ

น่าจะดูเข้าท่ากว่าใครเพื่อน!!!

บี บางปะกง