บี บางปะกง
สบายใจหายห่วงไปแล้วล่ะครับ...กับตำแหน่ง “แชมป์ลีกสูงสุด” ของพลพรรค “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เพิ่งบุกไปจัดหนักใส่แข้งพลังหนุ่ม สมุทรปราการ ซิตี้ ซะครึ่งโหล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทำให้พวกเขามีแต้มทิ้งห่างทีมรองจ่าฝูงอย่างสุดกู่ เกมที่เหลือ 7 นัดขออีกแค่ 2 แต้มเท่านั้น
ก็จะเถลิงบัลลังก์แชมป์ไทยลีกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรทันที แถมยังทำสถิติคว้าแชมป์ได้เร็วที่สุดอีกต่างหาก
ซึ่งเมื่อเช็กโปรแกรมดูแล้ว ก็คงไม่แคล้วค่ำๆ วันพฤหัสบดีที่ 4 มี.ค.นี้แหละ ที่บีจีจะเปิดลีโอ สเตเดียม รับการมาเยือนของสุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 13 ที่กำลังดิ้นรนหนีโซนอันตรายสุดชีวิต ในเวลา 1 ทุ่มตรง
โดยเกมนี้ ศบค.และ บ.ไทยลีก จะเปิดให้สาวกกระต่ายแก้วเข้าไปฉลองชัยที่สนามได้จำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2,500 คน เป็นครั้งแรกซะด้วย
อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนั้น!!
เป็นอันว่าโฟกัสของบอลไทยลีกในเดือนสุดท้าย จะอยู่ที่การแย่งชิงอันดับ 2 และ 3 เพื่อไปลุยแข้ง “เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2022” รอบเพลย์ออฟในปีหน้า ซึ่งยังมีหลายทีมที่ได้ลุ้นกัน
แต่ตั๋วอีกหนึ่งใบที่จะได้โควตาไปลุยถ้วยใหญ่เอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม เช่นเดียวกับบีจี ถูกชี้เป้าไปที่ศึกลูกหนัง “น็อกเอาต์” เอฟเอ คัพ ที่เพิ่งจับสลากแบ่งสายรอบ 8 ทีมสุดท้ายกันไปเมื่อวันก่อน
ซึ่งผลการประกบคู่ มีดังนี้ “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด หนึ่งเดียวจากไทยลีก 3 ที่หลุดทะลุมาถึงรอบนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
“ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ที่แอบลุ้นถ้วยใบนี้อยู่เหมือนกัน เตรียมทำศึกดาร์บี้แมตช์ภาคตะวันออกกับ ตราด เอฟซี
พลพรรค “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ของ “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน ที่ฟอร์มกำลังขึ้นหม้อ จับไปชน “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี รองแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว
และคู่ “เรียกแขก” ที่เป็นสุดยอดไฮไลต์ระดับพรีเมียมอย่างแท้จริง ก็คือการโคจรมาพบกันของ “คู่รักคู่แค้น” แห่งวงการลูกหนังยุคนี้
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ต้องบุกไปเยือนรังช้างอารีน่าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ซึ่งมือดีที่จับติ้วขึ้นมา ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก “พ่อยอดโค้ชขมองอิ่ม” ของชาวกิเลน มาริโอ ยูรอฟสกี ที่แสดงความปรารถนาว่าอยาก จะเจอกับแข้งเซราะกราวในรอบนี้ซะเหลือเกิน
และก็เป็นอีกครั้งที่เจ้าตัวได้เจอ “ของแข็ง” สมใจอยาก เหมือนรอบที่ผ่านๆมาที่ต้องหักด่านทั้งบีจี และเขี้ยวสมุทร มาแบบสะบักสะบอม
ดังนั้นความมันส์หยดติ๋งจึงบังเกิดล่ะครับทีนี้ ในเมื่อกิเลนที่กำลังห้าวเป้ง จะต้องไปลุยถิ่นเซราะกราวอีกคำรบ
ยิ่งฟอร์มของเจ้าถิ่นตอนนี้กำลังเข้าฝักสุดๆ แถมกุนซือ อเล็กซานเดร กามา ก็รอล้างตา “โค้ชโอ้” อยู่อย่างใจจดใจจ่อ
หลังอดีตลูกทีมเมืองทองเคยบุกไปลูบคมพลิกเอาชนะพวกเค้ามาแล้วในเกมไทยลีกเลกแรก
ว่ากันว่าใครคว้าชัยเข้าไปตัดเชือกได้สำเร็จ โอกาสที่จะก้าวไปชูถ้วยแชมป์ใบนี้มีสูงเลยทีเดียว
โดยรอบก่อนรองชนะเลิศศึกเอฟเอ คัพ จะเตะกันแบบ “โป้งเดียวจอด” ในต้นเดือนหน้า วันเสาร์ที่ 3 เม.ย. ทั้ง 4 คู่ 4 สนาม
ใครเป็นแชมป์รายการนี้จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และสิทธิ์ในการแข่งขัน ACL รอบแบ่งกลุ่ม ในปี 2022 แน่นอน
เอาเป็นว่าระหว่าง “เพื่อนรัมย์” กับ “เพื่อนทอง” สุดท้ายแล้ว ใครจะทาแป้งน้ำ “สมใจนึก”
อีกเดือนเดียวได้รู้กัน!!!
บี บางปะกง