หน้าแรกแกลเลอรี่

ตะลุยฟุตบอลโลก : ลีกไทย...เอาไงกัน?

บี บางปะกง

10 เม.ย. 2563 05:01 น.


ในที่สุดบุคคลในวงการลูกหนังไทยก็ติดเชื้อมหาภัย “โควิด–19” เป็นรายแรกเข้าจนได้!!

โดยอดีตแข้งทีมชาติแห่งสโมสรการท่าเรือฯ “กล้า” คณิต หรือชื่อใหม่ที่เปลี่ยนเป็น จักรเทวัญ อัจฉราโยธิน กลายเป็นผู้โชคร้ายที่เจอแจ็กพอตเข้าเต็มๆ

ก็ได้แต่ภาวนาขอให้คณิตเป็นรายแรกและรายเดียวของแวดวงบอลไทยที่เจอไวรัสร้ายเล่นงาน และขอให้เจ้าตัวหายป่วยโดยเร็ววันด้วยเถิด

ส่วนการประชุมสภากรรมการสมาคมลูกหนังไทย แบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ของท่านนายกฯ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เมื่อวันก่อน ที่ว่าด้วยประเด็นการแก้ปัญหา “โควิด-19

ตกลงก็ยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนนัก!!

โดยเฉพาะมาตรการที่จะหาทางให้ฟุตบอลลีกไทยกลับมาเตะกันอีกครั้ง ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่? กันแน่ หลังคิวเดิมที่สมาคม กำหนดให้คัมแบ็กในวันที่ 2 พ.ค. ดูท่าจะต้องเจอ “โรคเลื่อน” ออกไปเป็นคำรบ 3

เพราะยังไงก็ไม่สอดคล้องกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาล ที่เบื้องต้นจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.หากไม่มีการขยายต่อ

นั่นเท่ากับหากต้องเตะกันจริงๆ แต่ละสโมสรแทบจะไม่มีเวลาเตรียมตัวเลยด้วยซ้ำ เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศอยู่ในตอนนี้ มีการสั่งให้ปิดสนามกีฬาทั่วประเทศ ทำให้นักเตะทุกทีมหมดสิทธ์ิรวมตัวซ้อมกันโดยสิ้นเชิง

ถามว่า แล้วพวกเค้าจะเล่นยังไง? แต่ละทีมจะพร้อมแค่ไหน? ในเมื่อนักบอลทำได้แค่ฟิตร่างกายตัวเองอยู่ที่บ้าน

หรือจะเอาแค่เตะให้มันผ่านๆไปก็คงดูกระไรอยู่ เพราะนี่มัน “ฟุตบอลอาชีพ” นะครับ ไม่ใช่บอลการกุศลซะหน่อย

ความจริงการประชุมเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านสมยศและสภากรรมการน่าจะได้บทสรุปอะไรที่มันเป็นน้ำเป็นเนื้อมากกว่าแนวทางการให้แต่ละสโมสรไปลดค่าเหนื่อย 30–50 เปอร์เซ็นต์

ซึ่งผมว่าจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องภายในที่ทุกทีมเขาต้องไปพิจารณาความเหมาะสมกันเองอยู่แล้ว

ขนาดสมาคมกีฬาฟุตบอลฯของท่านเอง ยังรีบประกาศลดค่าใช้จ่ายขององค์กรโดยการหั่นเงินเดือนบุคลากรของตัวเองไปแล้วตั้งครึ่ง

แล้วสโมสรทั้งหลายเขาจะไม่รู้ตัวเองเลยหรือว่าจะสู้ไหว หรือไม่ไหว กับสถานการณ์ลูกผี ลูกคนอย่างนี้

เอาเป็นว่าชั่วโมงนี้ หน้าที่หลักๆของสมาคมลูกหนัง คือ “ต้องคิดให้เร็ว ทำให้เร็ว”

โดยเฉพาะเรื่องของบอลไทยลีกที่มันเกี่ยวข้องกับ “ประชากรฟุตบอล” บ้านเรา ในหลายภาคส่วนอย่างแท้จริง

ไอ้เรื่องภาพลักษณ์ที่โก้หรู ดูดี หรือ Motto เท่ๆให้สังคมภายนอกได้รับรู้ ซึ่งเป็นงานถนัดของพวกท่าน ก็เพลาๆไว้ก่อนเถอะ

เอาแก่นและหัวใจของคนลูกหนังจริงๆขึ้นมาว่ากันให้เป็นเรื่องเป็นราว จับต้องได้จะดีกว่า

จะเตะเมื่อไหร่ เตะยังไง รายได้และสิทธิประโยชน์ตกลงจะเหลือแบ่งกันได้มากน้อยขนาดไหน

หรือถ้าเกิดมันเล่นกันไม่ได้จริงๆ แล้วจะเอากันอย่างไร ว่ามาให้ชัด ทุกสโมสรเขาจะได้วางแพลนอนาคตตัวเองได้ถูก

ไม่ใช่ประชุมแล้วยังต้องมานั่งรอคำตอบอีกเป็นอาทิตย์ กว่าจะได้คุยอีกทีก็สัปดาห์หน้า

ซึ่งมันดูเหมือนเชื่องช้าเกินไปกับภาวะวิกฤติที่กำลังเผชิญอยู่

ก็หวังว่า อังคารหน้า 14 เม.ย. พวกเราทุกคนคงได้ “คำตอบสุดท้าย” เกี่ยวกับทิศทางบอลลีกไทย

แบบสะเด็ดน้ำเสียที!!!

บี บางปะกง