บี บางปะกง
เมื่อกว่า 20 ปีก่อน ผมได้มีโอกาสเป็นหัวหน้าโค้ชทีมฟุตบอลสโมสรที่เล่นในไทยลีก คือ ทีมสินธนา และ เป็นทีมที่ผมเล่นมาตั้งแต่ฟุตบอล ถ้วย ง ค ข ก (สโมสรแรกและสโมสร เดียวในชีวิต)
อาจจะเพราะผมเป็นนักเตะคนแรกของสโมสร ที่ติดทีมชาติก็ได้ ทางฝ่ายบริหารทีมจึงให้ผมมาเป็นโค้ชในช่วงทีมกำลังจะตกชั้น
ปัญหาการทำงานในสโมสรฟุตบอลอาชีพ ระหว่าง โค้ชกับผู้บริหารทีม นั้น มันมีมานานแล้ว มีทุกยุค ทุกสมัย นั่นแหละครับ เพียงแต่ว่าเรื่องราวดังกล่าวมันจะแพร่สะพัดจากคนวงในออกไปได้มากแค่ไหน เท่านั้นเอง
ในทุกวันนี้ทุกทีมในไทยลีก โดยเฉพาะ T1 มีการลงทุนซื้อนักเตะที่แพงๆลงทุนจ้างโค้ชที่เชื่อว่าจะนำทีมตัวเองประสบความสำเร็จ เข้ามาในทีมให้มากที่สุด เพียงหวังผล คือ แชมป์ เท่านั้น จะได้เป็นการล่อเหล่าสปอนเซอร์ต่างๆ เข้ามาสนับสนุนทีมได้ง่ายที่สุด
แต่พอผลงานมันไม่ได้ดังที่คิดเอาไว้ คนแรกที่โดนเพ่งเล็งคือโค้ช ดังนั้น ทำไมโค้ชเขาถึงขอทำงานอย่างอิสระ ไม่อยากให้ใครเข้ามาก้าวก่ายนั่นเอง
ส่วนทางผู้บริหารทีม เมื่อผลงานทีมไม่ดี ก็อยากจะเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงทีมบางส่วน
ซึ่งวิธีการเช่นนี้ ก็มักจะเรียกว่า “การแทรกแซง”
แต่โค้ชคนไหนอดทนได้ รับได้ หรืออาจจะรับไม่ได้ แต่ก็ต้องอดทน เพราะมองถึงรายได้มากมายที่ได้รับ โค้ชคนนั้นก็อยู่กับทีมได้นาน
แต่จริงๆแล้ว โค้ชที่มีฝีมือแล้ว (ทั่วโลก) เขาก็จะถอยออกไปเอง โดยไม่กล่าวอะไร เพียงบอกว่า “จากกันด้วยดี” ทั้งนั้นแหละครับ
ถ้าให้มองถึงการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก ไม่ว่าโค้ชจะได้ไปทำทีมใหม่ หรือสโมสรฟุตบอลได้จ้างโค้ชคนใหม่เข้ามาในทีมทั้งสองฝ่ายต้องคุยกันให้ชัดเจนก่อนว่า
จะทำงานกันแบบไหน หน้าที่ บทบาท ของแต่ละคน ต้องเป็นยังไง ก่อนที่จะรับงาน
ทางผู้บริหารทีมก็ต้องคุย บทบาทของตัวเองที่จะมีต่อโค้ชที่จ้างมาใหม่ อย่างไรบ้าง รับกันได้ทั้งสองฝ่ายไหม แล้วค่อยตกลงเซ็นสัญญากัน
แต่ทุกวันนี้ มันไม่ได้เป็นเช่นนี้ไง โค้ชเองพอโดนชักชวนหน่อย ยังไม่รู้รายละเอียดมากก็รีบรับปากเลย เพราะกลัวไม่ได้ทำงาน (ตกงานมานาน)
ทางฝ่ายผู้บริหารทีมเอง ก็รีบหาโค้ช เพราะต้องการให้ทีมดำเนินต่อ ทุกอย่างมันเลยเป็นการตกลงกันแบบรวดเร็วเกินไป นั่นเอง ปัญหาในทีม มันก็เลยเกิดขึ้นมา
ทีมแล้ว ทีมเล่า ตั้งแต่อดีต มาจนถึงปัจจุบัน และเชื่อว่าในอนาคตก็จะมีแบบนี้อีกหลายทีม...อย่างแน่นอน
ไม่มีโค้ชคนไหนบอกสื่อก่อนการแข่งขันว่า แมตช์นี้ผู้บริหารทีมเป็นคนจัดการ โค้ชไม่ได้จัดตัวนะครับ ไม่มีโค้ชคนไหนกล้าพูดแบบนี้
แต่แฟนบอล รู้ไหม? พอผลมันออกมาไม่ดี คนที่โดนคนแรก คือโค้ชที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบลาออกไป...ในที่สุดนั่นเอง
อ.สมบัติ ลีกำเนิดไทย
ooooooo
มุมมองของคนที่เคยเป็น “โค้ชอาชีพ” มาก่อนในไทยลีก
บ่งบอกถึงสิ่งที่เห็นและเป็นไปในวงการลูกหนังไทย...ตั้งแต่อดีตยันจนถึงปัจจุบัน
อย่างตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว
รักจะมีความสุขกับฟุตบอลลีกแบบไทยๆ
“โค้ช” กับ “ผู้บริหารทีม” รวมถึงประดา “แฟนบอล” ทั้งหลาย
ต้องอยู่อย่างเข้าใจครับ!!!
บี บางปะกง