เรียงหน้าชน : วาเลนไทน์

(ภาพ) วิมล กาญจนะ

ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาลใหม่ใกล้จะเปิดสนามกันแล้ว ในสัปดาห์หน้า โดยออกสตาร์ตกันในวันวาเลนไทน์ 14 ก.พ. การคิกออฟตรงกับวันแห่งความรักนี้ ในอดีต ฟุตบอลดิวิชัน 2 หรือลีกภูมิภาค

ขณะนั้น ซึ่งมีประธานชื่อ วิมล กาญจนะ ได้ล็อกเอาวันนี้จัดเตะเปิดก่อนไทยพรีเมียร์ลีก หรือไทยลีก 1 ในยุคปัจจุบัน
เหตุผลหนึ่งที่ลีกภูมิภาคในอดีตต้องเตะก่อน ก็เนื่องจากมีทีมมาก เตะกันสนุกสนาน เป็นที่ถูกอกถูกใจของแฟนบอลตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งบรรยากาศเช่นนั้นไม่ได้เห็นกันแล้วในวันนี้

กลับมาปัจจุบัน ไทยลีกที่มีโปรแกรมเตะวันศุกร์ 1 นัด เลยออกสตาร์ตกันในวันศุกร์ ก็ตรงกับ 14 ก.พ.นี้ ประเดิมด้วยคู่แรก แชมป์เก่า เชียงราย ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน สมุทรปราการ ซิตี้ ก่อนที่ทีมอื่นๆจะได้เล่นนัดแรกกันในวันเสาร์และอาทิตย์

ก็เชื่อว่าแฟนบอลทั้งหลายที่ได้พักเชียร์กันไปในช่วงปิดลีก จะกลับมาลุ้นทีมรักของตัวเองกันต่อ ซึ่งแต่ละสโมสรก็ปรับแต่งทีมกันเต็มที่ตามแต่ทุนทรัพย์ที่มี น่าจะเป็นปีที่สนุกกันอีกแน่นอน

และในฤดูกาลนี้ซึ่งถือเป็นปีสุดท้ายในลิขสิทธิ์ไทยลีกที่เซ็นกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในแบบขั้นบันได ตั้งแต่ปี 2017-2020 เรียงลำดับกันก็ 900 ล้านบาท/1,000 ล้านบาท/1,100 ล้านบาท และ 1,200 ล้านบาท เท่ากับว่าปีนี้มีเงินก้อนโตที่สุดให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้ใช้จ่ายถึง 1,200 ล้านบาท!

นี่เฉพาะเงินก้อนนี้ที่ได้มาจากการมีสโมสรสมาชิกต่างเป็นผู้แสดง เป็นผู้สร้างความสนุก ความมัน และเป็นที่นิยมให้แฟนบอล ยังไม่ได้คิดถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯที่มีอีกมากมายมหาศาล

ตามหลักแล้วเมื่อเงินปีนี้มากกว่าปีก่อน ก็น่าจะยิ่งทำให้สโมสรต่างๆคึกคัก และส่งผ่านถึงความสนุกเร้าใจที่มากขึ้นตามไปด้วย ทีมต่างๆคงจะแฮปปี้กันถ้วนหน้า!!!

14 ก.พ.วันเปิดลีกปีนี้ ยังนับว่ามีความพิเศษกว่าปีก่อนๆด้วยจะเป็นวันหลังการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯในวงรอบใหม่เพียง 2 วัน

ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกัน 2 กลุ่ม ภายใต้การนำของเจ้าของตำแหน่งเดิม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และผู้ท้าชิง ดร.ภิญโญ นิโรจน์ คนฟุตบอลขนานแท้จาก จ.นครสวรรค์

แน่นอนการเลือกตั้งไม่ว่าครั้งใด คนเก่าย่อมได้เปรียบ ได้เปรียบเพราะบริหารงานบริหารเงินอยู่กับมือ ยิ่งมีการปรับเปลี่ยนระเบียบข้อบังคับกันมา ก็แก้มากับมือ องคาพยพในการจัดการเลือกตั้งต่างๆ ก็เป็นคนของสมาคม ถ้าไม่บอกว่าได้เปรียบก็คงต้องโกหกกันแล้ว

เพียงแต่ความได้เปรียบนั้น จะมัดมือมัดใจต่อเจ้าของเสียงได้หรือไม่เท่านั้น!

คนที่จะมานั่งดูฟุตบอลไทยลีกในฐานะ ประธาน นัดเปิดสนามในวันที่ 14 ก.พ.นี้ จะเป็นใคร!!!

คนคนนั้นจะมาบริหารเงินจากลิขสิทธิ์ไทยลีกปีสุดท้ายจำนวน 1,200 ล้านบาท ก่อนที่จะเซ็นสัญญาใหม่ ในวงรอบใหม่
จะเป็นคนเดิมที่สโมสรสมาชิกได้มีโอกาสสัมผัสคุ้นเคย รู้นิสัย รู้พฤติกรรม เห็นผล เห็นงาน เห็นการจัดสรรประโยชน์ต่างๆให้กับสโมสรสมาชิกมาตลอดเวลาร่วมๆ 4 ปี หรือจะเป็นคนใหม่ ความหวังใหม่ โอกาสใหม่

อันนี้ก็แล้วแต่ต้นทุนของแต่ละสโมสรเจ้าของเสียง ว่าชอบอย่างเก่า หรือจะหวังจากคนใหม่ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าแต่ละสโมสรเอง

14 ก.พ. วันวาเลนไทน์จะเห็นใครในสนามสมุทรปราการ...

“เบี้ยหงาย”